ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สาธารณสุข เผยภาระงาน อสม.หนัก! ขอ สส.-สว. รับร่าง พ.ร.บ.อสม. ออกเป็นกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา ก.คลัง มีเรื่องตั้งกองทุนเพื่อความมั่นคง ชูแหล่งงบจากการลดโรคเอ็นซีดีของ สปสช. คาดจะเป็นของขวัญ อสม.ในอีก 1 ปี ส่วนดึงเงินกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ มาใช้ก่อนเสียชีวิตผ่านการกู้  อายุน้อยอาจให้กู้ 1 แสน อายุมากกู้ได้ 2-3 แสน แต่ยังต้องหารือในรายละเอียด

 

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 31(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ตอบกระทู้ถามสด น.ส.ชนก จันทาทอง  ถึงความคืบหน้ากฎหมาย อสม. ว่า ร่างพ.ร.บ.นี้ได้ผ่านการแสดงความคิดเห็นแล้วตั้งแต่ 27 มิ.ย.-11 ก.ค.2567 มีคนแสดงความคิดเห็นกว่า 346,834 คน เห็นด้วยกว่า 88.55% ขณะนี้กฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารกองทุนหมุนเวียน มีรมว.กระทรวงการคลังเป็นประธาน เนื่องจากมีเรื่องการจัดตั้งกองทุน อสม. ต้องให้คณะกรรมการเสนอความเห็นก่อนเข้า ครม.

ขณะนี้กระทรวงการคลังรับทราบแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือรายละเอียดระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการคลัง คาดว่าจะจบลงในเร็ววันนี้ และกระทรวงสาธารณสุข กำลังเร่งจัดทำร่างกฎหมายรอง มี 12 ฉบับโดยประมาณ เป็นการปรับปรุงฉบับเดิม 6 ฉบับ และเนื้อหาใหม่อีก 6 ฉบับ

“คาดว่า กฎหมายฉบับนี้ จะเป็นของขวัญให้อสม.นับจากวันนี้ไปอีกประมาณ 1 ปี คาดว่าจะได้ใช้ในปีงบประมาณ 2569 ได้ อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายมาถึงสภา ขอความกรุณาให้สมาชิกสภาฯ ได้ช่วยกันใช้เวลาประหยัดกับกฎหมายดังกล่าว” นายสมศักดิ์ กล่าว

(ข่าว : “สส.ชนก” ชู อสม.ทำงานหนัก “สากกะเบือ ยันเรือรบ” ทวงถามความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.อสม.)

 

ชูมีกฎหมาย เครดิตอสม.เพิ่ม

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า  ตั้งแต่รับตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ทราบว่า อสม.ทำงานหนักจริง และในเรื่องค่าป่วยการนั้น ทุกครั้งต้องขอผ่าน ครม. ซึ่งจะทำให้รู้สึกว่าไม่มั่นคง และอาจลุ้นว่า ต่อไปจะได้ค่าป่วยการเช่นนี้ ได้ 2 พันบาทต่อเดือนต่อเนื่องหรือไม่ แต่เมื่อมีกฎหมายจะมีความยั่งยืน ไม่ต้องกังวลในอนาคตว่า สิ่งที่ควรได้จะเป็นอย่างไร สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.อสม. อาทิ มีวัตถุประสงค์กิจการ อสม.ให้มีระบบ มีหลักเกณฑ์เป็นที่ยอมรับ และเรื่องการเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ

โดยร่างพ.ร.บ.อสม. มี 4 หมวด และหมวดเฉพาะการ มีจำนวน 56 มาตรา   มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้มีคณะกรรมการ 3 ระดับ ทั้งระดับประเทศ ระดับเขต และระดับจังหวัด  ยังมีการกำหนดคุณสมบัติ ผ่านการฝึกอบรม มีการประเมินความรู้ความสามารถ มีชื่อในทะเบียนบ้านอย่างน้อย 6 เดือน และไม่กำหนดอายุเกษียณ คือ เป็นได้ตลอดชีวิต ที่สำคัญต้องสมัครใจและเสียสละช่วยงานสาธารณสุข ขณะเดียวกันจะได้ค่าป่วยการที่มั่นคง เป็นต้น

