“สไมล์ซีซัน” คลินิกทันตกรรมเข้าร่วม “30 บาทรักษาทุกที่” เผย ยอด 2 เดือนล่าสุด มีผู้ป่วยบัตรทองใช้บริการแล้วราว 2,500 ครั้ง เฉลี่ย 20-30 รายต่อวัน ใน 2 สาขาที่ให้บริการ ระบุ เสียงตอบรับของประชาชนดี เพราะสะดวก-ไม่ต้องรอคิว เสนอ ควรเพิ่มบริการ ‘ทำฟันเทียม’ ให้ผู้สูงอายุที่คลินิก

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2567 ทพ.ธนิตย์ วนิชนพรัตน์ ผู้บริหารคลินิกทันตกรรมสไมล์ซีซัน (Smile Seasons)  เปิดเผยว่า คลินิกทันตกรรมสไมล์ซีซันเข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่มาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 เนื่องจากเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่คลินิกทันตกรรมเอกชนจะได้แบ่งเบาภาระโรงพยาบาลรัฐ เพื่อทันตแพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาลจะมีเวลาดูแลผู้ป่วยที่มีความซับซ้อนของโรคทางช่องปาก หรือให้การรักษาที่มีความเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงผู้ป่วยก็สามารถเข้ารับบริการทันตกรรมพื้นฐานตามสิทธิหลักประกันสุขภพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ได้อย่างสะดวกเพิ่มขึ้น
 
สำหรับบริการทันตกรรมในระบบบัตรทองที่คลินิกทันตกรรมมี 6 รายการ ได้แก่ 1.ตรวจสุขภาพช่องปาก 2.ขูดหินปูน 3.อุดฟัน 4.ถอนฟัน 5.เคลือบหลุมร่องฟัน และ 6.เคลือบฟลูออไรด์ โดยผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการได้คนละ 3 ครั้งต่อปี หากใช้สิทธิครบแล้วผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลตามสิทธิ ส่วนกรณีผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาเฉพาะทาง ทางคลินิกฯ สามารถออกใบส่งตัวเพื่อส่งต่อการรักษาได้ 

อย่างไรก็ดี คลินิกทันตกรรมสไมล์ซีซันจะเปิดให้บริการผู้ป่วยสิทธิบัตรทองฯ ในสาขาสนามเป้า และเซนทรัลเวสต์วิลล์เป็นหลัก ซึ่งจากที่เปิดให้บริการช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาใน 2 สาขา พบว่ามีผู้มีสิทธิบัตรทองเข้ารับบริการเกือบ 2,500 ครั้ง หรือเฉลี่ยวันละ 20-30 ราย 

“ขั้นตอนการใช้สิทธิ เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว หรือถ้าเป็นเด็กที่ไม่มีบัตรประชาชนก็ใช้สูติบัตรแทนได้ มองหาคลินิกทันตกรรมที่มีป้ายคลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น และสติ๊กเกอร์ 30 บาทรักษาทุกที่ จากนั้นก็สามารถ Walk-in เข้ามาที่คลินิก หรือโทรนัดล่วงหน้าได้” ทพ.ธนิตย์ กล่าว 

ทพ.ธนิตย์ กล่าวว่า จากการดำเนินการได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนว่าดีใจที่รัฐบาล หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้คลินิกทันตกรรมเอกชนมาร่วมนโยบาย เพราะทำให้ประชาชนได้รับบริการทันตกรรมฟื้นฐาน ไม่ต้องรอคิวที่โรงพยาบาล รวมถึงยังมีเสียงตอบรับที่อยากให้โครงการนี้อยู่ต่อไป
 
