ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานชมรมแพทย์ชนบท รับภารกิจหลายครั้งไม่สอดคล้องนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เหตุการทำงานเหมือนเอ็นจีโอ ความคิดย่อมแตกต่างจากระบบราชการ การวิพากษ์วิจารณ์อาจทำให้ผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วย เตรียมพบ รมว.สธ. หลังตั้งครม.แล้วเสร็จถกปมใหญ่ “ 30 บาทรักษาทุกที่” และระบบสุขภาพปฐมภูมิ

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567 ที่อาคารสุขภาพแห่งชาติ  ภายในงานประชุมวิชาการเพื่อพัฒนาเครือข่ายสังคมสุขภาวะและนโยบายครั้งที่ 9/2567  นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.สะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท ให้สัมภาษณ์ประเด็นขบวนการแพทย์ชนบท มีแนวคิดที่หลายครั้งไม่สอดคล้องตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ว่า ต้องทําความเข้าใจก่อนว่าขบวนการแพทย์ชนบทหรือชมรมแพทย์ชนบทเป็นเหมือน เอ็นจีโอ คือ เราเป็นพลเมืองที่รวมตัวกันด้วยอุดมคติร่วมกัน แน่นอนว่าความคิดความฝันของเราย่อมแตกต่างจากระบบราชการ  ที่เราสังกัดอยู่ได้เพราะเราเป็น "เอ็นจีโอ" ที่อยู่ในระบบราชการ

"ดังนั้น การวิพากษ์วิจารณ์การให้ความเห็นต่อสิ่งที่เรารู้สึกว่าไม่ใช่ก็ย่อมทําให้ผู้ใหญ่ของเราไม่โอเค ไม่เห็นด้วย แล้วก็มีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องของ ราชการทําแบบนี้ไม่ได้  ดังนั้นความขัดแย้งระหว่างชมรมแพทย์ชนบทกับผู้มีอํานาจก็น่าจะยังคงอยู่ตลอดไป เพราะว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของเรา เพราะว่าเราเป็นข้าราชการ แต่เราเป็นพลเมืองด้วย แล้วเราแสดงออกในหมวกของความเป็นพลเมือง ในความเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์"   นพ.สุภัทร  กล่าว

เมื่อถามว่าได้หารือกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการ สธ.บ้างหรือไม่ นพ.สุภัทร กล่าวว่า เดี๋ยวรอให้ท่านได้รับการแต่งตั้งก่อน เร็วๆนี้คงจะต้องมีการพูดคุยกันแน่นอน

เมื่อถามว่ามีเรื่องอะไรที่อยากจะเสนอบ้าง  นพ.สุภัทร กล่าวว่า เรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด ซึ่งก็เป็นนโยบายสําคัญของทางรัฐบาลด้วยที่จะทํา 30 บาทรักษาทุกที่ แล้วก็ระบบบริการปฐมภูมิที่จะสามารถให้ประชาชนเข้าถึงได้ดีที่สุด 

เมื่อถามว่าจําเป็นต้องเพิ่มงบบัตรทองหรือไม่ นพ.สุภัทร กล่าวว่า งบบัตรทองเพิ่มทุกปีอยู่แล้วโดยปกติ แต่ว่าสิ่งสําคัญคือเรื่องการบริหารจัดการ และการวางรากฐานมากกว่า เพราะว่าระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าก็ถูกวางรากฐานมาประมาณ 20 ปีแล้ว ปัจจุบันสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปมาก เราต้องการการวางรากฐานที่ที่มั่นคงขึ้น ซึ่งอันนี้ต้องคุยกันพอสมควร