คร.ไขข้อข้องใจมาตรการควบคุมโควิด-19 คณะทูต ไม่ว่าอย่างไรต้องกักตัว

อธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำมาตรการชัด! ไม่ว่ากลุ่มไหนเดินทางจากตปท. ต้องกักตัวหมด แม้แต่คณะทูต ก็ต้องดำเนินการ เพียงแต่กรณีลูกทูตมีความละเอียดอ่อน แต่ไม่เคยละเลยควบคุมโรค ล่าสุดตรวจเชื้อกลุ่มเสี่ยงสัมผัส 267 คนผลเป็นลบ

วันที่ 16 ก.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวถึงมาตรการควบคุมโรคกรณีครอบครัวทูต ว่า เรื่องนี้ละเอียดอ่อน แต่มาตรการของไทยเกี่ยวกับการควบคุมโรคโควิด-19 นั้น เราไม่เคยบอกว่า ชาวต่างชาติได้รับการยกเว้นในการปฏิบัติ เพียงแต่ในบางกลุ่มมีการอำนวยความสะดวก อย่างกรณีสถานทูต เป็นอาณาบริเวณของประเทศนั้นๆตามกฎหมาย จึงได้กำหนดว่า ในส่วนทูต คู่สมรส คนในครอบครัว หากเดินทางมาจากต่างประเทศจะต้องกักตัวอยู่ในสถานทูต ส่วนกรณีลูกทูตซูดานที่ติดเชื้อนั้นก็จะเป็นการขันน็อตให้เพิ่มขึ้น โดยย้ำคำว่า ที่พำนัก มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือ สถานทูต

เมื่อถามว่า ต่อไปหากครอบครัวทูตเดินทางมาจากต่างประเทศจะพักคอนโด หรือบ้านพักอื่นใดที่ไม่ใช่สถานทูตแล้วใช่หรือไม่ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ปกติของเดิมไม่อนุญาตอยู่แล้ว มีหลายกรณีที่ไม่เป็นข่าว แต่อาศัยการพูดคุยด้วยกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดี แต่กรณีนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรม เนื่องจากมาเป็นครอบครัวและเป็นเด็ก ก็อาจมีความไม่สะดวกในลักษณะของความเป็นเด็ก เราจึงอำนวยความสะดวกในการเก็บตัวอย่าง และขอให้รอในที่พำนัก เนื่องจากลูกเล็ก และตอนนั้นก็ยังไม่ทราบผล แต่ขอย้ำว่า การไปพำนักนั้นได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบเชื้อในพื้นที่แล้ว และตรวจเชื้อครอบครัว บุคลากรในสถานทูต ที่เป็นกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง โดยผลตรวจเป็นลบ

“ส่วนบุตรสาวคนโตวัย 9 ขวบพบเชื้อ ก็นำส่งโรงพยาบาล ส่วนกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงก็ถูกกักตัว แต่เราอำนวยความสะดวกด้วยให้กักในสถานทูต หรือในที่รัฐจัดให้ ซึ่งกรณีนี้มีลูกเล็ก ทางกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ประสาน และตัดสินใจกักในสถานทูต ส่วนคอนโดมิเนียมที่ไปอยู่นั้น มีชาวต่างชาติอยู่ และคอนโนฯ นี้ก็เคยเผชิญเชื้อรวมครั้งนี้ 2 ครั้ง ซึ่งเขารู้วิธีในการจัดการ แต่เราก็ได้ไปดำเนินการสอบสวน และเก็บตัวอย่างกลุ่มเสี่ยงสัมผัส และผู้ที่มีความกังวลที่อยู่ในไทม์ไลน์ เก็บรวม 267 รายผลเป็นลบหมด แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดจึงขอให้กักตัวอีก 14 วัน และปฏิบัติตามมาตรการล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างในสังคม” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

อธิบดี คร. กล่าวถึงกรณีในจ.ระยอง ที่พบเคสทหารอียิปต์ ว่า เมื่อวันที่ ผลการดำเนินงาน 14 ก.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนในพื้นที่จ.ระยองที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยง กรณีทหารต่างชาติที่ติดเชื้อเข้าพักในโรงแรมและเดินห้างสรรพสินค้าใน จ.ระยอง มารับการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการโดยรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,336 คน (ห้างแหลมทอง 886 คน ห้างเซ็นทรัลฯ 447 คน ชาวระยองที่ได้ sms มาตรวจที่ กทม. 3 คน) ได้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้วทั้ง 1,336 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ อย่างไรก็ตาม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422