โควิด19 ติดเชื้อรายใหม่ 836 ราย คัดกรองเชิงรุก 793 ราย เฉพาะสมุทรสาคร 782 ราย ขณะที่ล่าสุดจ.มหาสารคามกรณีโต๊ะแชร์มีผู้ติดเชื้อรวม 16 ราย เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน และจ.ขอนแก่นที่มาร่วมโต๊ะแชร์อีก 1 ราย โดยกรณีนี้ผู้ป่วยยืนยันรายแรกเป็นชาย เดินทางมากทม.ช่วงต้นปี

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 ก.พ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) แถลงสถานการณ์ว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 836 ราย พบจากการเข้ารับบริการในระบบ 39 ราย พบในจ.สมุทรสาคร 32 ราย กรุงเทพฯ 5 ราย และราชบุรี 2 ราย คัดกรองเชิงรุก 793 ราย พบในจ.สมุทรสาคร 782 ราย มหาสารคาม 6 ราย และกรุงเทพฯ 5 ราย และเดินทางจากต่างประเทศ 4 ราย ผู้ป่วยสะสม 19,618 ราย รักษาหายแล้ว 12,514 ราย ยังรักษาอยู่ 7,027 ราย เสียชีวิตสะสม 77 คน เฉพาะรอบใหม่ติดเชื้อสะสม 15,381 ราย เสียชีวิตสะสม 17 ราย

สำหรับพื้นที่สมุทรสาคร มีการคัดกรองในโรงงาน ซึ่งโรงงานมีหลายแห่งที่มีพนักงานมากกว่า 1 หมื่นราย โดยเฉพาะในต.ท่าทรายและต.คลองมะเดื่อ มีการรายงานผู้ติดเชื้อมากถึง 40-50 % และในสัปดาห์นี้ตั้งแต่ 1-7 ก.พ.2564 จะยังมีการคัดกรองเชิงรุกต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าตัวเลขจะเบาบางลง และหากร่วมมือกันได้ดี จะมีมาตรการผ่อนคลายมากขึ้นในช่วงวันที่ 8-15 ก.พ. 2564 นอกจากนี้ จะเน้นมาตรการบับเบิ้ลไปครอบพื้นที่ที่มีการติดเชื้อค่อนข้างสูงไว้ โดยดูรายละเอียดว่าพื้นที่ระยะรัศมี 2 กิโลเมตร มีโรงงานกี่แห่ง มีคนงานกี่หมื่นและกี่รายที่ติดเชื้อและจะดูแลให้อยู่ในพื้นที่นั้น ซึ่งยังมีหอพัก ตลาด ชุมชน และกิจกรรมต่างๆ จะต้องมีการประชาสัมพันธ์คนในพื้นที่ให้อยู่ในพื้นที่กักกันเข้มงวดไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายแรงงานต้องขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และมีการตั้งจุดคัดกรองป้องกันไม่ให้พื้นที่มีการเดินทางสัญจรและแพร่กระจายเชื้อ จึงขอความร่วมมิอ งดเว้นการเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่และให้มีการเดินทางน้อยที่สุด เดินทางเฉพาะที่จำเป็น 

ส่วนพื้นที่กทม. มีการตรวจคัดกรองเชิงรุกใน 6 เขต คือ ภาษีเจริญ คัดกรอง 1,232 ราย พบติดเชื้อ 25 ราย บางบอนคัดกรอง 3,667 ราย พบติดเชื้อ 7 ราย บางขุนเทียนคัดกรอง 3,211 ราย พบติดเชื้อ 11 ราย หนองแขมคัดกรอง 720 ราย ไม่พบติดเชื้อ บางแคคัดกรอง 1,104 ราย ไพบติดเชื้อ 2 ราย และจอมทอง คัดกรอง 90 ราย ไม่พบเชื้อ รวมคัดกรองเชิงรุก 10,023 ราย พบติดเชื้อ 45 ราย คิดเป็น 0.45 %

