“เลอพงศ์” เผย กรณีการถ่ายโอนรพ.สต.น้อยลง เหตุติดปมจัดสรรเงิน s m l และ เงินกรอบอัตรากำลังที่ สธ. วางไว้ อาจส่งผลให้ อบจ.หวั่นเป็นภาระจึงไม่ขอรับถ่ายโอนเพิ่ม

 

ตามที่ หน่วยประมวลสถานการณ์ระบบสุขภาพ : กรณีการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ Health System Intelligent Unit (HSIU) ภายใต้สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) มีการอัปเดตข้อมูล Dashboard การถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ล่าสุด ปี 2568 มี รพ.สต. จำนวน 256 แห่ง ที่จะถ่ายโอนไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 15 แห่ง ซึ่งน้อยกว่า 2 ปีที่ผ่านมา

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ย. นายเลอพงศ์ ลิ้มรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการกระจายอำนาจ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย เผยกับ Hfocus ว่า ตามที่ สวรส. มีการเก็บข้อมูลการถ่ายโอนรพ.สต. ในปีแรก 3,263 แห่ง ปีที่สอง 931 แห่ง ปีที่สาม 256 แห่ง ส่วนปีที่ 4 (ปีงบประมาณ 2569) ไม่มีเลย แต่ข้อเท็จจริงคือ เมื่อมีการกำหนดให้ อบจ.แจ้งจำนวนที่ประสงค์จะรับถ่ายโอนภายในวันที่ 31 ตุลาคม  2567 แต่เนื่องจากว่าหลังจากวันที่ 31 ต.ค. ถึง 16 พ.ย. 2567 ซึ่ง ณ วันนี้เรายังไม่รู้ว่าจะมีแจ้งความประสงค์ถ่ายโอนกี่แห่งแต่เชื่อว่ามีแน่นอน เพราะทราบว่าเบื้องต้นมีหลาย อบจ.แจ้งความประสงค์ว่าขอถ่ายโอนแต่ไม่ทราบจํานวนเท่าไหร่

เหตุตัวเลขถ่ายโอนน้อย

ทั้งนี้ ในส่วนข้อสังเกตที่หลายคนบอกว่าทําไมตัวเลขถ่ายโอนน้อยลง ตนมองว่าประเด็นปัญหาคือ 1. เนื่องจาก อบจ.มีความกังวลเรื่องการจัดสรรงบประมาณ S M L อยู่ที่ 1 ล้าน 1.5 ล้าน และ 2 ล้านตามลำดับ ที่ไม่เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ 

แต่ประเด็นเรื่องการจัดสรรงบประมาณ S M L บางแห่งก็พอใช้และเหลือใช้ บางรพ.สต.ตอนนี้เงินบํารุงมีเกือบ 3-4 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามยังมีรพ.สต. บางแห่งขาดแคลนเงินก้อนนี้อยู่ เพราะฉะนั้นสําคัญที่สุดคือ อบจ. เพราะ อบจ.ประสบปัญหาจริงอย่างที่บอกว่าทางสํานักงบประมาณไม่จัดสรรงบให้ตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ 

ปัญหาเงินอุดหนุน

นายเลอพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาประเด็นที่สอง กรณีเงินอุดหนุนสำหรับเติมคนลงในตําแหน่งว่าง โดยในประกาศเขียนไว้ว่าให้สํานักงบประมาณจ่ายให้ทั้งหมดปรากฏว่าในปีงบประมาณ 2566 มี อบจ.หลายแห่งเติมคนลงในตําแหน่งว่างแต่สํานักงบฯ ไม่ยอมจ่ายเงินให้ จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่อบจ.เองยังไม่ขอรับถ่ายโอนเพิ่ม

แต่อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้ สํานักงบประมาณเข้าใจแล้วว่าต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ  นั่นคือต้องจัดสรรเงินงบประมาณในการเติมคนลงในตําแหน่งว่าง ซึ่งจะเห็นได้ว่าในงบประมาณปี 2567 ได้จ่ายให้แล้วโดยขอใช้งบกลางแล้วโอนจ่ายให้อบจ.ที่เติมคนในตําแหน่งว่าง เพราะฉะนั้นในปีต่อไปก็ต้องจัดสรรงบประมาณได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเด็นนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว

"เพราะฉะนั้นตอนนี้จะติดปัญหาเรื่องการแบ่งเงิน CUP บางแห่งยังมีปัญหาว่าการแบ่งเงินของ สสจ. หรือ รพ.แม่ข่าย โรงพยาบาลชุมชนกับลูกข่ายนั้นค่อนข้างมีปัญหา ยังมีความเห็นต่างมุมมองกันอยู่ แต่บางพื้นที่มีการบริหารได้และไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหา 3 ประเด็นหลักตอนนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้ได้แล้ว" นายเลอพงศ์ กล่าว