ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"ครูมานิตย์" พรรคเพื่อไทย วอนงบปี 68 ขอเพิ่มค่าตอบแทน "แพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข" ชี้ปัญหาถ่ายโอนรพ.สต. ท้องถิ่นเหมือน "เตี้ยอุ้มค่อม" ถ่ายโอนไปแล้วขอกลับมาไม่ได้  ฝากคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ถกปัญหาเหล่านี้ด้วย

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย  ร่วมอภิปรายพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในวาระ 2 - 3 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 22 เป็นพิเศษ

ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขถือว่ามีความจำเป็นของทุกประเทศ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ มีงบประมาณน้อย งบประมาณขาดทุนทุนทุกปี คนเสียภาษีมีจำนวนน้อย แต่ความจำเป็นมากกว่า ซึ่งในการแก้ไขปัญหาต้องใช้งบประมาณ  นอกจากนี้ยังมีเรื่องของเงินเดือน ซึ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ฉะนั้นกระทรวงสาธารณสุขมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่บังเอิญประเทศไทยโชคดีที่ผ่านมา เรามี นายกฯเศรษฐา ทวีสิน มีอดีตรมว.สธ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายกฯแพทองธาร ชินวัตร และ รมว.สธ.สมศักดิ์ เทพสุทิน 

บุคลากรเหล่านี้ล้วนแต่ให้ความสำคัญกับเรื่องของมนุษย์และคน แต่ด้วยปัจจัยของงบประมาณจริงๆ อย่างท่าน รมว.สธ.สมศักดิ์ ท่านยังอยากทำเรื่อง พรบ.อสม. เพื่อให้อสม.เกิดความมั่นคงในชีวิตไม่ใช่เป็นอาสาสมัครอย่างเดียวโดยที่เมื่อเสียชีวิตขึ้นมาได้แต่เงินฌาปนกิจฯ 5 แสนกว่าบาท และจะเห็นได้ว่าช่วงโควิดกลุ่มคนเหล่านี้เข้ามาช่วยประเทศดูแลคนป่วยจนปลอดโควิดไปเยอะ 

"ทุกครั้งที่ตนไปโรงพยาบาลต่างจังหวัด หลายคนมาเล่าปัญหาทั้งเรื่องบุคลากรไม่พอ พนักงานราชการที่เป็นพยาบาลเรียนจบแล้วไม่ได้รับการบรรจุให้เป็นข้าราชการ นี่คือปัญหาทั้งหมด ไม่ทราบว่ากรรมาธิการได้คุยกันบ้างหรือไม่. ถ้าไม่คุยกันสมัยนี้ในปีหน้าอยากให้หยิบยกปัญหามา โดยเฉพาะอสม.ตอนนี้เป็นผู้ช่วยพยาบาลอย่างดีเยี่ยม ไปเอายามาจ่ายตามหลังคาบ้าน แต่ยังขาดเครื่องมือวัดความดัน เครื่องมือช่างน้ำหนัก เครื่องมืออุปกรณ์เบื้องต้น ฉะนั้นสังคมไทยวันนี้ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพจิตเพราะความเจ็บป่วย เพราะสุขภาพจิตที่ดีได้ต้องมีร่างกายที่แข็งแรง ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงสุขภาพจิตก็ไม่ดีไปด้วย ฉะนั้นปัญหาพื้นฐานของกระทรวงสาธารณสุขเริ่มก่อนกระทรวงอื่นๆ" 

อยากฝากรัฐบาลในปีหน้าถ้าเป็นไปได้ ในกระทรวงสาธารณสุขต้องเพิ่มเงินเดือนให้บุคลากร โดยเฉพาะ พยาบาลเวร พนักงานเปล ต้องเพิ่มเงินเดือนให้ด้วย

ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม กล่าวต่อว่า ยิ่งปัญหาตอนนี้ยังมีเรื่องการถ่ายโอน กระทรวงสาธารณสุข ไป กระทรวงมหาดไทย ก็ยังมีปัญหาคือ ถ่ายโอนไปแล้วใน 2-3 เดือนแรก ก็โอเคหลังจากนั้นมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ท้องถิ่นก็เตี้ยอุ้มค่อมจะเอากลับมาคืนก็กลับมาไม่ได้ หรือที่ถ่ายโอนไปในบางจังหวัดก็ถ่ายโอนไม่หมด ถ่ายโอนเพียงบางแห่ง บางแห่งไม่ถ่ายโอน 

"สิ่งเหล่านี้เราอาจจะมองว่าเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่กระทรวงสาธารณสุขที่เป็นกระทรวงที่ต้องดูแลคนตั้งแต่เกิดจนถึงวันตาย ฉะนั้นปัญหาของหมอ ปัญหาของพยาบาล ปัญหาของเจ้าหน้าที่ ปัญหาของอสม.  เป็นปัญหาที่เห็นใจมาก ไปโรงพยาบาลแต่ละครั้งเห็นพยาบาลส่งเสียงดังขึ้นมา ก็เห็นใจ ที่เขาต้องอยู่กับคนป่วยใครบ้างอยากอยู่กับคนป่วย แม้กระทั่งพ่อแม่เราที่ป่วยยังไม่อยากอยู่ใกล้ แต่เราจำเป็นเพราะเป็นวัฒนธรรมและประเพณี"

แต่พยาบาลไม่ใช่ญาติญาติเราแต่เค้าจำใจจำเป็นถ้าเค้ามีขวัญกำลังใจที่ดีผมเชื่อว่าบุคลากรที่มีส่วนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขก็จะสร้างพลังในการทำงานทั้งทั้งที่วันนี้ก็มีปัญหาเยอะแต่ก็ก็ยังมีขวัญกำลังใจที่จะทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง

"อยากฝากกรรมาธิการ ถ้าเกิดในสมัยนี้ยังไม่ได้พูดกันในเรื่องราวเหล่านี้ ไปพูดแต่โครงสร้างใหญ่ๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ตนลุกขึ้นมาอภิปรายเพื่อฝากท่านรัฐมนตรีไว้ เพื่อเพื่อนในสภาแห่งนี้ได้ฟัง เพื่อวันข้างหน้าไปเป็นกรรมาธิการอาจจะหยิบยกปัญหาเหล่านี้ แต่เข้าใจว่าด้วยงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด ทุกกระทรวง ทบวง กรม  แต่กระทรวงสาธารณสุขอยู่กับชาวบ้านตั้งแต่เกิดจนตายจริงๆ  ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องมาอาศัยกระทรวงสาธารณสุข" ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม กล่าวทิ้งท้าย