ศบค.เผยกรณีบริษัทผลิตสื่อติดโควิดตั้งแต่ พ.ค. ถึง 5 มิ.ย. ย้ำ! ยังไม่ใช่คลัสเตอร์ อยู่ระหว่างสอบสวนโรคเพิ่ม

ศบค.เผยตัวเลขฉีดวัคซีนโควิดตั้งแต่ 28 ก.พ.ถึง 15 มิ.ย. 64 สะสม 6,780,816 โดส จากจำนวนจัดสรร 7,111,968 โดส ขณะเดียวกันยังพบคลัสเตอร์ใหม่เรื่อยๆ ด้าน “หมออภิสมัย” ย้ำกรณีบริษัทผลิตสื่อพบติดเชื้อตั้งแต่ พ.ค.ประปรายจนถึง 5 มิ.ย. ยังไม่ใช่คลัสเตอร์ใหม่ แต่พบติดเชื้อพิธีกร ฝ่ายคอสตูม รวมทั้งช่างเทคนิค ตัดต่อ ฝ่ายเสียง รอ คร.สอบสวนโรคเพิ่มเติม

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงจำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด19 ว่า สรุปการฉีดวัคซีนโควิด19 ข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. จนถึงวันที่ 15 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา สะสม 6,780,816 โดส เข็มแรกฉีดไปแล้ว 4,948,227 ราย เข็มที่ 2 ฉีดไปแล้ว 1,832,589 ราย จากจำนวนจัดสรรไปแล้ว 7,111,968 โดส ซึ่งเกือบจะฉีดได้ครบถ้วนจากจำนวนที่จัดสรรไป อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกตามกลุ่มเป้าหมายพบว่า บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ฉีดเข็ม 2 แล้วร้อยละ 88.3 ส่วนเจ้าหน้าที่ด่านหน้าฉีดเข็ม 2 ไปแล้วร้อยละ 14.6 อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเข็ม 2 ฉีดแล้วร้อยละ 12.1

“ส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มแรกฉีดไปร้อยละ 8.4 ประชาชนทั่วไปฉีดเข็มที่ 1 ร้อยละ 7.6 ผู้อายุ 60 ปีขึ้นไปเข็ม 1 ฉีดไปร้อยละ 6.8 ถือว่าเป็นตัวเลขคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง” พญ.อภิสมัย กล่าว

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ติดโควิดรายวัน พบว่า วันนี้(16 มิ.ย.) พบติดเชื้อรายใหม่ 2,331 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,276 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 29 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 26 ราย ผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่(1 เม.ย.-16 มิ.ย.) 175,732 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 204,595 ราย ขณะที่ผู้รักษาตัว 35,405 ราย อยู่ในรพ. 10,383 ราย และในรพ.สนาม 25,022 ราย อาการหนัก 1,306 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 364 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้ 40 คน ตัวเลขเสียชีวิตสะสมระลอกใหม่ 1,431 คน

สำหรับผู้เสียชีวิตวันนี้ 40 ราย พบว่า อายุค่อนข้างน้อย คือ 34 ปี มากสุด 90 ปี เฉลี่ยค่ากลาง 63 ปี โดยจำนวนวันนอนเตียงในรพ.นานสุด 44 วัน โดยแบ่งเป็นชาย 24 ราย และหญิง 16 ราย มาจากกรุงเทพฯ 20 ราย นครปฐม 5 ราย พระนครศรีอยุธยา 4 ราย และชลบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย ส่วนที่เหลือจังหวัดละ 1 ราย มีเพชรบุรี ราชบุรี นครสวรรค์ พัทลุง สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อยังพบว่ามาจากคนในครอบครัว คนอื่นๆ เช่น เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน ผู้ป่วยที่ รพ. ผู้ดูแล ร่วมรับประทานอาหาร เป็นต้น

ขณะที่ผู้เดินทางจากต่างประเทศมี 29 รายส่วนใหญ่เดินทางมาอย่างถูกต้อง มีส่วนกัมพูชา มีรายงาน 26 รายเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติผิดกฎหมายมากถึง 12 ราย เข้ามาทางด่านจันทบุรี สระแก้ว ซึ่งทางพื้นที่จำเป็นต้องกำชับอย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ กทม.ยังเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมานนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี สำหรับพื้นที่นนทบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่ ที่พื้นที่ไทรน้อย บริษัทกระจกอะลูมิเนียม น่าจะเกี่ยวพันกับแคมป์ก่อสร้าง ส่วนบางบัวทอง บริษัทอะลูมิเนียมเช่นกัน ขณะที่สมุทรปราการ ก็พบคลัสเตอร์ใหม่เป็นบริษัทเสื้อผ้า บริษัทผลิตซอสปรุงรส แม้ตัวเลขไม่มาก แต่เจอทุกวัน ที่น่าเป็นห่วงคือ เดิมเจอในโรงงานขนาดใหญ่ แต่ขณะนี้เจอในโรงงานขนาดเล็ก

ทั้งนี้ ยังมีปทุมธานี พบคลัสเตอร์ใหม่บริษัทนำเข้าเครื่องจักร 78 ราย อุทัยธานี เป็นโรงงานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จริงๆ ตรงนี้มีรายงานบริษัทผลิตสื่อ แต่ไม่ได้เอาขึ้นมาเพราะอยู่ระหว่างสอบสวนโรค เบื้องต้นพบว่า มีการติดเชื้อประปรายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยพบในฝ่ายข่าว แต่ไม่เป็นคลัสเตอร์ และสัปดาห์ที่ 2 และ 3 ของเดือน พ.ค. บริษัทมีการดำเนินการปกติ และเริ่มมีรายงานติดเชื้อพบบุคลากรจากฝ่ายถ่ายทอดสด ฝ่ายสถานี ฝ่ายถ่ายทำรายการ เป็นต้น จนกระทั่งวันที่ 5 มิ.ย. เริ่มพบติดเชื้อหลายราย ทั้งพิธีกร ฝ่ายคอสตูม รวมทั้งช่างเทคนิค ตัดต่อ ฝ่ายเสียง ในรายละเอียดขอให้รอกรมควบคุมโรคสอบสวนให้ครบถ้วนจะนำเสนอรายละเอียดอีกครั้ง