กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตยแถลงการณ์ฉ. 3 ปฏิเสธนายกรัฐมนตรีคนกลาง เรียกร้องกกต.จัดเลือกตั้งเร็วที่สุด ให้ขรก.เป็นกลางทางการเมือง กระบวนการยุติธรรมยึดหลักกฎหมายไม่ใช้อคติส่วนตัว เรียกร้องรัฐบาลประกาศรับอำนาจ ICC ป้องกันไม่ให้ทุกฝ่ายใช้ความรุนแรง และเชิญ UN และ EU เป็นคนกลางแก้ปัญหาขัดแย้งก่อนบานปลายรุนแรง
วันที่ 12 พ.ค.57 กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นพ.ภีศเดช สัมมานันท์, รศ.นพ.ไตรจักร ซันดู และนพ.ดิเรก บรรณจักร์ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง โดยสนับสนุนให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานของรัฐ เป็นกลางทางการเมือง ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน เพื่อให้ประชาชนมีที่พึ่ง ปฏิเสธนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากสส. เรียกร้องกกต.จัดการเลือกตั้งเร็วที่สุด ขอเรียกร้องให้ผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ผู้บังคับใช้กฎหมาย และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ พิจารณากฎหมายตามลายลักษณ์อักษร หลีกเลี่ยงการใช้อคติและความคิดเห็นส่วนตัว ขอให้รัฐบาลรับตัวแทนของสหประชาชาติหรือตัวแทนของสหภาพยุโรป เป็นคนกลางในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง เรียกร้องรัฐบาลทำคำประกาศรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เพื่อป้องปรามมิให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดใช้ความรุนแรงต่อกัน
แถลงการณ์มีรายละเอียดดังนี้
แถลงการณ์ฉบับที่สาม กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย
กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย อันประกอบด้วยแพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์ พยาบาล และวิชาชีพสาธารณสุขด้านอื่นๆ จำนวนกว่า 1,200 คน ทั่วประเทศ มีความรู้สึกห่วงใยต่อสถานการณ์ของประเทศที่ยังมีความขัดแย้งกันอย่างสูงตลอด 6-7 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสงบลง ทั้งยังอาจจะเกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในอนาคต มีแถลงการณ์ต่อสถานการณ์ของประเทศ ดังนี้
1.ขอสนับสนุนให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานของรัฐ มีความเป็นกลางทางการเมือง ปฏิบัติตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้บังคับบัญชา และทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ตามรัฐธรรมนูญ และตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน เพื่อให้ประชาชนมีขวัญกำลังใจและมีที่พึ่งในสถานการณ์ในปัจจุบัน
2.เราปฏิเสธนายกรัฐมนตรีที่มิได้มาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพราะรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเพื่อให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีรักษาการ ต้องปฏิบัติงานภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ไม่มีอำนาจหน้าที่เต็มในการดูแลแก้ไขปัญหาของประเทศ จนสภาวะเศรษฐกิจเริ่มถดถอย และการปล่อยให้การเลือกตั้งเนิ่นช้าออกไปจะทำให้ความขัดแย้งในสังคมขยายวงกว้างยิ่งขึ้น
3.ขอเรียกร้องให้ผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ผู้บังคับใช้กฎหมาย และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ พิจารณากฎหมายตามลายลักษณ์อักษร หลีกเลี่ยงการใช้อคติและความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งอาจทำให้มีการโน้มเอียงไปทางฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายยอมรับ เกิดความเคลือบแคลงสงสัย และยิ่งเพิ่มความขัดแย้งและนำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด
4.ขอให้รัฐบาลรับตัวแทนของสหประชาชาติหรือตัวแทนของสหภาพยุโรป เป็นคนกลางในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง เนื่องจากปัจจุบันไม่มีคนกลางที่ทุกฝ่ายยอมรับ ทั้งสององค์กรดังกล่าวก็เคยแสดงเจตจำนงมาก่อนหน้านี้ในการเป็นตัวกลางในการเจรจา เฝ้าระวังความรุนแรง และสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เพื่อให้ทุกฝ่ายหันมาวิธีแก้ปัญหาตามครรลองในระบอบประชาธิปไตย ตามกฎหมาย สันติ และนำความสงบกลับคืนสู่ประเทศ
5.เรียกร้องให้รัฐบาลทำคำประกาศรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมไม่อาจทำคำวินิจฉัยให้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปได้ ฝ่ายต่างๆอาจเลือกใช้วิธีรุนแรงต่อกัน การยอมรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศจะเป็นการป้องปรามมิให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดใช้ความรุนแรงต่อกัน
นพ.ภีศเดช สัมมานันท์
รศ.นพ.ไตรจักร ซันดู
นพ.ดิเรก บรรณจักร์
กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย
12 พฤษภาคม 2557
- 27 views