มสช.หนุนโละรถทัวร์ 2 ชั้น ชี้พลิกคว่ำง่ายกว่าชั้นเดียว

มสช.หนุนแนวคิด "ชัชชาติ" ยกเลิกรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ชี้มีโอกาสพลิกคว่ำมากกว่ารถชั้นเดียวมากถึง 25% ขณะที่ "ชัชชาติ" ลุยเช็กระบบตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะ ผงะ เจอรถทัวร์ บขส. ยางสึกคาตา จี้รถทัวร์-ตู้เอกชน ติดจีพีเอส คุมความเร็ว ห้ามวิ่งเกินเวลา...

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ศ.นพ.ไพบูลย์ สุริยะวงศ์ไพศาล กรรมการมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี หัวหน้าทีมวิจัยอุบัติเหตุจราจร กล่าวเห็นด้วยต่อแนวคิดนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ที่จะยกเลิกรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมรถพ่วงชนรถทัวร์ บขส. 2 ชั้นเป็นเหตุให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 19 ศพ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางกระทรวงอุตสาหกรรมและ บขส. ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการควบคุมดูแลมาตรฐานของรถทัวร์โดยสารให้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการรถทัวร์โดยสาร ควรนำรถไปตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอ และบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมาตรฐานของคนขับรถ โดยปัจจุบัน บขส. มีรถโดยสาร 2 ชั้น จำนวน 447 คัน และชั้นเดียวจำนวน 400 คัน

ทั้งนี้ ผู้โดยสาร หากมีทางเลือกควรเลือกรถทัวร์โดยสารชั้นเดียว เนื่องจากมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำกว่า รถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น มีโอกาสพลิกคว่ำได้มากกว่ารถทัวร์โดยสารชั้นเดียวถึง 25% ที่สำคัญคนขับรถควรควบคุมความเร็ว ไม่ให้เกินกว่ากฎหมายกำหนดด้วยขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 รวมทั้งศูนย์ควบคุมความเร็วรถโดยสารด้วยระบบจีพีเอส และอาร์เอฟไอดี เพื่อติดตามการทำความเร็วของรถโดยสาร บขส. และรถร่วมบริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่พบว่ารถที่เกิดอุบัติเหตุขับเร็วเกินกำหนด แต่ในการตรวจเยี่ยมจุดตรวจสอบสภาพรถโดยสาร กลับพบรถโดยสาร บขส. กรุงเทพ-แม่สอด 2 ชั้น มีปัญหาดอกยางสึกอย่างหนัก จนไม่ผ่านการตรวจมาตรฐาน จึงสั่งให้รีบไปปรับปรุงโดยด่วน พร้อมกำชับให้รถโดยสารประจำทาง และไม่ประจำทาง ปรับระบบเปิดปิดประตูให้ปลอดภัย

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ บขส. ไปพิจารณาการปรับลดค่าสัมปทานให้กับรถร่วมเอกชน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งจีพีเอส และกระตุ้นให้รถโดยสารเอกชน 12,000 คัน และรถตู้โดยสารเอกชนอีก 4,000 คัน หันมาติดตั้งจีพีเอสเพิ่มขึ้น เพราะถือเป็นอุปกรณ์ช่วยกำกับดูแลความปลอดภัย และช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ หากรถคันไหนวิ่งเร็วเกินกฎหมายกำหนดหรือออกนอกเส้นทาง หรือวิ่งโดยไม่มีการพักรถตามกฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์จีพีเอสสามารถโทรศัพท์ตักเตือนได้ทันที ส่วนรถ บขส.ติดตั้งระบบจีพีเอสครบแล้ว 800 คัน

ด้านนายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2557 จะเริ่มให้รถโดยสารร่วมบริการเอกชนเข้ามาติดระบบจีพีเอส โดยนำร่องกับรถตู้โดยสารร่วมบริการก่อน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุบ่อย จากนั้นจะทยอยติดตั้งในรถโดยสารร่วมบริการ คาดว่าจะติดตั้งเสร็จภายในปี 2557 แน่นอน รวมทั้งกรมฯ เตรียมเจรจาผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือขอปรับลดค่าเช่าสัญญาณจีพีเอสลดลงจากเดือนละ 300 บาท เหลือ 100 บาท แต่ผู้ประกอบการยังลงทุนติดตั้งระบบจีพีเอสเองประมาณ 10,000 บาทต่อกล่อง ส่วนการตรวจสภาพรถโดยสารสาธารณะได้ทำแบบเข้มข้น และต้องตรวจสภาพทุก 6 เดือน โดยเฉพาะรถโดยสาร 2 ชั้น จะต้องมีการโน้มเอียงของตัวรถไม่น้อยกว่า 30 องศา

ที่มา: http://www.thairath.co.th