พื้นที่มหาสารคาม กรณีโต๊ะแชร์มีผู้ติดเชื้อรายงานแล้วรวม 16 ราย เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน และจ.ขอนแก่นที่มาร่วมโต๊ะแชร์อีก 1 ราย กรณีเช่นนี้เป็นตัวอย่างพบได้บ่อยมาก ไม่เฉพาะพื้นที่มหาสารคาม โดยกลุ่มก้อนโต๊ะแชร์นี้ ผู้ป่วยยืนยันรายแรกเป็นชาย เดินทางมากทม.ช่วงต้นปี เชื่อว่ามีการติดเชื้อจากกทม. จากนั้นเดินทางกลับบ้านมหาสาครามเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2564โดยรถส่วนตัว แต่แวะอ.เมือง จ.นครราชสีมา เยี่ยมพี่สาว มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 ราย เดินทางกลับบ้านไปตลาดโต้รุ่ง และร้านอาหารต่างๆ จากนั้นมีงานเลี้ยงโต๊ะแชร์โดยรวมๆ ระหว่างวันที่ 10-21 ม.ค. 2564 ราว 5-6 งานเลี้ยง มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสูงและต่ำรวม 110 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 78 ราย เสี่ยงต่ำ 32 ราย อยู่ระหว่างรอผลการสอบสวนโรคเพิ่มเติม

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องเรียนรู้ คือ ผู้ที่ร่วมโต๊ะแชร์มีอายุตั้งแต่ 38-40 ปี และ 50,60,70 ปี เมื่อเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เมื่อกลับบ้านก็เสี่ยงจะไปแพร่เชื้อต่อ ซึ่งการจัดงานเลี้ยงมีการดื่มสุรา มีการรับประทานอาหาร ไม่มีการใส่หน้ากาก มีการสัมผัสเกิน 15 นาที สถานที่ปิด ไอจาม พูดคุยเสียงดัง และไม่มีการคัดกรองไทยชนะ และหมอชนะ ทำให้การติดตามสอบสวนโรคยากลำบากมาก

“นำมาสู่คำถามว่าผ่อนคลายแล้วทำไมยังไม่ให้ดื่มสุราในร้านและจำกัดเวลาดื่มในร้าน จึงอยากให้ผู้ประกอบการทั้งหลายที่ส่งเสียงว่ายากลำบาก ศบค.เอามาพิจารณาและเห็นใจ แต่อขให้ช่วยเสนอมาตรการด้วยว่า มีการกำกับดูแลลูกค้าหรือผู้ใช้บริการอย่างไร ศบค.จะพิจาราว่าเป็นไปได้หรือใม่ ก็จะทำให้เศรษฐกิจไปได้ มาตรการสังคมคนดำเนินชีวิตต่อได้ ภายใต้เงี่อนไขการระบาดคุมได้ด้วย”พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า เมื่อมีการผ่อนคลายแล้ว แต่ละคนต้องศึกษาการผ่อนคลายพื้นที่ของตนเองให้ถี่ถ้วน จะบอกไม่รู้ไม่ได้ว่ายังมีข้อห้ามอะไรบ้าง และแม้ผ่อนคลายแล้ว สิ่งสำคัญขอความร่วมมือตลาด ห้าง หรือผู้ประกอบการทั้งหลายต้องกำหนดมาตรการสูงสุด เข้มงวดมาตรการป้องกันต่างๆ ถ้าร่วมมือกันแม้ผ่อนคลายแต่ยังรับผิดชอบตัวเอง และครอบครัวให้เข้มงวด แม้จะไม่สามารถทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็น 0 ราย แต่ทำให้ค้นเจอผู้ติดเชื้อโดยเร็ว มีการสอบสวนโรค ทันที ไม่ปกปิดไทม์ไลน์การติดตามผู้สัมผัสและคัดกรองเร็ว สามารถจำกัดการแพร่กระจายไม่ให้มากเกินไป ซึ่งชุมชนต้องช่วยเฝ้าระวัง

ต่อข้อถาม การเปิดเรียน สร้างความมั่นใจให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้อย่างไร พญ.อภิสมัย กล่าวว่า บางสถ่าบันการศึกษามีการสอบด้วย หรือจัดอบรม อาจมีความกังวลที่หลากหลาย โดยนโยบายสำคัญที่ศบค.เน้นยำ คือ การจัดการเรียนการรสอนผสมผสาน บางส่วนมาเรียนในสถาบันการศึกษา ขณะเดียวกันจัดการเรียนการสอนนออนไลน์คู่ขนาน เป็นทางเลือกผู้ประคองที่มีความพร้อมเลือกเรียนออนไลน์ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ก็ได้ออกมาบอกแล้วว่า การจัดการเรียนการสอนออไลน์ต้องทำให้มีมาตรฐาน และไม่ถือเป็นการขาดเรียน ที่สำคัญ ผู้ปกครองและโรงเรียนต้องร่วมกันคัดกรองนักเรียน หากมีไข้ให้หยุดเรียน หรือติดต่อให้ผู้ปกครองมารับกลับบ้าน