ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สสส.เผยเด็กปฐมวัยพัฒนาการล่าช้าด้านการใช้ภาษาสูงถึง 74.8% โควิด-19 ซ้ำเติมให้เกิดภาวะการเรียนรู้ถดถอย เร่งสานพลัง กระทรวงศึกษาธิการ ผลักดันนโยบาย "3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม" สู่วาระแห่งชาติ 

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ. 2567 เรื่อง การขับเคลื่อนและพัฒนาเด็กปฐมวัย “3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม เสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยไทย” โดยมี ดร.อรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย คณะอนุกรรมการ นักวิชาการ ครูปฐมวัย ผู้บริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย บุคลากรทางการศึกษาปฐมวัยจากหน่วยงานทุกสังกัด ผู้ปกครอง ร่วมการประชุมกว่า 400 คน

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ประกาศวิสัยทัศน์ โดยผลักดันให้มีการขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบาย “3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในสภาวะวิกฤต” เป็นวาระแห่งชาติ

1. สกศ. รับผิดชอบประสานการจัดทำแผนการขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยใช้เว็บไซต์ "ปฐมวัยไทยแลนด์" เป็นสื่อกลางเพื่อเป็นแหล่งค้นคว้าให้กับผู้ที่สนใจ 

2. กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็น 4 กระทรวงหลักร่วมกับกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานอื่น ขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบาย 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม 

3. คณะอนุกรรมการด้านสื่อสารเพื่อการพัฒนาเด็กปฐมวัยในคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ร่วมกับภาคีเครือข่าย และภาคเอกชน จัดทำแผนการสื่อสารและประชาสัมพันธ์เชิงรุก นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง Mindset ของคนในสังคม ในการดูแลเด็กปฐมวัยอย่างถูกวิธี โดยผ่าน Main Campaign “เพิ่มเวลาคุณภาพ เล่นเป็น กอดเป็น เล่าเป็น” และ Second Campaign งดจอก่อนสองขวบ ร่วมสร้างวินัย ไม่ใช้ความรุนแรง

"ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว จึงอยากให้คิดนอกกรอบจาก นโยบาย 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม ทำอย่างไรให้คนรอบตัวเด็ก คนที่เกี่ยวข้อง ทำให้เด็กเติบโตขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน สถานการณ์โควิดเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่การติดจอของเด็กเป็นกระแสโลก ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น สมาธิสั้น ผู้ใหญ่ต้องคอยดูแลใกล้ชิด ครูต้องให้ความเชื่อมั่นเด็ก และเป็นแบบอย่างที่ดี" พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวและว่า เชื่อมั่นว่าองค์ความรู้ ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่ได้จากการประชุมวิชาการระดับชาติ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนและพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยมีเป้าหมายการเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

ด้าน ดร.อรรถพล กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจกับสาธารณชนเกี่ยวกับนโยบาย 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในสภาวะวิกฤต รวมทั้งเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการฟื้นฟูพัฒนาการเด็กปฐมวัย นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริม พัฒนา และเชื่อมโยงเครือข่ายการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนและพัฒนาเด็กปฐมวัยของประเทศให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน

นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัย ปี 2566 โดยสถาบันพัฒนาอนามัยเด็กแห่งชาติ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข พบเด็กปฐมวัยมีพัฒนาการล่าช้าด้านการใช้ภาษาสูงถึง 74.8% การเข้าใจภาษา 60.9% ด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา 44.6% และด้านการเคลื่อนไหว 28.2% นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเด็กอีกจำนวนมากเข้าไม่ถึงระบบฟื้นฟู ติดตามช่วยเหลือ อีกทั้งสถานการณ์โควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่อง ซ้ำเติมให้เกิดภาวะการเรียนรู้ถดถอย 

สสส.มีเป้าหมายในการสร้างเสริมสุขภาวะประชากรทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเด็กปฐมวัย เพราะเป็นวัยสร้างฐานทุนสุขภาพที่ดีตลอดชีวิต เน้นการดำเนินงาน 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 

1.เพิ่มขีดความสามารถให้แก่ครอบครัวและชุมชน 

2.ส่งเสริมพื้นที่เล่นและเรียนรู้ใกล้บ้าน 

3.พัฒนาระบบสนับสนุนเด็กและครอบครัวแบบไร้รอยต่อ 

4.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายของเด็กและเยาวชนในการพัฒนาสังคมสุขภาวะ 

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการขับเคลื่อนงานของคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ภายใต้แผนพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2564-2570 ที่ผ่านมา ได้พัฒนาเว็บไซต์ปฐมวัยไทยแลนด์ ecd.onec.go.th เพื่อสื่อสารข้อมูลด้านสุขภาวะเด็กปฐมวัย เสริมทักษะความเป็นพ่อแม่ และพัฒนานวัตกรรม 366 Q KIDS เป็นโปรแกรมส่งเสริมครูและบุคลากรให้มีความรู้และทักษะในการพัฒนาคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยใช้ 3 ตัวช่วย 1.เครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ 2.ทีมวิชาการพี่เลี้ยง 3.ชุดความรู้พร้อมใช้ ในรูปแบบ 6 กิจกรรมเรียนรู้ ดำเนินการภายในระยะเวลา 6 เดือน พบมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเข้าร่วมโปรแกรมและเกิดเป็นต้นแบบแล้ว 51 แห่ง ยกระดับพัฒนาการเด็กปฐมวัยครอบคลุม 2,000 คน ซึ่ง สสส. จะร่วมมือกับ 4 กระทรวงหลักเจ้าภาพงานพัฒนาเด็กปฐมวัยเพื่อขยายผลโปรแกรมดังกล่าวต่อไป

สำหรับนโยบาย 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม ได้แก่ 

3 เร่ง

1. เร่งกำหนดการฟื้นฟูพัฒนาการเด็กปฐมวัยเป็นวาระแห่งชาติ

2. เร่งให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็กและสังคม

3. เร่งค้นหา เยียวยาและพัฒนา เด็กปฐมวัยในภาวะเปราะบาง

3 ลด

1. ลดการใช้สื่อหน้าจอในเด็กปฐมวัยอย่างจริงจัง

2. ลดความเครียดคืนความสุขแก่เด็กปฐมวัย

3. ลดการใช้ความรุนแรงกับเด็กปฐมวัย

3 เพิ่ม 

1. เพิ่มกิจกรรมฟื้นฟูพัฒนาการที่สูญเสียไป

2. เพิ่มสวัสดิการเด็กทั่วหน้า

3. เพิ่มศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชุมชนและกลไกระดับพื้นที่