ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สภาเภสัชกรรม เผย เภสัชกรขาดแคลน!  ระบุ มีเภสัชกรในรพ.รัฐ-ร้านยาเพียง 24,000 คน  ตั้งเป้าปี 2577 มีเภสัชกร 34,000 คน ต่อจำนวนประชากร 1: 2,000 คน ดังนั้นจึงยังขาดแคลนเภสัชกรอยู่อีก 10,000 คน

ตามที่มีการนำเสนอข้อมูลในข่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่าบุคลากรทางการแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุข “…มีจำนวนเภสัชกรเพียงพอ อาจมีมากเกินแล้ว....” นั้น สภาเภสัชกรรม ขอเรียนให้พี่น้องเภสัชกรทุกท่านทราบว่า สภาเภสัชกรรมได้ดำเนินการชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้กับบุคคลและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

18 มิถุนายน 2567  รองศาสตราจารย์พิเศษ เภสัชกรกิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม ได้ไปพบรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่รับผิดชอบเรื่องกำลังคน และ ผู้อำนวยการกองแผนงานและยุทธศาสตร์ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับจำนวนเภสัชกร ซึ่งทางผู้เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุขจะแก้ไขข้อมูลใหม่ให้ถูกต้อง พร้อมทั้งส่งหนังสือเป็นทางการไปภายในวันเดียวกัน

18 มิถุนายน 2567  สภาเภสัชกรรมส่งหนังสือไปยังผู้อำนวยการกองแผนงานและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแจ้งข้อมูลประกอบการกำหนดค่าเป้าหมายยุทธศาสตร์การปฏิรูปกำลังคนและภารกิจบริการด้านสาธารณสุขในภาพรวมทั้งระบบ ระยะ ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๗-๒๕๗๗) ของวิชาชีพเภสัชกรรม โดยให้ข้อมูลโดยสรุปดังนี้

การสรุปตัวเลขเภสัชกรในภาคบริการ (โรงพยาบาลและร้านยา) ว่ามี 48,000 คน โดยคิดจากจำนวนเภสัชกรที่ขึ้นทะเบียนฯ ทั้งหมดนั้น คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากเภสัชกรมีการกระจายตัวทำงานในสาขาต่างๆหลายสาขา ซึ่งต่างจากวิชาชีพทางสาธารณสุขอื่นๆ  ในขณะที่ตัวเลขเภสัชกรในภาคบริการ (โรงพยาบาลและร้านยา) แท้จริงมีเพียงประมาณ 24,000 คนเท่านั้น  เมื่อมีการกำหนดเป้าหมายเภสัชกรภาคบริการ ต่อจำนวนประชากรไว้ 1: 2000 คน  จะต้องมีจำนวนเภสัชกรในภาคบริการจำนวน 34,000 คน  ในปี  2577  ดังนั้นจึงยังขาดแคลนเภสัชกรอยู่อีก 10,000 คน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีการยืนยันทั้งจากท่านที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข สภาเภสัชกรรม และ กองบริหารการสาธารณสุข (กบรส.)

21 มิถุนายน 2567 สภาเภสัชกรรมได้ชี้แจงข้อมูลในเบื้องต้นกับสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลที่คลาดเคลื่อนดังกล่าวแล้ว และได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับความต้องการกำลังเภสัชกรในภาคบริการ (โรงพยาบาลและร้านยา) เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจในวงกว้างอีกทางหนึ่งด้วย

ท้ายนี้ สภาเภสัชกรรม ใคร่ขอเรียนเพื่อสมาชิกสภาเภสัชกรรมทุกท่านที่มีความห่วงใยในกรณีนี้ว่า สภาฯได้ดำเนินการทุกด้านด้วยความรอบคอบ พร้อมมีหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ขอให้เภสัชกรทุกท่านเชื่อมั่นในสภาเภสัชกรรม ร่วมกำลังใจและร่วมกันผลักดันวิชาชีพเภสัชกรรมที่รักยิ่งของพวกเราให้ก้าวหน้า มั่นคงสืบไป