ส.ส.ก้าวไกล อภิปรายประชุมสภาฯ จวกระบบ สปสช. ขั้นตอนเรียกร้องชดเชยเยียวยาผู้รับผลกระทบวัคซีนโควิด หลายขั้นตอน ทำหลายคนเสียโอกาส ต้องหาหลักฐานพิสูจน์เอง ด้านเลขาฯสปสช.รับเรื่องพร้อมนำไปพิจารณาให้ลงตัวทั้งประชาชน และกฎหมาย

 

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 20 เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา นายเกียรติคุณ ต้นยาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นนทบุรี พรรคก้าวไกล อภิปรายซักถามกรณี มาตรา 50(5) พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี ในการแบ่ง 3 ระดับชดใช้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด19 เบื้องต้นอาการบาดเจ็บได้รับ 1 แสนบาท หากทุพพลภาพสูญเสียอวัยวะ 2.4 แสนบาท และหากเสียชีวิตได้รับ 4 แสนบาท

“เงินหลักแสนต้นๆ เยียวยาครอบครัวที่เสียชีวิตได้หรือไม่ พวกเขาผิดหรือไม่ที่ไปฉีดวัคซีนและได้รับผลกระทบ ผมพาครอบครัว ญาติผู้รับผลกระทบไปร้องเรียนที่สสจ.นนทบุรี การกรอกเอกสารร้องเรียนง่ายมาก แต่ปัญหาคือ หลายคนยังติดเตียง สูญเสียอวัยวะ แต่บางคนเจ็บป่วย 1 แสน แต่ต้องอุทธรณ์หลายครั้ง กว่าจะได้กลายเป็น 4 แสน เพราะตายระหว่างอุทธรณ์ นี่คือระบบที่หลายขั้นตอนมาก สปสช.ควรพิจารณาโดยเร็ว ทำไมต้องให้ผู้เสียหายไปหาหลักฐานมาพิสูจน์เอง อย่างกรณีตาล้วนเสียชีวิต ถ้าหลานไม่ถ่ายรูปส่งให้ที่บ้านว่า ยังไม่กลับเพราะรอคิวฉีดวัคซีน คงไม่มีหลักฐานไปเรียกเงินชดเชย” นายเกียรติคุณ กล่าว

นายเกียรติคุณ กล่าวอีกว่า หากมีเวลาอยากให้ สปสช.ไปดูรพ.บางบัวทอง2 กำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็น รพ.พิมลราช ซึ่ง หากสปสช.ลงไปดูรพ.จะทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และขอเซฟผอ.รพ. และบุคลากรทุกคน อย่าให้มีผลกระทบจากการอภิปรายครั้งนี้ของตนเลย

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พร้อมรับเรื่องและจะไปศึกษาว่าจะสามารถสร้างความสมดุลระหว่างกฎหมายและประชาชนให้สังคมรับได้ต่อไป