“หมอประดิษฐ์” หนุนร่างกฎหมายแยกตัวออกจาก ก.พ. มองเชิงบวก ครั้งนี้การเมืองให้ความสำคัญ

ที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์รพศ./รพท. มอง “กฎหมายแยกออกจาก ก.พ.” ตอบโจทย์ปัญหาสธ.ได้ แม้ไม่ทั้งหมด แต่จะช่วยบริหารจัดการกำลังคนง่ายขึ้น ชี้ครั้งนี้แตกต่าง มีแนวโน้มสำเร็จ เพราะทางการเมืองเห็นปัญหา และให้ความสำคัญ

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร ที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป(สพศท.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จัดทำ (ร่าง) พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการสาธารณสุข พ.ศ.. โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นในเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข และเว็บไซต์LAW ระบบกลางทางกฎหมาย ถึงวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ว่า ตนได้เข้าไปอ่านเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ฯ บ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม มองว่าน่าจะตอบโจทย์ปัญหาของกระทรวงสาธารณสุขได้ อาจไม่ใช่ทุกอย่าง แต่การบริหารจัดการกำลังคนจะง่ายขึ้น เป็นตัวช่วย เนื่องจากปัจจุบันติดกรอบต่างๆค่อนข้างมาก ทั้งๆที่บริบทของสาธารณสุข โดยเฉพาะกำลังคนเป็นปัญหาใหญ่ แต่กรอบของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)ในปัจจุบันอาจไม่ตอบโจทย์นัก โดยเฉพาะบุคลากร

“ดังนั้น หากกระทรวงสาธารณสุข สามารถบริหารจัดการเอง โดยเฉพาะกรอบอัตรากำลัง ก็จะทำให้การปฏิบัติงาน การบริการประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นพ.ประดิษฐ์ กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ส่วนข้อกังวลเรื่องกระทรวงสาธารณสุข มีหลากหลายวิชาชีพ จะตอบโจทย์ได้ทั้งหมดหรือไม่นั้น ตนมองว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าปัจจุบัน ที่ติดกรอบ ก.พ.ไปหมด

เมื่อถามว่านอกจากอัตรากำลัง มองว่าจะตอบโจทย์แก้ไขปัญหาภาระงาน เงินเดือนได้หรือไม่ นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า แก้ไขได้บางส่วน หากบริหารจัดการเองแล้วก็จะสามารถออกกฎระเบียบที่เอื้อต่อการทำงาน ที่ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตได้มากขึ้น เพียงแต่ด้วยกระทรวงสาธารณสุข มีหลายวิชาชีพก็อาจจะมีปัญหาบ้าง แต่คาดว่าจะบริหารจัดการได้ ดีกว่าติดกรอบทุกวันนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่ปรึกษาสพศท. มีข้อเสนออะไรต่อร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า จริงๆอันนี้เป็นร่างพ.ร.บ.ฯ เมื่อเข้าไปสู่สภาฯ ก็จะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมได้อีก ซึ่งส่วนตัวมองว่าเบื้องต้นไม่มีปัญหา ขอให้ผ่านขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นก่อน จากนั้นรายละเอียดสามารถปรับเพิ่มเติมได้

ถามว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวคาดว่าจะสำเร็จออกมาได้หรือไม่ เนื่องจากในอดีตมีความพยายามผลักดันแต่ไม่สำเร็จ นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า มีแนวโน้มสำเร็จ เพราะครั้งนี้ทางการเมือง เห็นปัญหาค่อนข้างเยอะแล้ว ปัญหาสาธารณสุขสะสมหมักหมมมานาน ซึ่งที่ผ่านมาการเมืองอาจไม่ได้มองมากนัก แต่ขณะนี้ทางรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดูจากทิศทางมีความตั้งใจในการแก้ปัญหา จึงคิดว่าเป็นสัญญาณที่ดี เป็นไปในเชิงบวก มองว่าจะราบรื่น

(ข่าวเกี่ยวข้อง : มุมมอง “ประธาน สพศท.” คนใหม่ ต่อการผลักดันกฎหมายแยกตัวออกจาก ก.พ. ครั้งนี้แตกต่างจากอดีต)