เปิดผลการพิจารณาสาเหตุเสียชีวิต 12 ราย ไม่เกี่ยวข้องฉีดวัคซีนโควิด

คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนโควิด ถึงวันที่ 8 มิ.ย. พบ 27 ราย ยังไม่รวมกรณีหญิง 46 ปีเสียชีวิต ล่าสุดสอบสวนหาสาเหตุพบ 12 รายเสียชีวิตไม่เกี่ยวกับวัคซีนโควิด แต่เป็นภาวะโรค อาทิ การอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลิ่มเลือดอุดตันในปอด ฯลฯ

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นับจากมีการฉีดวัคซีนโควิดในวงกว้าง ทำให้มีโอกาสเจออาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้ ซึ่งจะมีการรายงานภาพรวมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยสรุปการจัดสรรวัคซีนโควิด19 ให้หน่วยบริการตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 8 มิ.ย.2564 รวมการจัดสรรวัคซีนทั้งหมดจำนวน 6,756,493 โดส เป็นวัคซีนซิโนแวคจำนวน 4,982,313 โดส และวัคซีนแอสตราเซเนกาจำนวน 1,774,180 โดส

“ส่วนวันนี้(9 มิ.ย.)มีการฉีดวัคซีนโควิดเพิ่มอีก 472,128 โดส ซึ่งหากรวมตัวเลขการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. ที่มีการปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ทำให้ตัวเลขสะสมเป็นจำนวน 888,975 โดส ส่วนตัวเลขสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 64 ที่ผ่านมาจนถึง 8 มิ.ย. จำนวน 5,107,069 โดส ทั้งนี้ เป็นประเด็นสำคัญ เพราะการฉีดจำนวนมากๆต้องติดตามเรื่องความปลอดภัย จึงมีระบบในการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ของวัคซีน” นพ.เฉวตสรร กล่าว

สำหรับระบบการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ได้มีการเก็บรวบรวมทั้งหมด ตั้งแต่อาการเล็กๆ ไปจนถึงอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต ทั้งนี้ อาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงอาจเป็นปฏิกิริยาของร่างกาย ซึ่งใช้คำว่า “ผลข้างเคียง” ปฏิกิริยาของร่างกายที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ซึ่งวัคซีนก็เช่นกัน แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน เวลามีเชื้อโรคมาจริงๆ จะได้ไปต่อสู้เอาชนะ ในการช่วยลดความรุนแรง ลดการป่วย ลดการเสียชีวิต จนถึงลดการแพร่กระจายเชื้อ

“จากผลการพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญกรณีเสียชีวิตภายหลังการรับวัคซีนโควิด ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิ.ย. เวลา 16.30 น. มีทั้งหมด 27 รายยังไม่รวมกรณีหญิง 46 ปีที่เสียชีวิตล่าสุด โดยจำนวนนี้ได้รับการพิจารณาโดยคณะผู้เชี่ยวชาญฯ 12 ราย พบว่า ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน หรือการฉีดวัคซีนทั้ง 12 ราย โดยมีการสรุปสาเหตุทั้งหมดแล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ และเราจะมีการรายงานข้อมูลเป็นระยะ” นพ.เฉวตสรร กล่าว

นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า การจะรู้สาเหตุที่แท้จริง ต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูล และต้องมีกระบวนการที่ดูทั้งการดูแลรักษา การส่งตรวจใน รพ. การผ่าชันสูตรหลังเสียชีวิต ทั้งชิ้นเนื้อส่งตรวจเพื่ออธิบายสาเหตุก็สำคัญ อย่างกรณีการเสียชีวิตที่จ.ปทุมธานี พบผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน แต่เมื่อชันสูตรแล้วพบว่า มีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับวัคซีน เรียกว่าเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

(ข่าวเกี่ยวข้อง :ผู้เชี่ยวชาญสอบสวนหาสาเหตุหญิง 46 ปีเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนโควิดแอสตราฯ)

อนึ่ง สำหรับรายละเอียดผลการพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญฯที่มีการเผยแพร่ในสไลด์ภายในการแถลงครั้งนี้ ระบุว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตภายหลังรับวัคซีนที่ได้รับรายงาน 27 ราย (ไม่รวมกรณีล่าสุดคือ หญิงอายุ 46 ปีที่เสียชีวิต) พิจารณาแล้ว 12 ราย โดยไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่พบว่า กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน 8 ราย ภาวะ Immune Thrombotic thrombocytopenic purpura 1 ราย ลิ่มเลือดอุดตันในปอด 1 ราย purulent meningitis 1 ราย และเลือดออกในช่องท้องจาก Intraabdominal aneurysm 1 ราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตภายหลังได้รับวัคซีนโควิด ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค หรือรอผลการชันสูตรพลิกศพ 15 ราย