ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ภาคประชาชน กดดันสภาต่อเนื่อง  8 มกราคม ใช้ ม.ธรรมศาสตร์ จัดสัมมนา “เขียนอนาคตกัญชาไทย” ระดม 13 ขุนพล เอาความจริงมาตีแผ่ สมาคมนักวิจัย ชวนประชาชนเช็คชื่อ ส.ส.ไม่ทำหน้าที่ในสภา ไม่สมควรมีสิทธิเข้าสนามสอบอีกต่อไป

จากเหตุสภาล่มซ้ำซาก จนพิจารณา พ.ร.บ.กัญชา ได้เพียง 4 มาตรา  เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ฟังการอภิปรายพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชาเมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา ทางสมาคมนักวิจัยฯ เห็นว่าการอภิปรายอยู่บนพื้นฐานของเนื้อหาของกฎหมายมากขึ้นซึ่งประชาชนที่ได้รับฟังประโยชน์แต่ก็เป็นที่น่าเสียใจว่าสภาล่มอีกแล้ว จึงขอฝากให้ประชาชนเช็คชื่อ ส.ส .ในจังหวัดของท่านว่าได้ทำหน้าที่หรือไม่ การที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ขออภิปรายกันในสภาซึ่งๆหน้าตรงไปตรงมาด้วยข้อมูลที่เป็นความจริง มีที่ไปที่มา มีเหตุมีผล มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ไม่แอบส่ง LINE ด้วยข้อมูลเท็จทำให้คนในสังคมเกิความกลัวและความสับสน ทางสมาคมขอให้ ส.ส. ใช้สภาแห่งนี้เป็นเวทีที่จะแสดงความรู้ความสามารถในการพิจารณากฎหมายซึ่งเป็นหน้าที่ของท่านให้ประชาชนเห็นและภาคภูมิใจที่ได้เลือกท่านมาทำหน้าที่นี้ ทางสมาคมนักวิจัยขอเชิญชวนประชาชนเช็คชื่อ ส.ส.ในการเข้าประชุมสภาเหมือนกับที่มหาวิทยาลัยเช็คชื่อนักศึกษาถ้าเข้าเรียนไม่ครบไม่มีสิทธิ์สอบ สส.ไม่ทำหน้าที่ในสภาก็ไม่ควรลงสมัครับเลือกตั้งเข้ามาอีก 

ดร.พิพัฒน์ กล่าวว่า สมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย และเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้ทำงานร่วมกับเครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มหมอยาพื้นบ้าน เครือข่ายผู้ป่วย และประชาชนทั่วไป ได้จัดประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์การพิจารณา (ร่าง) พรบ.กัญชากัญชง พ.ศ. ... ของสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในขณะนี้มาได้ระยะหนึ่ง  เห็นว่าการถกเถียงในสภายังไม่ทำให้สังคมกระจ่างชัดถึงอนาคตของกัญขาไทยที่เป็นทั้งความมั่นคงทางด้านยาและสุขภาพทุกระดับ การคงไว้และการพัฒนาภูมิปัญญาไทยในการใช้กัญชา การใช้เป็นทางออกของยาเสพติดเช่นยาบ้าและโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจจากกระแสการเปลี่ยนแปลงกฏหมายที่เกี่ยวกับของประเทศต่างๆ ทั้งที่เรามีรูปธรรมที่มีการปฏิบัติอยู่แล้วเช่นเกาะพะงัน การใช้กัญชาในการรักษาโรคให้กับชาวบ้านของวัดภูพร้าว จังหวัดอุบลราชธานี การมีตัวอย่างเยาวชนที่เลิกยาบ้าด้วยการใช้กัญชาและสามารถเลิกกัญชาได้ด้วยการหักดิบจนไม่ต้องพึ่งพิงกัญชาอีกเป็นต้น

นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … และเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวว่า ภาพอนาคตสำคัญยิ่งต่อการออกแบบกัญชาไทยเพราะภาพอนาคตคือสิ่งบ่งชี้ว่ากัญชาในประเทศนี้จะดำเนินบนเส้นทางใด การสร้างทิศทางของกัญชาย่อมเกิดขึ้นจากการจุดประกายและการแสวงหาความรู้ การเสนอภาพลบของสื่อทำให้ประชาชนยิ่งห่างไกลจากความเข้าใจกัญชาที่แท้จริง และความไม่เข้าใจนี้นำมาสู่ความลังเลสงสัยและความลังเลสงสัยนี้ทำให้เกิดความกลัวและความกลัวนี้แหละเป็นอุปสรรคสำคัญของการกำหนดกลไกและภาพอนาคตที่ถูกต้องของกัญชา

