เทศบาลตำบลส่องดาวหนองแดง จ.สกลนคร ใช้กลไก “กปท.” รุกจัดโครงการคัดกรองสายตาและมอบแว่นตาให้กับผู้สูงอายุ ช่วยเพิ่มการมองเห็นที่ชัดเจน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.กวี วีระเศรษฐกุล ผอ.สปสช.เขต 8 อุดรธานี นพ.นพรัตน์ พันธุ์เศรษฐ์ รองผู้อำนวยการ สปสช.เขต 8 อุดรธานี พร้อมคณะ ร่วมประชุมติดตามและรับฟังความคิดเห็นผลการดำเนิน “โครงการคัดกรองความผิดปกติสายและแก้ไขปัญหาการมองเห็นไม่ชัดในกลุ่มผู้สูงอายุในเทศบาลตำบลส่องดาวหนองแดง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร” ซึ่งดำเนินการโดยงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) เทศบาลตำบลส่องดาวหนองแดง  อ.ส่องดาว จ.สกลนคร 

 

โครงการคัดกรองความผิดปกติสายและแก้ไขปัญหาการมองเห็นไม่ชัดในกลุ่มผู้สูงอายุ

นายทองออน ป้องคำสิงห์  นายกเทศมนตรีส่องดาวหนองแดง กล่าวว่า โครงการคัดกรองความผิดปกติสายและแก้ไขปัญหาการมองเห็นไม่ชัดในกลุ่มผู้สูงอายุในเทศบาลตำบลส่องดาวหนองแดง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เทศบาลตำบลได้จัดสรรงบประมาณแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุที่มีความผิดปกติทางสายให้ได้รับแว่นสายตาและเข้าถึงบริการสาธารณสุขในระดับชุมชนได้อย่างทั่วถึง โดยโครงการดังกล่าวดำเนินการโดยโรงพยาบาลส่องดาว จ.สกลนคร ได้รับสนับสนุนงบประมาณจาก กปท.ส่องดาวหนองแดง เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น  51,600 บาท    

นายวิชาญ ดาทุมมา นายอำเภอส่องดาว จ.สกลนคร กล่าวว่า โครงการคัดกรองความผิดปกติสายตา และแก้ไขปัญหาการมองเห็นไม่ชัดในกลุ่มผู้สูงอายุ มีวิธีการดำเนินงานคือจะมีการให้ อสม. ลงพื้นที่เพื่อสำรวจ และคัดเลือกผู้สูงอายุที่มีปัญหาทางด้านสายตาที่มีความต้องการแว่นตาเร่งด่วนให้มารับแว่นตาก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสายตายาว-สั้นมากๆ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งแค่ตำบลเดียวก็มีมากถึง 358 ราย และยังเหลือสูงอายุอีกมากที่ยังเข้าไม่ถึงการคัดกรอง หลังจากนั้นจะมีการเสนอกับทาง สปสช. แล้วจะมีการอนุมัติงบประมาณส่วนหนึ่งมาสนับสนุนโครงการ ขณะเดียวกันก็จะมีงบประมาณจากท้องถิ่นร่วมด้วย 

การมีแว่นตาเป็นของตัวเองสามารถช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและจิตใจของผู้สูงอายุ

 

“การมีแว่นตาเป็นของตัวเองสามารถช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและจิตใจของผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี เพราะการที่สามารถมองเห็นได้ชัดจะช่วยให้ผู้สูงอายุยังสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียวจะสามารถดูทีวี หรือทำสิ่งที่อยากทำได้ไม่ต้องรบกวนลูกหลาน 
ในอนาคตจึงหวังว่า ผู้สูงอายุทุกรายในพื้นที่จะสามารถได้รับแว่นตาทุกคน” นายวิชาญ กล่าว

นางเทวี เกศรี อายุ 74 ปี ผู้สูงอายุที่ได้รับแว่นตา เปิดเผยว่า หลังจากอายุ 70 ปีเป็นต้นมา ก็เริ่มมีปัญหาสายตามองไม่ชัด เวลาทำกิจกรรมต่างๆ ถึงแม้จะยังสามารถทำได้ปกติ แต่ก็ต้องใช้สายตาเพ่งเล็งมากกว่าเดิม และต้องทำในระยะใกล้ๆ แต่หลังจากที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้เข้ามาแนะนำโครงการ และได้รับมอบแว่นตาอันใหม่ ก็ทำให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง จึงอยากขอบคุณผู้ที่ทำโครงการนี้ด้วย

ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ

ด้าน ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ โดยมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มใหม่ปีละ 1 ล้านคน และด้วยสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย จึงเป็นกลุ่มประชากรที่ต้องให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพอย่างยิ่ง กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้ปี 2566 เป็น “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง พร้อมมอบบริการและวัสดุอุปกรณ์เพื่อการดูแลสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ เป็นของขวัญปีใหม่ตลอดปี 2566

ทั้งนี้ สปสช. สนับสนุนให้แต่ละพื้นที่จัดทำโครงการขอรับงบประมาณจาก กปท. ในการค้นหา คัดกรอง จัดซื้อแว่นสายตาและส่งต่อผู้สูงอายุที่มีความผิดปกติทางการมองเห็นอื่นๆ เข้าสู่ระบบการดูแลรักษา เป้าหมาย 5 แสนราย งบประมาณดำเนินการจำนวน 60 ล้านบาท