หลายคนคงปวดหัวกับสงครามสื่อเถียงกันเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา จะเชื่อใครก็ดูจะไม่แน่ใจ เพราะต่างมีจุดยืนสุดโต่ง ควักข้อมูลมาสู้กันจากแหล่งที่สนับสนุนจุดยืนของตนเอง ไอ้เราคนกลางจึงมีหน้าที่ตีแผ่ข้อมูลล่าสุดจากงานวิชาการทบทวนงานวิจัยทั่วโลกโดย National Academy of Sciences ของอเมริกาที่เผยแพร่เดือนนี้ มกราคม 2561 จะได้รู้กันให้ชัดว่าอะไรควรเชื่อ อะไรไม่ควรเชื่อ เพราะเค้ารีวิวแบบงานต่องานกันให้เห็นจะๆ

สังคมปัจจุบันบอกตามตรงว่าเชื่อใครได้ยากเข้าไปทุกที ดีที่สุดคือหาเอง อ่านเอง กลั่นกรองเอง และเชื่อตัวเอง จะขอนำเสนอให้เราเข้าใจกันง่ายๆ โดยแบ่งความจริงเป็น 3 ประเภท ดังนี้

1. "ความจริงประเภทฟันธงได้ (Conclusive evidence)" โดยปราศจากข้อสงสัยเคลือบแคลงใดๆ เนื่องจากมีงานวิจัยทั่วโลกมากมายหลายชิ้นยืนยัน แถมงานเหล่านั้นออกแบบวิจัยได้ดี จนสามารถสรุป เชื่อ นำไปปฏิบัติได้ ไม่ต้องมาแย้งอะไรอีกแล้ว

2. "ความจริงประเภทน่าเชื่อถือได้ว่าเป็นเช่นนั้นจริง (Substantial evidence)" โดยมีโอกาสแย้งได้ยาก เพราะมีงานวิจัยคุณภาพดีหลายชิ้นมายืนยัน โอกาสแย้งแล้วถูกมีน้อย

3. "ความจริงประเภทที่มีแนวโน้มจะเป็นเช่นนั้น (Moderate evidence)" โดยมีโอกาสแย้งได้บ้างว่าอาจเกิดจากปัจจัยอื่นมามีอิทธิพลทำให้เกิดผลเช่นนั้นได้ ทั้งนี้ความจริงประเภทนี้มีงานวิจัยสนับสนุนที่มีคุณภาพระดับพอใช้เท่านั้น

ส่วนความจริงประเภทที่มีงานวิจัยจำนวนจำกัด หรือคุณภาพด้อยไปกว่านี้จะไม่นำมาเล่าให้ฟัง เพราะไม่น่าเชื่อถือ

พร้อมหรือยังครับ? มา...มาดูกัน

"ความจริงประเภทฟันธงได้" ข้อมูลวิชาการชี้ชัดว่า

1.บุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดฝุ่นละออง และนิโคตินในสิ่งแวดล้อมโดยรอบเพิ่มขึ้น

2.บุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่นั้นนอกจากมีนิโคตินแล้ว ยังมีสารพิษที่อาจมีผลเสียต่อร่างกายจำนวนหลายต่อหลายชนิด

3.ปริมาณนิโคติน และสารพิษต่างๆ ที่ได้จากการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นแตกต่างกันไปตามชนิด/ลักษณะของบุหรี่ไฟฟ้า และวิธีการใช้งาน

4.บุหรี่ไฟฟ้านั้นอาจเกิดระเบิด และก่อให้เกิดอันตรายได้หากแบตเตอรี่เสื่อม หรือไม่เก็บดูแลรักษาเครื่องมือให้ดี

5.การดื่ม ฉีด หรือสัมผัสต่อของเหลวที่ใช้สำหรับสูบบุหรี่ไฟฟ้า อาจทำให้เกิดอันตรายรุนแรงต่อร่างกายได้ ทั้งเรื่องชัก สมองขาดออกซิเจน อาเจียน ภาวะเลือดเป็นกรด และเสียชีวิต

6.การทดแทนบุหรี่ด้วยการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้น ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดปริมาณสารพิษและสารก่อมะเร็งที่ได้รับจากการสูบบุหรี่ธรรมดา

"ความจริงประเภทน่าเชื่อถือได้ว่าเป็นเช่นนั้นจริง" มีข้อมูลวิชาการที่พอสรุปได้ดังนี้

1.ในกลุ่มคนที่สูบบุหรี่อย่างชำนาญนั้น ปริมาณนิโคตินที่ได้รับจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทบไม่ต่างจากการสูบบุหรี่ธรรมดา และนิโคตินที่เสพมานั้นทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น

2.หากไม่นับเรื่องนิโคตินแล้ว การสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้คนสูบสัมผัสกับสารพิษน้อยกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดา

3.ละอองที่เกิดจากการเผาไหม้ของบุหรี่ไฟฟ้านั้น ตรวจพบว่ามีโลหะเจือปนอยู่ ซึ่งอาจมาจากขดลวดโลหะที่ใช้ในการเผาไหม้ของเหลวในบุหรี่ไฟฟ้า หรืออาจมาจากตัวของเหลวเอง ทั้งนี้ปริมาณโลหะนั้นแตกต่างกันไปตามชนิดของบุหรี่ไฟฟ้าและลักษณะการใช้งาน นอกจากนี้ละอองของบุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารพวก formaldehyde และ acrolein ที่ได้รับการพิสูจน์ในหลอดทดลองพบว่ามีผลทำลายเซลล์และอาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่างๆ ได้ แต่ยังไม่มีการวิจัยยืนยันว่าปริมาณที่ได้รับนั้นสูงเพียงพอที่จะก่อให้เกิดผลดังกล่าวในมนุษย์

