ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ก.พ. ส่งหนังสือถึง "สภาการสาธารณสุขชุมชน" แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการใน 3 ประเด็น ทั้ง การจัดคนลงตำแหน่ง "นักสาธารณสุข" , การนับเวลาเกื้อกูลตำแหน่ง และการกำหนดวุฒิปริญญาฯ พร้อมแนะควรหารือกับต้นสังกัดก่อนเพื่อความเป็นธรรมและเสมอภาค

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 นายพัทธพล อักโข กรรมการสภาการสาธารณสุขชุมชน ได้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว Hfocus เกี่ยวกับสำนักงาน ก.พ. ได้มีหนังสือถึงสภาการสาธารณสุขชุมชนแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งนักสาธารณสุข โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. การกำหนดสายงานสาธารณสุข ตำแหน่งนักสาธารณสุข  ให้เป็นสายงานที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง

2. การกำหนดวุฒิปริญญาสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์และได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนเป็นวุฒิคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งนักสาธารณสุขปฏิบัติการ

3. การพิจารณานำระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขมานับรวมเป็นระยะเวลาที่เกี่ยวข้องหรือเกื้อกูลกับการดำรงตำแหน่งนักสาธาธารณสุข

ดังนั้น จากประเด็นข้อหารือในข้อ 3 ที่สภาการสาธารณสุขชุมชน สอบถามว่าจะสามารถ พิจารณากําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการนําระยะเวลาการดํารงตําแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุข มานับรวมเป็นระยะเวลาที่เกี่ยวข้องเกื้อกูลกับตําแหน่งนักสาธารณสุข โดยขอให้นับได้ก่อนวันที่มีวุฒิปริญญาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งที่จะแต่งตั้ง และการกําหนดให้ข้าราชการที่มีระยะเวลาการดํารงตําแหน่ง เจ้าพนักงานสาธารณสุข ระดับชํานาญงาน หรือระดับอาวุโส รวมกับระยะเวลาการดํารงตําแหน่งนักสาธารณสุข ปฏิบัติการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติต่างไปจากคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งประเภท วิชาการระดับชํานาญการ เข้ารับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งนักสาธารณสุขชํานาญการ ได้หรือไม่ นั้น ขอเรียนว่า เนื่องจากประเด็นข้อหารือดังกล่าว เป็นการขอให้ ก.พ. พิจารณากําหนดหลักเกณฑ์ ที่ใช้ปฏิบัติกับข้าราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการย้าย

การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตําแหน่ง ประเภทวิชาการในหรือต่างกระทรวงหรือกรม พ.ศ. 2564 และไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการตาม ว 5/2567 ซึ่งกําหนดให้ใช้เป็นการทั่วไปกับข้าราชการผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการในทุกสายงาน

ดังนั้น สภาการสาธารณสุขชุมชน ควรหารือไปยังกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นส่วนราชการต้นสังกัดของข้าราชการตามข้อหารือ เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว อย่างรอบคอบก่อนที่จะมีคําขอยกเว้นการดําเนินการที่ไม่เป็นตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ. กําหนด โดยต้องคํานึงถึง ความคุ้มค่าและประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสําคัญ รวมทั้งต้องเป็นไปตามหลักความเสมอภาคและความเป็นธรรม ตลอดจนต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบราชการโดยรวม