แพทยสภาเผยสอบจริยธรรม “หมอเกศ” อยู่ระหว่างดำเนินการ ตามข้อบังคับไม่เกิน 180 วัน

เลขาธิการแพทยสภา เผยยังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบของอนุกรรมการจริยธรรม กรณี “หมอเกศ” ปมวุฒิทางการแพทย์ไม่ตรงวุฒิการศึกษา ชี้เป็นการขอข้อมูลทางเอกสารเบื้องต้น ก่อนเชิญพบอีกครั้ง ส่วนระยะเวลาการตรวจสอบไม่เกิน 180 วันตามข้อบังคับแพทยสภาว่ามีมูลจริงหรือไม่  

ตามที่คณะกรรมการแพทยสภาได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาพิจารณากรณี พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ"หมอเกศ" สว.กลุ่ม19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) กรอกประวัติเป็น “แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม” ซึ่งไม่ได้เป็นความเชี่ยวชาญที่มีการรับรองโดยแพทยสภา และบอร์ดแพทยสภามีมติให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้

ล่าสุดวันที่ 8 สิงหาคม พล.อ.ท.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบด้านจริยธรรม กรณี พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ"หมอเกศ" สว.กลุ่ม19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ)  ว่า กรณีสว.รายดังกล่าว มีผู้ร้องเรียนให้พิจารณาเรื่องของวุฒิทางการแพทย์ที่ไม่ตรงกับวุฒิการศึกษา ซึ่งกรรมการแพทยสภาได้รับเรื่อง และตั้งเรื่องเป็นกรณีจริยธรรมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการของอนุกรรมการจริยธรรม ในการสอบข้อมูลข้อเท็จจริงจากแหล่งที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งเอกสารจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  และเอกสารจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเอกสารจากเจ้าตัว  เพื่อมาตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป

“ขณะนี้จึงยังอยู่ระหว่างกระบวนการดำเนินการ ปกติจะใช้เวลาไม่นาน ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับ และการตรวจสอบข้อมูล” เลขาธิการแพทยสภา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าปกติการตรวจสอบข้อมูลด้านจริยธรรมต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่  พล.อ.ท.นพ.อิทธพร กล่าวว่า คดีจริยธรรมต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งระยะเวลาคดีจริยธรรมต้องไม่เกิน 180 วันตามข้อบังคับจริยธรรมแพทยสภา ว่ามีมูลทางจริยธรรมหรือไม่ และจะมีขั้นตอนสอบสวน เพื่อพิจารณาการลงโทษหากมีมูลผิดจริง  ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งข้อมูลมาประกอบการพิจารณาเป็นการขอข้อมูลทางเอกสารในเบื้องต้นก่อนที่จะเชิญมาพบ เป็นขั้นตอนต่อไป เพื่อให้โอกาสได้นำเสนอข้อเท็จจริง กับคณะอนุกรรมการจริยธรรม เพื่อความเป็นธรรม ตามข้อบังคับแพทยสภา

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สำหรับการพิจารณาจะมีการพิจารณาประโยคที่มีปัญหา คือ  “แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม”  กับวุฒิที่มีการเรียน กับสถาบันที่จบการศึกษา