4.ละอองที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นทำให้เซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจทำงานผิดปกติได้ แต่ยังไม่มีการวิจัยเพื่อศึกษาผลในระยะยาว

5.ละอองที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นอาจทำให้เกิดอันตรายต่อระดับเซลล์เนื้อเยื่อของร่างกายได้ แต่โดยเฉลี่ยแล้วน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา หากวัดกันตามระดับของความเครียดที่เกิดขึ้นผ่านกระบวนการ oxidation

6.การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เสพติดได้

7.มีการศึกษาพบว่าในกลุ่มเยาวชนและคนวัยรุ่นนั้น การสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นเพิ่มความเสี่ยงในการไปสูบบุหรี่ธรรมดา

8.การเปลี่ยนจากบุหรี่ธรรมดาไปสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น จะช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้

หุหุ...และแล้วก็มาถึง "ความจริงที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นเช่นนั้น" มีอะไรบ้าง?

1.ความเสี่ยงและความรุนแรงของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้านั้นน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา โดยขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์ ปริมาณความเข้มข้นของนิโคติน รสชาติ/กลิ่นปรุงแต่ง

2.บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีนิโคติน ทำให้ผู้สูบนั้นมีความดันเลือดตัวล่างสูงขึ้นได้

3.การสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีส่วนทำให้เกิดอาการไอ และกระตุ้นให้เกิดการกำเริบของโรคหอบหืดได้

4.หากคิดจะหยุดบุหรี่ การหันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินแทนบุหรี่ธรรมดานั้นจะช่วยในการหยุดบุหรี่ได้ดีกว่าบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีสารนิโคติน

5.มีการศึกษาแบบสังเกตการณ์ในหมู่คนที่ติดบุหรี่ และพยายามหาทางหยุดบุหรี่โดยหันไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าพบว่า หากใช้บุหรี่ไฟฟ้าบ่อยจะมีโอกาสหยุดบุหรี่ได้มากกว่าการใช้น้อย

6.บุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยคนใกล้ชิดหรือคนรอบข้าง โดยมีปริมาณนิโคตินและฝุ่นละอองที่เกิดจากการเผาไหม้น้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา

อ่านแล้วก็คงพอจะรู้สึกได้ถึงความ "เยอะ" ใช่ไหมครับ? สาระด้านวิชาการมันเยอะจริงๆ เข้าใจยาก แต่ไม่ยากที่จะพยายามทำความเข้าใจได้ว่า ความจริงที่พบจากการวิจัยนั้นมีหลายระดับ หากออกแบบวิธ๊วิจัยดี และมีการทำซ้ำในแนวเดียวกันแล้วได้ผลออกมาเหมือนกัน โอกาสฟันธงสรุปแบบไม่ต้องสงสัยก็มี อย่างที่เราเห็นในความจริงประเภทแรกที่ได้เล่ามา แต่มีอีกหลายต่อหลายความสงสัย ที่มีคนพยายามวิจัย แต่ยังฟันธง 100% ไม่ได้ ก็จะเป็นความจริงประเภทรองๆ ลงมา

หน้าที่ของประชาชนอย่างเราๆ คือ รับรู้ รับฟัง นำไปคิด นำไปใช้ตามอัตภาพ จะได้รู้เท่าทันสงครามสื่อในยุคนี้และยุคหน้า สัจธรรมในชีวิตคนเราไม่ว่าจะยุคใดก็ตามคือ เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะบังคับหรือห้ามทุกคนแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามที่ต้องการ เพราะทุกคนเป็นมนุษย์ มีชีวิตจิตใจ มีสิทธิในความเป็นมนุษย์ที่จะคิดวิเคราะห์และตัดสินใจกระทำการใดๆ ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเสี่ยงหรือไม่เสี่ยง ดีหรือไม่ดี

การอยู่ด้วยกันในสังคมจึงต้องพยายามหาหนทางที่พอยอมรับกันได้ทุกฝ่าย และสร้างสมดุลของอำนาจของแต่ละฝ่ายในสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและมีสวัสดิภาพ แทบจะไม่อะไรในโลกนี้ที่ดีไปหมด หรือแย่ไปหมด เราจึงควรใช้แต่ละอย่างอย่างมีสติและใช้ปัญญาในการหาหนทางใช้แต่ละอย่างนั้นให้เป็นประโยชน์ตามสมควร

ถ้ารักตัวเอง รักลูกหลาน เราต้องทำการบ้าน หมั่นเรียนรู้ ฝึกคิดตาม และช่างสงสัยครับ เราจะได้ช่วยกันพัฒนาไปสู่ประเทศไทย 100.0 ในอนาคต

ด้วยรักต่อทุกคน...

ผศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เอกสารอ้างอิง: Public health consequences of E-Cigarettes. National Academy of Sciences, 2018.