ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รพ.เด็ก จัดประชุมวิชาการ 7 ทศวรรษแห่งความภาคภูมิใจสู่อนาคตสุขภาวะเด็กไทย ขับเคลื่อน Service Plan แม่และเด็ก เร่งนำการแพทย์แม่นยำดูแลรักษาเด็ก ตั้งแต่ตรวจคัดกรองความเสี่ยงที่ผิดปกติทางพันธุกรรม ช่วยเลือกยาให้เหมาะสม พร้อมสร้างความเข้มแข็งกับเครือข่าย ให้ร่วมกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ เป็นประธานงานประชุมวิชาการ 7 ทศวรรษแห่งความภาคภูมิใจสู่อนาคตสุขภาวะเด็กไทย โดยกล่าวว่า การประชุมวิชาการกุมารเวชศาสตร์ “สุขภาพเด็กแห่งชาติ ครั้งที่ 25 ประจำปี 2567 ถือว่าเป็นการริเริ่มการบูรณาการการขับเคลื่อนการดูแลรักษาโรคเด็กระดับชาติ (Service Plan) ด้านแม่และเด็กในเขตสุขภาพ และยังคงมุ่งมั่นจะส่งเสริมให้มีการพัฒนาต่อยอดให้เกิดการสร้างองค์ความรู้ การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ การประเมินความคุ้มค่าและการตรวจรักษาแบบใหม่ Precision Child Health โดยการตรวจหายีนการแพ้ยากันชักเพื่อความปลอดภัยในการเลือกยากันชัก และการตรวจคัดกรองแม่นยำ (Precision medicine) ในทารกที่มีความเสี่ยงของโรคพันธุกรรมเมตาบอลิค 40 โรคในครั้งเดียว เช่น Phenyl ketone urea (PKU)  

"สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีครบ 70 ปีแล้ว ยังคงเดินหน้าสร้างคุณค่าให้กับเด็กไทย ทั้งรักษาฟื้นฟูเด็กที่มีข้อจำกัดเชิงสุขภาพ รวมถึงขับเคลื่อนระบบดูแลสุขภาพที่เรียกว่า Service Plan ในสาขาแม่และเด็ก โดยขยายองค์ความรู้เชิงวิชาการ ออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับพื้นที่ นอกจากนี้ ยังดูแลพัฒนาการเด็กไทยผ่านระบบการโค้ชโดยตรงหรือผ่านการแพทย์ทางไกล" พญ.อัมพร กล่าว

ส่วนการแพทย์แม่นยำ (Precision medicine) เป็นสิ่งที่ต้องรีบทำ เพราะเป็นศาสตร์ที่มีความก้าวหน้า สามารถนำมาดูแลรักษาเด็กได้อย่างเหมาะสม เช่น การคัดกรองความสุ่มเสี่ยงที่ผิดปกติทางพันธุกรรม เพื่อช่วยในการรักษา ลดความเสี่ยงที่จะเป็นข้อจำกัดในการดำรงชีวิตหรือเด็กบางคนที่มีพันธุกรรมแพ้หรืออันตรายจากการรับยาบางชนิด การแพทย์แม่นยำสามารถช่วยเลือกยาให้เหมาะสมได้ โดยช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ศาสตร์การแพทย์แม่นยำของสถาบันฯมีความก้าวหน้า เนื่องจากได้รับการสนับสนุนด้านเครื่องมือ การศึกษาวิจัย และทำงานร่วมกับสถาบันมะเร็ง และสถาบันผิวหนัง  

โรคปัสสาวะกลิ่น Maple syrup ซึ่งจะทราบผลและได้รับการรักษารวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อลดความเจ็บป่วยรุนแรง ลดความพิการถาวรและการเสียชีวิตในวัยทารก เพื่อนำผลการศึกษาวิจัยส่งมอบต่อผู้กำหนดนโยบายและผลักดันให้เกิดการบริการทางการแพทย์ เข้าไปสู่ชุดสิทธิประโยชน์ในระบบสุขภาพของประเทศ ตอบสนองนโยบาย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เพื่อให้คนไทยได้รับบริการสุขภาพอย่างเหมาะสม รวมถึงมุ่งเน้นความร่วมมือทางวิชาการและพัฒนาการดูแลรักษาสุขภาพเด็กกับเครือข่ายสุขภาพระดับชาติและนานาชาติ เพื่อต่อยอดให้เกิดการขยายผลและความร่วมมือทางวิชาการด้านโรคเด็กระดับชาติ 

นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่ให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ เป็นการจุดประกายความคิด เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ และพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในการส่งเสริมสุขภาพและดูแลรักษาผู้ป่วยเด็ก อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาด้านระบบบริการสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุข ที่มุ่งมั่นให้การดูแลรักษาและส่งเสริมสุขภาพประชาชนโดยถ้วนหน้าอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 

นพ.อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้ช่วยอธิบดีกรมการแพทย์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดประชุมวิชาการประจำปีกุมารเวชศาสตร์ “7 ทศวรรษแห่งความภูมิใจสู่อนาคตสุขภาวะเด็กไทย” เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะด้านการดูแลรักษาโรคเด็กให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้เกี่ยวข้อง สร้างเครือข่ายการดูแลรักษาด้านโรคเด็กอย่างเป็นรูปธรรม พัฒนารูปแบบแนวทางการให้บริการรักษาโรคเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเข้มแข็งกับเครือข่ายในส่วนภูมิภาคและพัฒนาความร่วมมืออย่างมีคุณภาพ ตลอดจนเป็นเวทีนำเสนอผลงานวิชาการด้านสุขภาพเด็ก เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในงานของตน และสร้างความตื่นตัวในการพัฒนาคุณภาพทางวิชาการ  สร้างความตื่นตัวในการพัฒนาคุณภาพทางวิชาการ  

ทั้งนี้ กลุ่มโรคที่เข้ารับการรักษาที่สถาบันมากที่สุดคือ 1.โรคหัวใจที่มาจากระบบส่งต่อ 2.โรคติดเชื้อ 3.โรคระบบทางเดินหายใจ และ 4.พัฒนาการเด็ก ซึ่งพบภาวะจิตเวชในเด็กที่เกิดจากภัยคุกคามจากความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับตัวเด็กเอง และจากครอบครัวมากขึ้น โดยสถาบันฯ มีศูนย์ที่รับส่งต่อรวมถึงการให้คำปรึกษาโดยทีมสหวิชาชีพที่เชี่ยวชาญ

สำหรับการประชุมในครั้งนี้มีผู้เข้าประชุมจำนวน 200 คน แบบประชุมทางไกล จำนวน 300 คน มีการบรรยาย อภิปรายปัญหาและการนำเสนอผลงานทางวิชาการ กลุ่มเป้าหมายได้แก่ กุมารแพทย์ แพทย์ทั่วไป พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร และนักวิชาการสาธารณสุขจากเขตสุขภาพ 13 เขตสุขภาพ ได้รับเกียรติจากผู้ตรวจราชการกระทรวงเขตสุขภาพที่ 1 2 และ 9 ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรมการแพทย์ กรมอนามัย โรงพยาบาลรามาธิบดี University of California, San Francisco