แปลตรงๆ ว่า ความปกติใหม่ที่อันตราย...

วันนี้หลายต่อหลายคนฝากมาสื่อสารสาธารณะในเรื่องที่สอดคล้องกันกับที่ต้องการจะสื่อพอดี

เราจะเห็นความปกติใหม่ในรายการทีวีโชว์ ทั้งดาราและพิธีกรต่างๆ ต่างพร้อมใจกันใส่ Face shield กันเต็มไปหมด

แต่แทบไม่มีเลยที่ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยไว้ด้านใน

เข้าใจว่า ดาราและพิธีกรนั้นนอกจากอุปนิสัยสนุกสนาน อัธยาศัยดีแล้ว ต้องมีหน้าตาที่สวยหล่อเป็นสมบัติที่จะดึงดูดให้ประชาชนหลงใหลใฝ่ฝันด้วย

การใส่ Face shield จึงดูจะเป็นที่นิยมมาก เพราะยังโชว์หน้าตาได้

แต่ขอบอกตรงๆ ว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในยุคที่มีโรคระบาดยังคงอยู่ในสังคม

Face shield ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคที่ติดต่อกันทางเดินหายใจอย่าง COVID-19 ได้ครับ

หากจะใช้ จำเป็นจะต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยไว้ด้านในด้วยเสมอ

ยิ่งพิธีกรเกมส์โชว์ ที่เชิญเหล่าดารามาเล่นเกมส์กัน ตลอดรายการมีเฮฮาปาร์ตี้ ตะโกน ตลกโปกฮา ล้วนเสี่ยงต่อการพ่นละอองฝอยน้ำลายออกมาโดยไม่รู้ตัว โอกาสแพร่มีมากทีเดียว

ความปกติใหม่ที่อันตรายเช่นนี้เป็นสิ่งที่ควรปรับปรุงโดยด่วน

ยิ่งดาราและพิธีกรดังๆ ยิ่งมีคนติดตามมาก

ยิ่งดูบ่อย ยิ่งเกิดความคุ้นชิน และจะได้รับการยึดถือไปปฏิบัติโดยประชาชนทุกช่วงวัย

อันตราย....

ขอเรียกร้องให้ทางดารา และพิธีกรรายการต่างๆ รวมถึงโปรดิวเซอร์ โปรดนำไปพิจารณาหาทางป้องกัน ก่อนที่จะเกิดมีใครสักคนที่มีเชื้อ จะเป็นดาราเอง พิธีกรเอง หรือแขกรับเชิญคนใดคนหนึ่ง แล้วแพร่กันเป็นวงกว้าง

วันนี้เรามีเคสใหม่ 2 คน ติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรค COVID-19 มาก่อน รวมแล้วมียอดสะสมทั้งสิ้น 3,033 คน

อย่าลืมว่า โรคนี้คนติดเชื้ออาจไม่มีอาการใดๆ ได้ถึง 20% และมีอาการเล็กน้อยแยกจากไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ได้ยากถึง 65%

กันไว้ดีกว่าแก้...แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน

ขอร้องเถิดครับ ความสนุกสนานที่ดาราและพิธีกรต่างๆ ช่วยนำส่งสู่ประชาชนนั้นมีคุณค่าอย่างยิ่ง และเป็นบุญ

แต่คงจะดีมาก หากการทำงานที่ได้บุญเช่นนี้ จะเป็นไปด้วยความระแวดระวัง มีความปลอดภัย และไม่ทำบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ประเทศไทยต้องทำได้ครับ!!!

โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

#อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ

#WorkfromHome

#ใส่หน้ากากเสมอล้างมือบ่อยๆอยู่ห่างจากคนอื่นๆ

#NewNormal_NewMe

"Safe New Normal" is better than "Dangerous New Normal"