เว็บ'โอบามาแคร์'ล่ม!รบ.เต้นแจงเกิดขัดข้อง

'รบ.สหรัฐ'แก้ตัว หลังเกิดความขัดข้องเว็บที่เปิดให้คนเข้าไปลงทะเบียน'โอบามาแคร์'ล่ม ด้าน'สื่อ'ชี้ความเป็นมหาอำนาจของอเมริกาเริ่มเสื่อมถอยลง

2 ต.ค.56 สำนักข่าวต่างประเทศรายว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ได้ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อย เกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิค ที่ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถเข้าถึงตลาดประกันสุขภาพที่เพิ่งเปิดใหม่ได้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ ไม่ได้เปิดเผยว่า มีคนเข้าไปลงทะเบียนจำนวนมากเพียงใด ผ่านทางเว็บไซต์ เฮลธ์แคร์ดอทกอฟ (healthcare.gov) ที่เปิดให้บริการรับสมัครผู้ขอทำประกันหน้าใหม่ใน 36 รัฐ แต่ปรากฏว่า เกือบทั้งของเมื่อวานนี้ ไม่มีใครสามารถเข้าไปใช้บริการได้ เนื่องจากขัดข้องทางเทคนิค และของบางรัฐถึงกับล่มในเวลาอันสั้น หลังเปิดให้บริการในเช้าวันจันทร์

ประธานาธิบดีโอบามา และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ หรือ HHS ได้อ้างเหตุผลของเหตุขัดข้องเพียงว่า เป็นเพราะมีคนเข้าไปมาก โดยได้มีการเปิดเผยเมื่อช่วงบ่ายว่า ตัวเลขคนเข้าไปนับตั้งแต่เวลา 07.00 น. ของวันอังคารเป็นต้นมา มีมากถึง 2.8 ล้านคน ซึ่งประธานาธิบดีโอบามาและฝ่ายบริหารของเขา ได้ย้ำเตือนว่า จะเกิดข้อบกพร่องบางอย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อมีคนสมัครจำนวนมาก และระบบก็ซับซ้อน แต่จำนวนคนเข้าเว็บเป็นเพียงปัญหาเดียวที่ระบุได้ แต่หลังจากแก้ไขแล้ว ก็ไม่มีการเปิดเผยว่า พบปัญหาอื่นแทรกซ้อนด้วยหรือไม่

ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวว่า เขามั่นใจว่า กฎหมายประกันสุขภาพขั้นมูลฐาน หรือโอบามาแคร์ของเขา จะให้โอกาสแก่ชาวอเมริกันคนใดก็ตามที่ยังไม่มีประกันสุขภาพ สามารถได้รับการประกันสุขภาพที่มีคุณภาพ แต่ในช่วงสัปดาห์แรก , เดือนแรก หรือสามเดือนแรก อาจมีปัญหาขัดข้องบ้าง เพราะมันมีถึง 50 รัฐ และประชาชนต่างแห่กันเข้าไปลงทะเบียน ก็ย่อมจะเกิดปัญหาเป็นธรรมดา แต่ปัญหาแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอนที่รัฐแมสซาจูเสตส์เพียงรัฐเดียว เปิดให้ลงทะเบียน ก็ใช้เวลาหลายเดือนเหมือนกันกว่าทุกอย่างจะเข้ารูปเข้ารอย

แพทย์ในอเมริกาวิตก"โอบามาแคร์"ได้เงินค่ารักษาไม่คุ้ม คนไข้หันไปหาการรักษาที่เคยเข้าไม่ถึง

ขณะที่ การเปิดให้ลงทะเบียนเข้าโครงการประกันสุขภาพขั้นมูลฐาน หรือ โอบามาแคร์ เริ่มขึ้น บรรดาแพทย์ทั่วประเทศ ก็ต้องเตรียมรับมือกับคนไข้กลุ่มใหม่จากโครงการนี้ เช่นเดียวกับความต้องการค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานที่เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยในขณะที่อาจต้องเสียเวลาอีก2-3 ปี สำหรับแพทย์ ที่จะทราบว่า พวกเขาจะได้รับผลกระทบจากโอบามาแคร์อย่างไร แต่มีแพทย์บางคนที่พอจะรู้แล้วว่า การเข้าร่วมโครงการโอบามาแคร์ อาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการปฏิบัติหน้าที่

แพทย์อายุกรรมในนิวยอร์กคนหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักและฮอร์โมนบำบัด บอกว่า โอบามาแคร์ อาจทำให้ประสบปัญหาทางการเงินในแนวทางการรักษาของเธอ โดยถ้าอัตราการชำระเงินคืนภายใต้โอบามาแคร์ต่ำเกินไป เธออาจต้องหยุดการรักษาโรคอายุรกรรมและหันไปมุ่งเน้นเฉพาะเรื่องการลดน้ำหนักและฮอร์โมนบำบัด ที่เธอจะได้รับค่ารักษาโดยตรงจากผู้ป่วย หรือจากบริษัทประกันภัยของเอกชน

