ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ชาวม้งหวั่น รบ.นำกัญชงเป็นยาเสพติด! ก้าวไกล ชี้ชาวบ้านนำมาแปรรูปเป็นสินค้า พัฒนาต่อยอดได้อีกเยอะ หนุนเป็นซอฟต์พาวเวอร์ สร้างอาชีพ แนะแยกควบคุมกัญชา ยกเว้นกัญชงอย่างชัดเจน  

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 8 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ตอนหนึ่งว่า ขอหารือผ่านไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) โดยเมื่อวันที่ 12-14 กรกฎาคม ตนและเครือข่ายชาติพันธุ์พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ไปจัดอบรมพัฒนาสินค้าจากผ้าใยกัญชงให้แก่กลุ่มแม่บ้านชาวม้ง ที่อ.พบพระ จ.ตาก

จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ พบว่า ชาวม้งที่นั่นปลูกกัญชงรวมกันมากถึงหลายพันไร่ สำหรับชาวม้ง กัญชงถูกใช้ประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ และแปรรูปเป็นสินค้าประเภทต่าง ๆ เช่น สบู่ ยาสระผม น้ำมัน โดยเฉพาะผ้าใยกัญชง ที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกเยอะ ในประเทศไทยทำได้ในขั้นพื้นฐาน แต่ยังมีโอกาสพัฒนาเป็นสินค้าที่เชื่อมโยงคุณค่าทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ม้งสู่สากลได้

"นโยบายของรัฐบาลไทยยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ชาวบ้านที่อำเภอพบพระ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และแสดงความกังวลต่อท่าทีของรัฐบาลที่พยายามจะเอากัญชงพ่วงกับกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม นั่นจะเป็นการตัดโอกาสพัฒนาเศรษฐกิจ จากฐานวัฒนธรรมของชาวม้ง ผมจึงขอเรียนไปยัง รมว.สธ. ว่า ความจริงกัญชงและกัญชามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ" นายเลาฟั้ง กล่าวและว่า กัญชงไม่อาจนำมาเสพแบบเดียวกับกัญชาได้ แต่มีคุณประโยชน์ ด้านการเป็นอาหาร เป็นยา โดยเฉพาะการเป็นสิ่งทอ ซี่งจะสามารถนำไปสู่การพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ชาวบ้านระดับรากหญ้าได้จริง ๆ เป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น การดำเนินงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการควบคุมกัญชา ให้แยกกัญชงออกจากกัญชา ไม่ว่าจะเป็นวิธีกำหนดด้วยปริมาณขั้นสูงของสาร THC (Tetrahydrocannabinol) หรือระบุว่า ให้ยกเว้นกัญชงอย่างชัดเจน เพื่อเปิดโอกาสให้เศรษฐกิจจากกัญชงของชาวบ้าน สามารถพัฒนาและต่อยอดเป็นทางเลือกสำหรับอาชีพของคนรุ่นใหม่ได้