หลังจากมีการร่างกฎหมาย พบว่าเครดิตอสม.เพิ่มขึ้น มีธนาคารให้ความสนใจปล่อยเงินกู้ เช่น ให้กู้ 2 หมื่นบาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี แต่หากพ.ร.บ.ผ่านเป็นกฎหมาย เครดิตจะสูงเป็น 1-2 แสนบาทได้ และดอกเบี้ยผมต่อรองขอให้เหลือร้อยละ 6 ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้ แต่ต้องรอความมั่นคงของการออกกฎหมายก่อน ผมเข้าใจว่า สส.และสว.ทุกท่านต้องช่วยกันให้กฎหมายออกมาได้เร็ว” นายสมศักดิ์ กล่าว

ตั้งกองทุนดึงเงินลดโรคเอ็นซีดี

อย่างไรก็ตาม สำหรับกฎหมายฉบับนี้จะมีการตั้งกองทุน เพื่อดึงเงินที่ อสม.ช่วยประหยัดได้จากการดูแลสุขภาพประชาชน และลดคนรักษาตัวในรพ. เมื่อมีเงินเหลือจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้เงินที่เหลือส่วนหนึ่งมอบให้อสม.หรือรพ.ในเขตต่างๆเหล่านั้น ซึ่งแต่ละปี สปสช.จะใช้เงินหลักประกันสุขภาพฯงบประมาณราว 1.5 แสนล้านบาท  ซื้อยาจากต่างประเทศ 7 หมื่นล้านบาท โดยที่เหลือเป็นการดูแลโรคเบาหวาน ความดัน โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อย่างการฟอกไต 1.5 หมื่นล้านบาท และส่งเสริมสุขภาพ 2.5 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งต้องพัฒนาและเข้าสู่กองทุนอสม. เราจึงเน้นส่งเสริมสุขภาพป้องกัน โดยจะให้ความรู้ อสม. เพื่อส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคให้ประชาชน

“ขอย้ำว่าหากร่างพ.ร.บ.อสม. ผ่านเป็นกฎหมายจะช่วยสร้างความมั่นคงให้อสม.ยิ่งขึ้น ค่าป่วยการก็ไม่ต้องรอลุ้น แต่จะรับประกันว่าได้แน่นอน ซึ่ง

ดึงเงินกองทุนฌาปนกิจฯใช้ก่อนตาย

รมว.สาธารณสุข ยังตอบประเด็นเรื่องกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. ว่า ก่อนอื่นต้องบอกว่า การจะให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ อสม.นั้น ไม่ใช่ให้อย่างเดียว แต่ต้องให้ อสม.ทำงานเพิ่มขึ้นด้วย โดยเน้นส่งเสริมป้องกันโรคกับประชาชน ให้ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังให้ได้  เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพระดับประเทศ ลดการไปรักษา ไปรพ. ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่ลดลงนั้น ดังนั้น เมื่อมีพ.ร.บ.อสม. ให้พวกเขามีความมั่นคง ก็จะช่วยเราได้ ตอนนี้สธ.มีโครงการส่งเสริมป้องกันโรคเอ็นซีดีด้วย อสม. การใช้เครือข่ายอสม.จะสนับสนุนการทำงานของแพทย์ พยาบาล และประชาชนสุขภาพดีขึ้น

“ส่วนกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. จะ  หากอายุน้อยอาจกู้ 1 แสนบาท เพราะต้องมีเรื่องการจ่ายดอกเบี้ย แต่หากอายุมาก 70-80 ปี อาจกู้ 2-3 แสนคงไม่เป็นไร เพราะอายุมากแล้ว แต่เรื่องรายละเอียดจะมาร่วมกันให้ความเห็นต่อไป ในส่วนของผม ที่ร่างพ.ร.บ.ฯ หากเข้าครม. ก็จะจบหน้าที่ผม แต่จะตามมาเป็นกรรมาธิการหรือไม่ ก็จะเป็นเรื่องอนาคตต่อไป” นายสมศักดิ์ กล่าว