อีกทั้ง แพทย์อีกหลายคน ที่ทำงานในพื้นที่ยากจนของประเทศ มองว่า หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดที่จะเกิดขึ้น จะมีผู้ป่วยหันไปหาแนวทางเวชศาศาสตร์ป้องกัน ซึ่งก็คือการป้องกันโรค หรือการบาดเจ็บ ซึ่งก่อนหน้านี้ ถ้าไม่มีประกันสุขภาพจะไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งอีกหน่อย จะไม่มีคนไข้เข้าห้องฉุกเฉินมากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เพราะมีการดูแลเชิงป้องกันมากขึ้น

แต่การเข้าถึงการรักษาด้วยวิธีนี้ ที่จะต้องมีการเข้ารับการตรวจและการคัดกรองมากขึ้น อาจส่งผลกระทบตามโรงพยาบาลในพื้นที่ยากจนที่ขาดแคลนแพทย์ ซึ่งอาจต้องให้การศึกษาแก่พยาบาล , พยาบาลเวชปฏิบัติ หรือผู้ช่วยแพทย์ ในการดูแลคนไข้อย่างมีประสิทธิผล และแบ่งเบาภาระจากแพทย์

"สื่อ"ชี้ความเป็นมหาอำนาจของอเมริกาเริ่มเสื่อมถอยลง หลังเผชิญทั้งวิกฤติการเมือง-เศรษฐกิจ

หนังสือพิมพ์เทเลกราฟของอังกฤษ รายงานว่า สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก แต่ปัจจุบันชาวอเมริกันได้ตื่นขึ้นพบกับความเป็นจริงที่ว่าหน่วยงานราชการจำนวนมากทั่วประเทศ ต้องปิดตัวลงอย่างน่าอัปยศ

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ยืนหยัดอย่างแข็งขันเพื่อเข็นนโยบายประกันสุขภาพของเขาหรือ โอบามาแคร์ ให้ไปถึงฝั่งให้ได้ และมันถูกใช้เป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง ในการอนุมัติงบประมาณสำหรับรัฐบาลกลางให้ทันตามกำหนด คือ ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม และเมื่อรีพับลีกันและเดโมแครตไม่สามารถประนีประนอมกันได้ในสภาคองเกรสส์ จึงส่งผลให้หน่วยงานภายใต้การดูแลของรัฐบาลกลางเกือบทุกแห่ง ต้องปิดทำการเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี และเจ้าหน้าที่ของรัฐราว 8 แสนคน ต้องพักงานชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด

ในขณะที่ทำเนียบขาว ยืนยันว่า หน่วยงานที่สำคัญ เช่น ทหารจะยังคงปฏิบัติภารกิจต่อไป แต่การปิดหน่วยงานของรัฐ ก็ถือเป็นการบั่นทอนศักดิ์ศรีของฝ่ายบริหาร ในช่วงที่ยังพยายามกู้หน้าจากการที่ดำเนินการกับวิกฤติซีเรียอย่างไม่ค่อยจะแยบยลนักก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ โลกยังเห็ว่า สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้ ประธานาธิบดีโอบามา กลายเป็นผู้นำที่ไม่มีการตัดสินใจที่เด็ดขาดไม่ว่าจะในทางการเมืองหรือเศรษฐกิจไปแล้ว พรรครีพับลีกัน ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของหลาย ๆ คน ที่มองว่า มีส่วนทำให้ประเทศต้องตกต่ำ ได้โต้แย้งว่า พวกเขาทำถูกต้องแล้วที่เดินหน้ากดดันนโยบายโอบามาแคร์ ก่อนที่ผลกระทบจากนโยบายนี้ ที่ได้รับการประเมินว่าจะไปเพิ่มความเสี่ยงให้หนี้ที่สูงเป็นภูเขาของสหรัฐอเมริกา ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว หลังจากเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจที่ใหญ่หลวงที่ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่

อย่างไรก็ตาม การเข้ามามีบทบาทของรัสเซีย ในขณะมหาอำนาจผู้ไกล่เกลี่ยวิกฤติซีเรีย ยิ่งสร้างความเสียหนักอย่างหนักให้กับสถานะของสหรัฐ ในฐานะผู้ทรงอิทธิพลของโลก แน่นอนว่า อเมริกายังอยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของประธานาธิบดีโอบามาต่อไป แต่สถานะของความเป็นมหาอำนาจกำลังเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ

ที่มา: http://www.komchadluek.net