“ริซกี สาร๊ะ” เลขาธิการชมรมนักวิชาการสาธารณสุข โพสต์ทวงถามกรณีเรียกเงินคืนฉ.11 รอลุ้นข้อสรุปจันทร์นี้! ชี้ไม่ว่าจะตำแหน่ง นวก.สาธารสุข หรือ นักสาธารณสุข ก็ควรได้รับเงิน ฉ.11 พร้อมเผยเตรียมทำหนังสือหารือผู้เกี่ยวข้องต่อไป
หลังจากที่ “ริซกี สาร๊ะ” เลขาธิการชมรมนักวิชาการสาธารณสุข (ประเทศไทย) โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า "ขอลบโพส เคศเรียกเงิน ฉ.11คืน ที่บุรีรัมย์ก่อนครับ เนื่องจากจะมีการหารือผู้เกี่ยวข้องในวันจันทร์เพื่อหาทางออก #รอดูอยู่นะครับ" นั้น
ล่าสุดวันที่ 17 พ.ย. “ริซกี สาร๊ะ” เลขาธิการชมรมนักวิชาการสาธารณสุข (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ Hfocus เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ประเด็นเกิดจากการเรียกเงินคืนฉ.11 ในช่วงที่เปลี่ยนตําแหน่งเป็นนักสาธารณสุข ซึ่งมีการตีความเรื่องวันทําการที่ไม่ครบในตําแหน่งทั้งนักวิชาการสาธารสุขและตําแหน่งนักสาธารณสุขในช่วงกลางเดือนนั้น จึงได้โพสเพื่อทวงถาม แต่ขณะนี้ทราบว่าทางหน่วยงานที่เกิดเรื่องจะขอหารือนิติกรจังหวัดอีกครั้งในวันจันทร์นี้ ทั้งนี้ ต้นเรื่องมาจากการตีความของทีมการเงินทั้งจังหวัดและก็พื้นที่ ว่าต้องเรียกเงินคืน ซึ่งโดยปกติคือ ไม่ว่าจะตำแหน่งนักวิชาการสาธารสุข หรือ ตําแหน่งนักสาธารณสุข ก็เป็นตําแหน่งที่ได้รับเงิน ฉ.11 อยู่แล้ว
"แต่ถ้ากรณีที่เขาเปลี่ยนตําแหน่งแล้วเกิดการเสียสิทธิ์นั้น ผู้เกี่ยวข้องควรจะพิจารณาแนวทางที่เป็นคุณต่อบุคลากร มากกว่าที่จะไปลดสิทธิประโยชน์ของบุคลากร ซึ่งเท่าที่ทราบไม่ใช่เกิดแค่ที่นี่ที่เดียว แต่เกิดขึ้นหลายที่ คนที่เปลี่ยนตําแหน่งตั้งแต่ช่วงพฤษภารอบแรกก็มีโดนเรียกเงินคืน และบางที่มีการลดระดับตำแหน่ง" นายริซกี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางชมรมอาจมีการทําหนังสือหารือประเด็นนี้ที่มีการลดระดับต่อไป เนื่องจากเมื่อเป็นตําแหน่งใหม่ แล้วมีประกาศเปลี่ยนแปลงออกล่าช้า ช่วงรอยต่อเคนที่เปลี่ยนตําแหน่งควรจะเป็นอย่างไร ควรใช้เกณฑ์เดิมโดยอนุโลมไปก่อนหรือว่าลดระดับไปได้เลยทําให้บุคลากรเสียสิทธิ์ ซึ่งกรณีที่เรียกเงินคืนเช่นนี้ คนที่เรียกเงินคืนแล้วก็คืนเงินไปแล้วจะเยียวยาหรือจะคืนเงินบุคลากรอย่างไร..
เพราะว่าการเปลี่ยนตําแหน่งจากวิชาการเป็นสายงานวิชาชีพเฉพาะมันคือการพัฒนามาตรฐานของบุคลากร มองว่าบุคลากรน่าจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการที่พัฒนาตนเอง จากการที่มีมาตรฐานมากขึ้น ไม่ใช่ว่าไปโดนลดสิทธิ์
นายริซกี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้อาจต้องคุยกันหลายประเด็นเพื่อไม่ให้ในช่วงเปลี่ยนผ่านบุคลากรเสียสิทธิ์ ให้เกิดความรู้สึกว่าการมีพ.ร.บ.วิชาชีพ นั้นศักดิ์สิทธิ์ และการเปลี่ยนตําแหน่งเป็นวิชาชีพเฉพาะมีประโยชน์กับประชาชนในการที่บุคลากรมีมาตรฐานมากขึ้น มีองค์กรวิชาชีพคอยดูแลการเงินวิชาชีพมากขึ้น อยากให้ผู้บริหารกระทรวงฯ ให้ความสําคัญด้วย อย่างไรก็ตามรอดูประเด็นของบุรีรัมย์ก่อนว่าข้อสรุปเป็นอย่างไร
- 271 views