สภาการสาธารณสุขชุมชน เตรียมยื่นหนังสือถึง “อนุทิน” และผู้บริหาร สธ.พิจารณาการบรรจุข้าราชการอย่างเป็นธรรม วอนบรรจุรอบใหม่ ขอกลุ่ม รพ.สต.ถูกคัดเลือกกลุ่มแรก หลังก่อนหน้าเป็นกลุ่มสุดท้าย ทั้งที่เป็นด่านหน้าการทำงานโควิด19 ขณะที่การบรรจุเฉพาะกิจพนง.ราชการ หลัง 1 ปีอาจเคว้งวอนช่วยเหลือ
ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มอบนโยบายผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเร่งสร้างขวัญกำลังใจบุคลากรกระทรวงที่ทำงานต่อสู้โรคโควิด-19 ทั้งการขยายการบรรจุอัตราข้าราชการตั้งใหม่ การเพิ่มอายุราชการทวีคูณ การจ้างงานเฉพาะกิจพนักงานราชการ รวมไปถึงค่าตอบแทนการปฏิบัติต่างๆตามเกณฑ์กำหนดนั้น
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2564 นายริซกี สาร๊ะ รองเลขาธิการสภาการสาธารณสุขชุมชน และโฆษกสภาการสาธารณสุขชุมชน กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า จากนโยบายท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานโควิด19 ทางสภาเล็งเห็นว่า เป็นสิ่งที่ดีและต้องขอขอบพระคุณ แต่ด้วยปีนี้คนทำงานด่านหน้าทำงานกันหนักมาก จากจำนวนผู้ป่วยที่พุ่งขึ้นสูง คลัสเตอร์ต่างๆมาตลอด รวมไปถึงการระดมตรวจโควิดด้วยชุด ATK ในทุกเซตติ้ง มีการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข็มแข็ง รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขจึงควรมีแนวทางปลุกขวัญกำลังใจ และความก้าวหน้าอย่างเป็นธรรมเหมาะสมจริงๆ
นายริซกี กล่าวว่า ทางสภาเตรียมรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการ สธ. และนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ. เร็วๆนี้ เบื้องต้น คือ 1. ขอให้การบรรจุรอบนี้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ได้ถูกบรรจุเป็นกลุ่มแรกๆ ไม่เหมือนการบรรจุข้าราชการโควิดรอบที่ผ่านมา รพ.สต. ซึ่งปฏิบัติงานด่านหน้ากลับถูกบรรจุรอบสุดท้าย 2. จากการบริหารจัดการกำลังคนโดยจำแนกตามภารกิจส่วนราชการออกเป็น 1.1) ภารกิจหลัก หรือกลุ่ม G1 1.2) ภารกิจสนับสนุนทางวิชาการ หรือกลุ่ม G2 และ 1.3) ภารกิจสนับสนุนการบริหารจัดการ หรือกลุ่ม G3 ดังนั้น สำหรับกลุ่มด่านหน้า รพ.สต. ควรอยู่ในกลุ่มภารกิจหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่ทำงานคลุกคลีกับผู้ป่วย ลงพื้นที่ต่อเนื่องมาตลอด กล่าวคือ การคัดเลือกกลุ่มที่จะได้รับการบรรจุต้องคำนึงทั้งพื้นที่และวิชาชีพร่วมด้วย
3.ในส่วนของการจ้างงานเฉพาะกิจพนักงานราชการ ตามมติคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 กรอบอัตรากำลัง 5 พันอัตรา ไม่เกิน 1 ปี เป็นนายแพทย์ 504 อัตรา พยาบาลวิชาชีพ 3,945 อัตรา และนักวิชาการสาธารณสุข 551 อัตรา ใช้งบประมาณ 4,335 ล้านบาทนั้น ในส่วนนี้เป็นการดำเนินการก่อนจะมีการขยายการบรรจุข้าราชการรอบใหม่ ซึ่งกลุ่มที่ได้รับการจ้างงานเฉพาะกิจเป็นแบบปีต่อปี โดยไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการบรรจุข้าราชการ และเมื่อครบสัญญาจ้างพนักงานราชการ 1 ปี พวกเขาอาจถูกกลับไปเป็นสถานะการจ้างเหมา หรืออย่างไรยังไม่ทราบ จึงขอความกรุณาทางผู้บริหารหามาตรการรองรับช่วยเหลือกลุ่มนี้ด้วย
“4.ขอให้มีการพิจารณาสัดส่วนการบรรจุของนักวิชาการสาธารณสุขเพิ่มขึ้น หลังจากการบรรจุรอบที่ผ่านมานักวิชาการสาธารณสุข มีสายงานอื่นที่สอบใบประกอบวิชาชีพไม่ผ่านมาใช้ตำแหน่งบรรจุ ทำให้นักวิชาการสาธารณสุขตัวจริง จบโดยตรงได้รับการบรรจุในจำนวนน้อย และในปี 2564 นี้จะมีกลุ่มนักวิชาการสาธารณสุขจบใหม่อีก จึงขอสัดส่วนบรรจุเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วย” นายริซกี กล่าว
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 166 views