ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายกฯ เล็งยกระดับมาตรฐานสาธารณสุขไทย เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค พร้อมยกระดับ "30 บาทรักษาทุกที่" เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ สานต่อโครงการฉีดวัคซีนปากมดลูก ลั่น! แก้ปัญหายาเสพติดเด็ดขาด ค้นหาผู้เสพเข้ากระบวนการรักษา คืนคนคุณภาพกลับสู่สังคม

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนทั้งปัญหาหนี้สิน รายได้ ค่าครองชีพ รวมทั้งความมั่นคงและปลอดภัยในสังคม เป็นปัญหาเร่งด่วน ดังนั้น รัฐบาลเร่งสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ ด้วยการแก้หนี้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งเร่งแก้ไขปัญหาที่กระทบความมั่นคงของสังคม เพื่อนำความหวังของคนไทยกลับมาให้เร็วที่สุด

ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายอยู่หลายประการ รัฐบาลพร้อมผสานพลังกับทุกภาคส่วนเปลี่ยนความท้าทายเป็นความหวัง โอกาส และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม ของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

"สังคมและเศรษฐกิจเราถูกท้าทายด้วยการเข้าสู่สังคมสูงวัยที่เร็วกว่าระดับการพัฒนาประเทศ และเร็วกว่าประเทศในภูมิภาค ในปี 2566 ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ มีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด คาดว่าอีก 10 ปีจะเข้าสู่สังคมสูงวัยแบบสุดยอด ขณะที่มีอัตราการเกิดลดลง คุณภาพและทักษะแรงงานของไทยส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำเยาวชนและประชากรวัยแรงงานที่มีความรู้ อ่านออกเขียนได้ขั้นพื้นฐานต่ำกว่าเกณฑ์ถึงร้อยละ 64.7" น.ส.แพทองธาร กล่าวและว่า 

คนไทยทุกช่วงวัยยังเผชิญกับภาวะเครียดสะสมรุนแรงขึ้น คาดว่าขณะนี้มีผู้มีปัญหาสุขภาพจิตกว่า 10 ล้านคน สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก คุณภาพคนไทยวัยทำงานลดลงมาก ขณะที่การเข้าสู่สังคมสูงวัยและภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ ในการดูแลสวัสดิการและงบประมาณด้านสาธารณสุขมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้านความมั่นคงปลอดภัยของสังคมถูกคุกคามจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่บั่นทองคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ โดยในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 พบว่า มีคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2566 และมีจำนวนผู้ติดยาเสพติดที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 1.9 ล้านคน นอกจากนี้ อาชญากรรมออนไลน์และพนันออนไลน์ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสถิติการรับแจ้งความกว่า 5 แสนเรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ จากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก (Climate Change) ที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรมและภาคการท่องเที่ยว ปี 2567 ประเทศไทยเผชิญกับภาวะภัยแล้งในช่วงครึ่งปีแรก และจะเผชิญกับภาวะฝนตกหนักผิดปกติในช่วงครึ่งปีหลัง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสถานการณ์มลพิษทางอากาศ PM 2.5 ของไทยยังย่ำแย่ต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้มีคนป่วยจากมลพิษทางอากาศกว่า 10 ล้านคน ในปี 2566  

นโยบายเร่งด่วน แก้ปัญหายาเสพติด-จัดสวัสดิการสังคม

น.ส.แพทองธาร ยังได้แถลง 10 นโยบายเร่งด่วน ได้แก่ 1.ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ 2.ส่งเสริมผู้ประกอบการไทย SMEs  3. เร่งออกมาตรการลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค 4. สร้างรายได้ใหม่นำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี 5. กระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 6. ยกระดับเกษตรให้ทันสมัย  7. ส่งเสริมการท่องเที่ยว 8. แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด 9. แก้ไขปัญหาอาชญากรรม และ 10. ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคม

ปัญหาที่กระทบต่อสังคมและสร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล คือ ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม และอาชญากรรมออนไลน์ รัฐบาลจะแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้า ตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด การปราบปราม และการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด การค้นหาผู้เสพในชุมชนเพื่อเข้ากระบวนการรักษา ตลอดจนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด การฝึกอาชีพ การศึกษา การฟื้นฟูสภาพทางสังคม รวมทั้งมีระบบติดตามดูแลช่วยเหลือเพื่อไม่ให้กลับไปสู่วงจรยาเสพติดอีก เพื่อคืนคนคุณภาพกลับสู่สังคม

นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมพัฒนาศักยภาพ และจัดสวัสดิการสังคม ให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่สําคัญ ได้แก่ คนพิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐได้โดยสะดวกตามที่กฎหมายบัญญัติ

รัฐบาลยังมีนโยบายระยะกลาง และระยะยาว โดยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับด้านการแพทย์และสาธารณสุข สุขภาพของคนไทย ได้แก่

รัฐบาลจะมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ (Care and Wellness Economy) และบริการทางการแพทย์ (Medical Hub) โดยอาศัยพื้นฐานจิตวิญญาณการบริการของคนไทยที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ต่อยอดจากธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์แผนไทยที่เป็นจุดแข็ง เพื่อรองรับความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น จากการที่ประชากรโลกเข้าสู่สังคมสูงวัย  พร้อมกับส่งเสริมการผลิตและการใช้งานอุปกรณ์ทางการแพทย์ ภายในประเทศ สนับสนุนการยกระดับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยโดยใช้นวัตกรรม รวมถึงการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในทางเศรษฐกิจและควบคุมผลกระทบทางสังคม โดยการตรากฎหมาย ตลอดจนสนับสนุนการนำเทคโนโลยีสุขภาพ และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพไบโอเทคโนโลยี มายกระดับมาตรฐานสาธารณสุขไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานนานาชาติเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ของภูมิภาค

เพื่อให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่องในระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลจะต่อยอดการพัฒนาของภาคการผลิตและการบริการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อวางรากฐานสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต โดยส่งเสริมโอกาสในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต 

ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่

รัฐบาลจะยกระดับระบบสาธารณสุขให้ดียิ่งกว่าเดิม โดยรัฐบาลนี้จะต่อยอดจากรัฐบาลที่แล้ว และยกระดับระบบสาธารณสุขไทย จาก “30 บาทรักษาทุกโรค” จากพื้นฐานความสำเร็จหลายสิบปี มาเป็น “30 บาทรักษาทุกที่” ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในระบบบริการสาธารณสุข และการขยายเครือข่ายการบริการ ระดับปฐมภูมิ พัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อให้คนไทยเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ลดเวลาและค่าใช้จ่าย และสามารถรองรับความต้องการใหม่ ๆ จากสถานการณ์สังคมสูงวัย

อีกทั้งสานต่อโครงการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) ให้ครอบคลุม ทุกพื้นที่ และใช้ศักยภาพของเครือข่ายสาธารณสุขในการส่งเสริม ป้องกัน และควบคุมโรคไม่ติดต่อ พร้อมทั้งเพิ่มการเข้าถึงการรักษาและบริการด้านสุขภาพจิต และยาเสพติด โดยเน้นการป้องกัน (Prevention) ให้ความรู้และการสร้างความตระหนัก

ในการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ จะเร่งแก้ไขปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศได้เข้าถึงสิทธิพึงมี ทั้งการสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งสิทธิการสร้างครอบครัว สิทธิในการดูแลระหว่างคู่ชีวิต สิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการ โดยเริ่มต้นจากสวัสดิการข้าราชการ รัฐบาลจะต่อยอดความสำเร็จจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาเพื่อให้กฎหมายสมรสเท่าเทียบถูกบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามเจตนารมย์ที่ตั้งไว้

นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมการเกิดและเติบโตของเด็กทุกคนอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม เด็กไทยทุกคนจะต้องเข้าถึงศูนย์ดูแลเด็กปฐมวัยที่มีมาตรฐาน เมื่อเติบโตได้เรียนหนังสือที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล ส่งเสริมการปลดล็อคอย่างมีศักยภาพทั้งด้านศิลปะ วัฒนะธรรม และความสามารถทางการกีฬา พัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นทั้งในระบบและนอกระบบตามอัธยาศัยและการเรียนรู้ตลอดชีวิต