สภาเภสัชกรรมชุดใหม่ เดินหน้าผลักดันอัตรากำลัง “เภสัชกร” ต้องสอดคล้องภาระงานจริง..

นายกกรรมการสภาเภสัชกรรม ประกาศพร้อมเป็นกระบอกเสียงให้ “เภสัชกร” หาทางออกอัตรากำลังให้สอดคล้องกับภาระงาน พร้อมร่วมสธ. หาค่า FTE การทำงานที่เหมาะสม สอดรับกับบุคลากรที่มีในปัจจุบันของแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันยังสะท้อนการทำงานของเภสัชฯ ช่วงโควิด-19 ที่หลายคนอาจไม่รู้..

“สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา การปฏิบัติงานของเภสัชกรมีส่วนสำคัญในการทำงานร่วมกับวิชาชีพอื่นๆ แต่ประเด็นการได้รับการดูแล สิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมไปถึงอัตรากำลัง ภาระงานยังคงเป็นประเด็นสำคัญ ดังนั้น หากน้องๆ หรือสมาชิกสภาฯ ท่านไหนไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอให้แจ้งมายังสภาฯ เพื่อเป็นกระบอกเสียง หาทางช่วยเหลืออย่างถึงที่สุด...”

รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวขึ้นระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทาง “Hfocus” ภายหลังการประชุมคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม วาระ 10 ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อมอบหมายงาน และภารกิจในช่วงการทำงานตลอด 3 ปีนับจากนี้ (พ.ศ. 2565-2567) ของการดำรงตำแหน่งกรรมการสภาเภสัชกรรม

(ข่าวเกี่ยวข้อง : เปิดรายชื่อกรรมการสภาเภสัชกรรมชุดใหม่ วาระ 10 “ภก.กิตติ” นั่งนายกสภาฯ)

รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม

โดย รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ นำทีมกรรมการสภาเภสัชฯ ทั้งดร.ภก.สุวิทย์ ธีรกุลชน อุปนายกสภาเภสัชกรรม คนที่ 1 ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช อุปนายกสภาเภสัชกรรม คนที่ 2 และ ภก.ทรงวุฒิ สารจันทึก รองเลขาธิการสภาเภสัชกรรม ร่วมนั่งพูดคุยถึงภารกิจเร่งด่วนที่ต้องปฏิบัติหลังรับตำแหน่ง ว่า ประเด็นแรก คือ การเป็นกระบอกเสียง และช่วยขับเคลื่อนสิทธิประโยชน์ของวิชาชีพในแง่ของภาระงานกับอัตรากำลังที่ต้องสอดคล้องกัน แน่นอนว่า ประเด็นนี้จำเป็นต้องทำงานร่วมกันหลายฝ่าย..

รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ บอกว่า บทบาทของเภสัชกร เป็นการทำงานคู่ขนานกับวิชาชีพกับทุกคน แต่เภสัชกรทำงานปฏิบัติลงพื้นที่สู้โควิด-19 มาตลอด ซึ่งทำงานตั้งแต่การเตรียมรับวัคซีน การจัดเก็บวัคซีน เตรียมให้พร้อมนำไปฉีดหน่วยฉีดทั้งหมด และติดตามอาการไม่พึงประสงค์ ดังนั้น วิชาชีพเภสัชกร มีส่วนช่วยในการปฏิบัติงานโควิดไม่น้อยกว่าวิชาชีพอื่นๆ แต่ที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่า มีหลายคนประสบปัญหารู้สึกไม่ได้รับความเท่าเทียมมากนัก ซึ่งทางสภาเภสัชกรรมพร้อมจะเป็นกระบอกเสียง และช่วยเหลือตรงนี้

“กรรมการสภาเภสัชกรรมชุดนี้ เราจะขับเคลื่อนงานเพื่อคุ้มครองประชาชน และคุ้มครองวิชาชีพเภสัชกร หากเภสัชกรใดที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ติดต่อร้องเรียนมาที่สภาเภสัชกรรมได้ทันที เราพร้อมเรียกร้องช่วยเหลือ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ” ภก.กิตติ กล่าว

