สธ.เผยโควิดพบคลัสเตอร์บางพื้นที่ เน้นเฝ้าระวัง 6 จังหวัดเหตุยังพบการติดเชื้อ มีนครศรีธรรมราช เชียงใหม่ ตาก ระยอง จันทบุรี และขอนแก่น ส่วนพบกรณีแคมป์คนงานติดโควิดในกระทรวงสาธารณสุข ขอย้ำ! ไม่ต้องกังวล มีระบบมีบับ เบิ้ล แอนด์ ซีล
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โควิด 19 และการฉีดวัคซีน ว่า สถานการณ์โควิด 19 ภาพรวมของประเทศไทยแนวโน้มการติดเชื้อลดลง แต่ยังพบคลัสเตอร์ในบางพื้นที่ ต้องเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ 6 จังหวัดได้แก่ นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ ตาก ระยอง จันทบุรี และขอนแก่น โดยจะเห็นว่า 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนและเพิ่มสูงขึ้นจึงต้องมีการจับตามอง
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ส่วนที่เชียงใหม่พบการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในตลาด และสถานประกอบการ พบเปอร์เซ็นการสัมผัสสูงในชุมชน และครอบครัว ทั้งนี้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์และวิเคราะห์ โดยตามสมมติฐานก่อนหน้านี้ว่ามีการเชื่อมโยงกับแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว เพราะมีการเคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่ ส่วนนี้จึงสำคัญมากในการทำให้ได้รับการฉีดวัคซีนและมีมาตรการป้องกันต่างๆ รวมถึงการจะรับแรงงานต่างด้าวเข้ามาจะต้องเข้ามาตามช่องทางที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเชียงใหม่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวจึงมีความเข้มงวด มีการประเมินมาตรการต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่ถือว่าการเตรียมพร้อมทำได้เต็มที่ มีการเร่งรัดตรวจหาเชื้อด้วย ATK มีที่กักตัวที่บ้าน ที่ชุมชน เพื่อลดความหนาแน่นในรพ. ให้รพ.พร้อมรับผู้ป่วยกาอาการสีเหลือง สีแดง
นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ มีบางจังหวัดที่พบการติดเชื้อในเรือนจำสูงขึ้น เช่น จ.สุรินทร์ และขอนแก่น มีเลข 2 หลักต่อวัน ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่สุรินทร์มีผู้ติดเชื้อ 184 ราย และวันนี้ติดชเชื้อ 328 ราย ส่วนที่ขอนแก่น รายงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ติดเชื้อ 95 รายและ วันที่ 1 พ.ย. มีรายงานติดเชื้อ 100 ราย ซึ่งจะมีมาตรการควบคุมป้องกันโรคจากประสบการณ์เดิมมาใช้ในการควบคุมโรคในเรือนจำ นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อในบุคลากรการแพทย์ในกทม. 30 ราย ปริมณฑล 5 ราย และต่างจังหวัดรวม25 ราย งานบุญบั้งไฟที่อุดรธานี 5 ราย งานแข่งฟุตบอล ที่จ.เลย 10 ราย ในกลุ่มแรงงานจันทบุรี 12 ราย ตราด 15 ราย โรงเรียน/วิทยาลัยที่แม่ฮ่องสอน 2 ราย เชียงใหม่ 2 ราย งานแต่งที่เชียงใหม่ 9 ราย กาญจนบุรี 8 ราย ร้านอาหารทะเลที่อุดีฯ 7 ราย แคมป์คนงานที่ชลบุรี 30 ราย นครนายก 36 ราย เชียงใหม่ 9 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 21 ราย
“สำหรับกรณีกรณีพบผู้ติดเชื้อเป็นคลัตเตอร์ต่างๆ รวมถึงคลัสเตอร์แคมป์คนงานภายในกระทรวงสาธารณสุขนั้น ย้ำว่าจะอยู่ร่วมกันได้ อยู่ที่มาตรฐานควบคุม จึงไม่อยากให้วิตกกังวลเกินไป วิธีการ คือ มีการสอบสวนโรค ดูขอบเขตความสัมพันธ์ เชื่อมโยงเกี่ยวข้อง และมีบับ เบิ้ล แอนด์ ซีล ยังมีคนที่ไม่ติดเชื้อ จึงสามารถทำงานต่อได้ โดยไม่จำเป็นต้องปิด หรือหยุดกิจกรรมนั้นๆ ตอนนี้แคมป์คนงานก่อสร้างในกระทรวงสาธารณสุขได้รับการดูแลอย่างดี ขอให้อย่ากังวล เรามีการเฝ้าระวงสังเกตคนเกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัย” นพ.เฉวตสรร กล่าว
นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า กรณีที่ประเทศมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจากประเทศที่กำหนดคือ 63 ประเทศ ซึ่งก่อนเดินทางตรวจไม่พบเชื้อ เมื่อมาถึงประเทศไทยก็ตรวจซ้ำ หากไม่พบเชื้อ ก็สามารถไปเที่ยวที่พื้นที่ใดก็ได้ ไม่มีการจำกัด ไม่มีการกักตัว ดังนั้นพี่น้องทั้ง 77 จังหวัดอาจจะมีโอกาสเจอนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่ได้ แต่ส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะมีการเดินทางใน 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวหนาแน่นกว่า ซึ่งข้อหนึ่งคือนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนแล้ว ขณะที่ผู้ประกอบการได้เตรียมการเพื่อรองรับอยู่แล้ว อีกทั้งหน่วยงานด้านสาธารณสุขและภาคอื่น ๆ มีการเตรียมการรับรองหากเกิดเหตุการณ์สถานการณ์โรคระดับใดก็จะใช้แผนเผชิญเหตุดำเนินการอย่างไร และมีการเตรียมเอาไว้ให้หมดแล้ว แต่ก็อขอความร่วมมือประชาชนในการป้องกันตนเองสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น.
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 29 views