“หมอธีระวัฒน์” ตั้งคำถามวัคซีนโควิด ทั้งแอสตร้าฯ และmRNA

“หมอธีระวัฒน์” เผยกรณีรัฐระบุผลจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนเก้าเกิดได้ 5-42 วัน แต่ไม่ใช่มาตรฐานสากล ผลกระทบวัคซีนต้องดูระยะสั้น ระยะปานกลาง หรือ 3 เดือน

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2567 ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออกมหาวิทยาลัยรังสิต จัดคลินิกแพทย์เคลื่อนที่ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา  อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และนพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เข้าร่วมเสวนาครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “อันตรายจากวัคซีนโควิด” โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ผลกระทบวัคซีนที่เป็นข่าวไปทั่วโลกภายใน 3-4 วันนี้ คือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า  มีการยอมรับผลข้างเคียงวัคซีนโควิดเกิดขึ้น ที่ทางการประกาศออกมาว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะประเทศไทยไม่มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าใช้แล้ว ที่ระบุว่า ภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังการฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ จะเกิดขึ้นหลังการรับวัคซีน 5-42 วัน หากเกินระยะเวลาแล้วเกิดผลกระทบนั้น ไม่นับว่าเกิดจากวัคซีนแอสตร้าฯ

“กรณีที่ทางการพูด ถือเป็นมาตรฐานที่ไม่ใช่สากลโลก ผลกระทบวัคซีน หากต้องดูผลกระทบในระยะสั้น หรือในระยะปานกลาง ต้องดูถึง 3 เดือน” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า กรณีผลกระทบจากวัคซีนโควิด โดยเฉพาะวัคซีน mRNA   มีข้อมูลเรื่องของผลกระทบระยะยาว เพราะเป็นวัคซีนที่ปรับแต่งพันธุกรรมให้เสถียรขึ้น  ทั้งหมดนี้พิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ว่า วัคซีนพวกนี้สามารถเข้าเซลล์มนุษย์ด้วยอนุภาคของนาโนไขมัน   สามารถเสียบเข้าในโครโมโซมมนุษย์ได้ โดยอยู่ในลำดับที่ 9 และ 12 อีกทั้งสามารถสร้างโปรตีนที่ประหลาดที่มนุษย์ไม่มี โปรตีนใหม่นั้นแม้ว่ายังไม่มีหลักฐานการวิจัยว่า เกิดโรคอะไรกับโปรตีนที่ผิดปกตินั้น แต่เมื่อรู้ว่า สามารถเสียบเข้าไปในเซลล์มนุษย์ได้ มีสิ่งปะปนแล้ว ทำไมยังควรใช้ต่อ

"ผลระยะยาว เกิดได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า  รวมโรคคล้ายอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน โรคแพ้ภูมิตัวเอง ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ อัมพาต อีกทั้งเรื่องของมะเร็งด้วย  ยังมีโรคคล้ายวัวบ้า ไม่ใช่รายงานจากฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังมีรายงานจากในยุโรป ตุรกี สิงคโปร์ และหลายประเทศ " ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เพิ่มเติมว่า ในกลุ่ม 608 และเด็ก ยืนยันว่า วัคซีนโควิดมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่า หากใช้วัคซีนในกลุ่ม 608 หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดี จะกระตุ้นให้เกิดกลไกการต่อสู้กับเชื้อโรคและมะเร็งน้อยลง นอกจากนี้ สำหรับกลุ่ม 608 ทางที่ดีควรใช้ยารักษา แต่วัคซีนไม่ใช่คำตอบสุดท้าย  รวมถึงภาวะสมองเสื่อมก็กังวลเช่นกัน