ปลัดสธ. สั่งการโรงพยาบาลเสี่ยงน้ำท่วม เตรียมความพร้อมป้องกันน้ำท่วมโรงพยาบาล จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ผลการตรวจคัดกรองสุขภาพจิตพบผู้ประสบภัยเครียดระดับสูง 26 ราย แนะนำประชาชนพื้นที่เสี่ยงวางแผนรับมือน้ำท่วม คำนึงถึงชีวิตก่อนทรัพย์สิน พักผ่อนให้เพียงพอ และพูดคุยปรับทุกข์กับคนในครอบครัวและเพื่อนบ้าน หากไม่ดีขึ้นเช่น นอนไม่หลับ ใจสั่น ขอให้ปรึกษาแพทย์ที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หรือสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้หรือโทรสายด่วน 1323 และ 1667 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ (8 กันยายน 2557) ได้กำชับให้โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจากฝนตกหนัก ใน 4 จังหวัดภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา คือตราด ปราจีนบุรี ชัยภูมิ นครราชสีมา ซึ่งมีโรงพยาบาล 16 แห่ง เช่น รพ.เขาสมิง รพ.ชัยภูมิ รพ.ประจันตคาม รพ.กบินทร์บุรี รพ.บ้านสร้าง รพ.ศรีมโหสถ รพ.ศรีมหาโพธิ์ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.พิมาย รพ.ปากช่องนานา เป็นต้น ให้เตรียมพร้อมการป้องกันน้ำท่วมโรงพยาบาล โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า ระบบบำบัดน้ำเสีย สำรองยา เวชภัณฑ์และออกซิเจน แผนการอพยพผู้ป่วย และปรับแผนการจัดบริการในภาวะฉุกเฉินเพื่อให้สามารถดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยได้ตลอดเวลา
นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า มีความเป็นห่วงสภาพจิตใจของประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งจะมีความเครียดสูงจากบ้านเรือน ทรัพย์สิน ที่ทำกินถูกน้ำท่วมเสียหาย ไม่สามารถทำงานประกอบอาชีพได้ และการใช้ชีวิตประจำวันที่ยากลำบากขึ้น ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง และให้แนะนำในการผ่อนคลายความเครียดแก่ผู้ประสบภัย เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดสะสมจนเกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมา ผลการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ใน 11 จังหวัดที่ประสบภัย เช่น ลำพูน เชียงราย น่าน พะเยา พิจิตร สุโขทัย เป็นต้น จำนวน 37 ครั้ง มีผู้รับบริการทั้งหมด 3,988 ราย ส่วนใหญ่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รองลงมาคือ ผิวหนังมีผื่นคัน น้ำกัดเท้า ประเมินสุขภาพจิตทั้งหมด 234 ราย พบเครียดในระดับสูง 26 ราย ต้องติดตามดูแลเป็นพิเศษ 15 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่และอสม.อย่างใกล้ชิด
ด้านนายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในการรับมือน้ำท่วม ขอแนะนำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่นพื้นที่ราบลุ่ม อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ เตรียมความพร้อมร่วมกันในครอบครัว ติดตามประกาศเตือนภัย กำหนดหน้าที่ของคนในครอบครัว และวางแผนการขนย้ายสิ่งของจากบ้านเรือนไว้ให้พร้อม เมื่อเกิดน้ำท่วมขอให้ตั้งสติ อย่าตกใจ คิดถึงความปลอดภัยของชีวิตและคนในครอบครัวไว้ก่อน และทำตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะช่วยลดความสับสน ตื่นตระหนกลงได้ ทั้งนี้ หากเกิดความเครียดในช่วงน้ำท่วม จะส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง มีอาการปรากฏหลายอย่างเช่นเมื่อยล้า ปวดศีรษะ ใจสั่น นอนไม่หลับหรือง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา อารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงเช่นวิตกกังวล หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า เงียบขรึม เก็บตัว เป็นต้น
ในการดูแลสุขภาพจิตในช่วงน้ำท่วมและป้องกันความเครียด ขอให้ทำใจยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้น และหาทางแก้ไขปัญหาทีละขั้นตอนตามความจำเป็น รวมทั้งมีการผ่อนคลายความเครียด รับประทานอาหารและพักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนหลับในเวลากลางคืน หลีกเลี่ยงการนอนในตอนกลางวัน พูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน เพื่อปรับทุกข์ จะช่วยระบายความเครียดได้ หากไม่ดีขึ้นเช่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ใจสั่น ควรปรึกษาแพทย์ที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หรือสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้หรือโทรสายด่วน 1323 และหมายเลขอัตโนมัติ 1667 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
- 1 view