โรงพยาบาลพระรามเก้า ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อกรณีเภสัชกรเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย พร้อมยืนยันจะดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกายและใจของบุคลากรทุกคน

วานนี้ 30 ต.ค. กลายเป็นข่าวเศร้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อเพจใต้เตียงมข. โพสต์อาลัยเภสัชกรหนุ่มศิษย์เก่ามข. จบชีวิตตัวเอง เหตุกดดันหนักเจอที่ทำงานเป็นพิษ

ล่าสุด 31 ต.ค. โรงพยาบาลพระรามเก้าแถลงการณ์ เรื่อง ขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของบุคลากรในโรงพยาบาลพระรามเก้า โดยระบุว่า โรงพยาบาลพระรามเก้าขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่าในองค์กรและขอเป็นกําลังใจให้ครอบครัวในช่วงเวลาที่ยากลําบากนี้ทันทีที่โรงพยาบาลฯ ทราบถึงเหตุการณ์ คณะผู้บริหารและบุคลากรที๋เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ ดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และได้ติดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตเพื่อแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ โดยยืนยันถึงความรับผิดชอบและความมุ่งมั่นในการดําเนินการให้เป็นไปอย่าง ยุติธรรมในทุกขั้นตอน

การออกแถลงการณ์ครั้งนี้ล่าช้า เนื่องจากทางองค์กรจําเป็นต้องทําการรวบรวมข้อมูลที่มีความ ละเอียดอ่อน (Sensitive) อย่างรอบคอบ อีกทั้งยังต้องคํานึงถึงจิตใจของครอบครัวและญาติ ผู้เสียชีวิต เพื่อให้แน่ใจว่าแถลงการณ์นี้จะสะท้อนถึงความห่วงใยและการเคารพต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างแท้จริงโรงพยาบาลฯ มีความยินดีที่จะดูแลและสนับสนุนครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ รวมถึงการดูแล และให้กําลังใจบุคลากรทุกคนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและใจให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังขอเน้นย้ําให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานด้วยความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) เพื่อให้การ ดูแลซึ่งกันและกันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จํากัด (มหาชน)

 

 

โดยเพจใต้เตียงมข. โพสต์อาลัยเภสัชกรหนุ่มศิษย์เก่ามข. จบชีวิตตัวเอง เหตุกดดันหนักเจอที่ทำงานเป็นพิษ โดยระบุข้อความว่า เศร้าสลด! เภสัชกรหนุ่ม ศิษย์เก่า มข. และอดีตพี่เลี้ยงน้องใหม่ ตัดสินใจลาโลก หลังเผชิญแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษ

ข่าวเศร้าจากวงการเภสัชกร เมื่อเภสัชกรหนุ่ม ศิษย์เก่า มข. และอดีตพี่เลี้ยงน้องใหม่ ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง หลังต้องเผชิญกับความกดดันและความเป็นพิษในที่ทำงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาจนทนไม่ไหว ในข้อความสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ เขาได้กล่าวถึงความเหนื่อยล้าจากการทำงานที่ไม่ได้รับความเข้าใจและการสนับสนุนที่ดีจากหัวหน้างาน รวมถึงการถูกกดดันให้ลาออกอย่างไม่เป็นธรรม

เรื่องราวของเขาทำให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพจิตในที่ทำงาน และชี้ให้เห็นว่าการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษอาจส่งผลร้ายแรงต่อสภาพจิตใจของพนักงาน การจากไปของเขาเป็นเสียงเตือนให้ผู้ที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้างานต้องกลับมาทบทวนถึงการกระทำของตนเอง ว่าการปฏิบัติต่อลูกน้องในลักษณะที่กดดันหรือไม่ให้การสนับสนุนที่เพียงพอนั้น อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าเศร้าและไม่ควรเกิดขึ้น

เพื่อนและคนรู้จักของเขาต่างสะเทือนใจและเสียใจกับการจากไปครั้งนี้ หลายคนมองว่าเขาเป็นคนมีจิตใจดี สดใส และเป็นที่รักของเพื่อนๆ ซึ่งสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษได้ทำให้เขาต้องสูญเสียพลังใจในการดำเนินชีวิต เหตุการณ์นี้เป็นการเตือนให้สังคมให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของพนักงานในองค์กร และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เข้าใจและสนับสนุนจิตใจของคนในทีม เพื่อลดการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต

นอกจากนี้ กรณีของเภสัชกรหนุ่มยังทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ หลายคนตั้งคำถามถึงบทบาทของหัวหน้างานในการดูแลจิตใจของพนักงาน และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการบริหารจัดการในองค์กร โดยเฉพาะการสนับสนุนทางจิตใจที่หัวหน้างานควรมอบให้แก่ลูกน้อง หลายความคิดเห็นแสดงความเห็นตรงกันว่า การพูดคุยอย่างสร้างสรรค์และการรับฟังเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะอาจเป็นสิ่งเล็กๆ ที่สามารถช่วยให้ผู้ที่กำลังเผชิญกับความเครียดและปัญหาต่างๆ ก้าวข้ามสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิตได้ชี้ว่า การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษหรือ “toxic workplace” เป็นปัญหาที่น่ากังวล และหากองค์กรไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความสุขและความผ่อนคลายของพนักงานแล้ว อาจเกิดปัญหาทั้งในด้านสุขภาพจิตและการทำงานได้ รวมถึงการขาดแคลนพนักงานในอนาคตจากการที่พนักงานตัดสินใจลาออกเพราะทนไม่ไหว

กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและวิธีการทำงานในองค์กร เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทั้งทางกายและจิตใจ การที่พนักงานรู้สึกได้รับการสนับสนุนและได้รับการเคารพจากหัวหน้างานจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจและความมั่นใจในการทำงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้คนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากขึ้น

ท้ายที่สุด การจากไปของเภสัชกรหนุ่ม ได้เตือนใจทุกคนให้เห็นถึงความสำคัญของการใส่ใจในจิตใจของเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม และเป็นการเรียกร้องให้เรามีความเมตตาและเข้าใจผู้อื่นในทุกๆ สถานการณ์ เพราะบางครั้งคำพูดหรือการกระทำเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนอื่นได้อย่างคาดไม่ถึง