อย่างไรก็ดี หากมองในแง่ธุรกิจ สาเหตุที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการบอกต่อคนรอบข้างของผู้รับบริการ เพราะมีความสะดวก และไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนค่าตอบแทนที่ได้จาก สปสช. ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ซึ่งคลินิกจะได้รับการชดเชยในการบริการไม่เกิน 1 สัปดาห์ แม้ว่าเงินที่ได้อาจไม่ครอบคลุมต้นทุน หรือวัสดุที่ใช้ในการรักษา แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และเป็นโอกาสที่คลินิกฯ จะได้ผู้ป่วยรายใหม่ด้วยเช่นกัน 

 
“อยากเชิญชวนคลินิกฯ มาร่วมสนับสนุนโครงการนี้ โดยช่วยรัฐและประชาชนให้เข้าถึงสิทธิการรักษาทางทันตกรรมได้ง่ายขึ้น ถือว่าเป็นการช่วยป้องกันโรคให้กับคนไข้ และลดความรุนแรงของโรคที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนประชาชนที่มีสิทธิ 30 บาท อยากให้มาใช้มากขึ้น เป็นการดูแลสุขภาพปาก ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย” ทพ.ธนิตย์ ระบุ 

ทพ.ธนิตย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากนี้อยากเสนอให้เพิ่มบริการทำฟันเทียมในผู้สูงอายุที่คลินิกทันตกรรมเอกชน เนื่องจากปัจจุบันผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายทำฟันเทียมค่อนข้างสูง หากต้องไปใช้บริการที่โรงพยาบาลตามสิทธิก็อาจจะต้องรอคิวนาน ฉะนั้นหากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาล หรือ สปสช. สนับสนุนโครงการฟันเทียมของผู้สูงอายุมากขึ้น 

ด้าน น.ส.ปุณยวีร์ ประยูรวงศ์ อายุ 43 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว กล่าวว่า ทราบว่าสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารับบริการทันตกรรมที่คลินิกเอกชนได้จากสื่อโซเชียลมีเดีย ช่วงแรกคิดว่าอ่านผิด เนื่องจากคลินิกเอกชนจะรับเฉพาะผู้ป่วยประกันสังคม แต่เมื่อดูรายละเอียดเห็นว่าบัตรทองก็ใช้บริการได้ จึงติดต่อมายังคลินิกทันตกรรมสไมล์ซีซันเพื่อยืนยันอีกครั้งและนัดหมาย เข้ามารับบริการ อย่างไรก็ดีปีนี้เป็นปีแรกที่เข้ารับบริการทันตกรรมบัตรทอง เดิมเป็นสิทธิประกันสังคม และทราบข้อมูลว่าหากจะต้องการรับบริการทันตกรรมโดยใช้สิทธิบัตรทอง จะต้องไปที่โรงพยาบาลรัฐที่รอคิวนาน แต่เมื่อเข้ามาใช้บริการที่คลินิกก็พบว่ามีความสะดวก และรวดเร็ว และประหยัดเวลา 

น.ส.ปุณยวีร์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวมองว่าการที่รัฐบาล และคลินิกเอกชนร่วมกันสนับสนุนสิทธิบัตรทองให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการนั้นเป็นเรื่องที่ดี ช่วยประหยัดเวลา เพราะคลินิกมีหลายแห่ง ทำให้ไม่ต้องไปรับบริการที่เดียว ส่งผลทันตแพทย์ที่โรงพยาบาลไม่ต้องเหนื่อย รวมถึงประชาชนเองก็ไม่ต้องเหนื่อยในการรอคอยด้วยเช่นกัน

“ครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิบัตรทองทำฟันครั้งแรก และที่คลินิกทันตกรรมเอกชนด้วย มีความสะดวกมาก แล้วพนักงาน มีการบริการที่ดีมากๆ ต้องขอบคุณทางรัฐบาลที่ผลักดันให้คลินิกเอกชนร่วมให้บริการผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง  ช่วยประชาชนได้ค่อนข้างมาก ประหยัดเวลา แล้วก็เรื่องของการเข้าถึงการทำทันตกรรมได้มากขึ้น” น.ส.ปุณยวีร์ กล่าว