** เมื่อถามกรณีเภสัชกรที่ปฏิบัติงานโควิด-19 ในพื้นที่หลายคนประสบปัญหาอัตรากำลังไม่สอดคล้องกับภาระงาน...

เรื่องนี้   ภก.ทรงวุฒิ สารจันทึก รองเลขาธิการสภาเภสัชกรรม ให้ข้อมูล ว่า ที่ผ่านมาสัดส่วนการบรรจุข้าราชการจะได้น้อยกว่า หลายคนไม่ได้ ทั้งที่เราก็เป็นหนึ่งในด่านหน้าเช่นกันในการทำงานโควิด-19 อย่างการเก็บวัคซีนป้องกันโควิดให้ได้มาตรฐาน การจัดระบบการฉีดวัคซีน การติดตามอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ และมีการทำทะเบียนประชาชนที่ฉีดวัคซีนไปแล้วตั้งแต่เข็ม 1 เข็ม 2 และบูสเตอร์ โดส ซึ่งเราเป็นคนทำข้อมูล งานจึงไม่ได้น้อยกว่าวิชาชีพด่านหน้า แต่ค่าตอบแทนของเภสัชกรกลับไปอยู่ในกลุ่มอื่นๆ แทน

ที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกับทางกระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายโรงพยาบาลต่างๆ โรงพยาบาลชุมชน รวมทั้งชมรมเภสัชกรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยปัญหาที่เจอคือ อัตรากำลังของเภสัชกรในโรงพยาบาลภาครัฐ ส่วนหนึ่งต้องจัดไปกับการฉีดวัคซีน ซึ่งวัคซีนต้องฉีดทุกสัปดาห์ ยกตัวอย่างโรงพยาบาลชุมชน 30 เตียง มีเภสัชกร 4 คน ต้องลงพื้นที่ไปฉีดวัคซีนให้ประชาชน 500-1,000 คน ต้องจัดสรรเภสัชกรไปฉีดวัคซีน 2 คน ขณะที่งานอื่นๆยังเหลือเท่าเดิม ประกอบกับเหลือเภสัชกรทำงาน 2 คน กระทบต่อภาระงาน ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เภสัชกรในพื้นที่เรียกร้องมาพอสมควร 

 “จากปัญหาตรงนี้เราต้องไปคุยเรื่องอัตรากำลังกับภาระงาน หรือการหาค่า Full-time equivalent (FTE)   ว่า หากยังต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดต่อเนื่องไปอีกมากกว่า 1 ปี หรือ 2-5 ปี ก็จำเป็นต้องขออัตรากำลังเพิ่มขึ้น เพื่อให้การทำงานกับภาระงานให้สอดคล้องกันมากที่สุด” ภก.ทรงวุฒิ กล่าว

ขณะที่ ภก.กิตติ กล่าวย้ำประเด็นนี้ ว่า เราทำงานเรื่องอัตรากำลังร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขมาตลอดในเรื่องการขออัตรากำลังให้แก่เภสัชกร แต่ก็ยอมรับว่า ติดเรื่องการจำกัดอัตรากำลังข้าราชการของทางรัฐบาล ดังนั้น ถึงแม้ทางราชการอยากช่วยมากแค่ไหนก็อาจไม่ได้ตามที่ต้องการ แต่ทางสภาเภสัชกรรมจะพยายามช่วยให้ถึงที่สุด เบื้องต้นต้องหากำลังคนที่เหมาะสม และเวลาทำงานที่เหมาะสมของเภสัชกรที่ต้องทำแต่ละวันให้เป็นมาตรฐานขึ้นมา และต้องไปพิจารณาภาระงานว่า หากงานเท่านี้เมื่อเทียบกับอัตรากำลังมาตรฐานว่าพื้นที่มีเภสัชฯเท่าไหร่ ก็จะได้รู้ว่า ควรจัดสรรอย่างไรต่อไป

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจที่จะขับเคลื่อนหลังรับตำแหน่งของกรรมการสภาเภสัชกรรรมชุดใหม่...

ติดตามการขับเคลื่อนงานประเด็นอื่นๆได้ตอนต่อไป...

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org