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า เพื่อให้สังคมเข้าถึงความจริงของกัญชามากขึ้น เราจำเป็นต้องแหวกม่านหมอกของความกลัว เพื่อสร้างภาพที่แท้จริงให้เห็นว่าโลกของกัญชานั้นไม่ใช่โลกของยาเสพติดแต่เป็นโลกของการเยียวยามนุษย์ ไม่เพียงร่างกายแต่ทว่ารักษาโรคทางจิตใจด้วย ดังนั้น ทางสมาคมนักวิจัยและเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจึงจัดสัมมนาเรื่อง “เขียนอนาคตกัญชาไทยจากวิชาการและการปฏิบัติจริง”  ขึ้นเพื่อนำเสนอระบบของกัญชาที่จะดำรงอยู่กับสังคมไทยในทุกระดับเพื่อให้สังคมไทยสามารถได้ประโยชน์จากกฎหมายที่จะเกิดขึ้นอย่างสมดุลเป็นรูปธรรมนำเสนอไปยังหน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาเป็นนโยบายต่อจากนี้ไป ในวันที่ 8 มกราคม เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป ณ ห้อง LA 201 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

“การสัมมนานี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างภาพอนาคตการพัฒนากัญชาไทยเชิงระบบ ซึ่งหมายถึงกัญชาที่สามารถเป็นปัจจัยแห่งความแข็งแกร่งในระบบสาธารณสุขมูลฐานของประเทศ เป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้แก่ประชาชน เป็นสังคมของการวิจัยแลกเปลี่ยนทั้งสายพันธุ์และการผลิต เป็นศูนย์ยาระดับชุมชน ตลอดจนกลายเป็นจุดตั้งต้นของการฟื้นระบบนิเวศแห่งการรักษาขึ้นมาใหม่ กัญชาสามารถเป็นปัจจัยแห่งการเปลี่ยนแปลงได้หลายประการหากเรายอมแหวกม่านหมอกแห่งความกลัวมาทำความเข้าใจกับมัน” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว

สำหรับวิทยากรที่จะเข้าร่วมเสวนาทั้งหมด 13 คน พร้อมหัวข้อที่จะเสวนา ได้แก่ 
1. นายนิธาน จิตทรวิธรกุล ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์เครือข่ายฯ หัวข้อ “นิเวศกัญชากับการพัฒนาประเทศไทย” 
2. นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตคณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี หัวข้อ “กัญชากับอนาคตของระบบสาธารณสุขมูลฐานของประเทศ” 
3. นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หัวข้อ “อนาคตกัญชากับความมั่นคงทางยาในระดับนานาชาติ” 
4. นายธนโชติ เธียรรุ่งโรจน์ ประธานวิสาหกิจฯเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว หัวข้อ “กัญชากับความมั่นคงทางยาและเศรษฐกิจของชุมชน” 
5. พระครูปัญญาวโรบล วัดภูพร้าว จ.อุบลราชธานี หัวข้อ “อนาคตกัญชากับการฟื้นภูมิปัญญาการรักษาสุขภาพของประชาชน”
6.นายสฤษดิ์ โชติช่วง หมอยากัญชาเกาะพะงัน หัวข้อ “กัญชาในไร่ข้าวและมะพร้าวเกาะพะงันบทสะท้อนความมั่นคงทางยาและการพึ่งพาตนเองระดับครัวเรือน 
7. ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย หัวข้อ “อนาคตงานวิจัยกับการพัฒนากัญชาไทย” 
8.นายณรงค์ชัย เพชรทอง นักปลูกกัญชาจากรัฐออริกอนสู่บางสะพาน หัวข้อ อนาคตการพัฒนาสายพันธุ์กัญชาไทยให้ก้องโลก
9. นาย อัครเดช ฉากจินดา ผู้คลุกคลีวงการกัญชากว่า 20 ปี กับหัวข้อ “ภาพอนาคตกัญชากับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย” 
10. นางสาวช่อขวัญ คิตตี้ ช่อผกา หญิงแกร่งแห่งวงการกัญชา กับหัวข้อ “มาตรฐานธุรกิจกัญชาที่ควรจะเป็นในประเทศไทย” 
11.นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกรรมาธิการฯจัดทำร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ หัวข้อ “ใจความสำคัญของอนาคตกัญชาไทยที่ไม่อาจลืม” 
12.นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานกรรมาธิการฯ พิจารณาจัดทำร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ หัวข้อ “อนาคตกัญชาบนฐานร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ....” และ
13. นายธนภูดิศ ทองดี หนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ หัวข้อ “การใช้กัญชาเลิกยาเสพติดและการใช้กัญชาในชีวิตประจำวัน” 

จาก 13 ภาพอนาคตที่จะทำให้เราเข้าใจภาพอนาคตกัญชาที่จะมีต่อประชากรในประเทศไทย เมื่อเราเข้าใจภาพรวมเราย่อมกำหนดกลไกที่นำประโยชน์ของกัญชามาใช้อย่างเต็มที่ในขณะที่เราสามารถสร้างกลไกกำกับสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ภาพอนาคตของกัญชา คือการสร้างทางเดินร่วมกัน หากจะทำให้กัญชาในประเทศนี้ถูกใช้อย่างสมดุล ต้องมาช่วยกันกำหนดภาพอนาคต และมาเจอกันวันที่ 8 มกราคม นี้นะครับ” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org