เลขาธิการแพทยสภา โพสต์ข้อมูลตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) ร่วม สบส., สสจ.ปทุมธานี, สสจ.นนทบุรี กวาดล้างหมอเถื่อนย่านปริมณฑล รวบ 6 หมอเก๊รักษาโรค-เสริมความงามให้ประชาชน
 

ตามที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.ท.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา เคยให้ข้อมูลว่า  อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แจ้งมายังแพทยสภาว่า พบแพทย์แขวนป้ายไม่ได้ทำเอง แต่ปล่อยให้ หมอเถื่อน – พยาบาล ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทำแทน โดยการฉีดยา ทำหัตถการ หรือให้น้ำเกลือเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ส่งต่อให้แพทยสภาตรวจสอบด้านจริยธรรมไปนั้น

ทั้งนี้ยังคงมีกรณีดังกล่าวเรื่อยๆ โดยล่าสุดวันที่ 14 กรกฎาคม พล.อ.ท.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา โพสต์เฟซบุ๊กว่า

ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) ร่วม สบส., สสจ.ปทุมธานี, สสจ.นนทบุรี กวาดล้างหมอเถื่อนย่านปริมณฑล รวบ 6 หมอเก๊รักษาโรค-เสริมความงามให้ประชาชน
 

สบส. ส่งหมอแขวนป้ายมาดำเนินคดีที่แพทยสภา.. โทษถึงพักใบอนุญาต ท่านใดแขวนไว้โปรดตรวจสอบด้วยครับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ทำการสืบสวนพบว่า มีบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์หลายรายลักลอบใช้สถานที่ต่างๆ เปิดรับการรักษาให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปจริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้บริการ บางรายเจ็บป่วยคาดหวังการตรวจรักษาให้หาย แต่กลับไม่ได้รับการรักษาโดยแพทย์ที่แท้จริง ในการณีผู้ที่เสริมความงาม อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายรูปแบบอื่นๆ เช่น ใบหน้าผิดรูป บิดเบี้ยว หรือเกิดการอักเสบติดเชื้อจนเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงเป็นการนำมาสู่การระดมกวาดล้างหมอเถื่อน และสถานพยาบาลเถื่อน รวม 5 จุด ดังนี้

1. สถานพยาบาลแห่งหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
2. คลินิกแห่งหนึ่ง บริเวณถนนรังสิต-นครนายก จ.ปทุมธานี
3. สถานพยาบาลแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.ประทุมธานี
4. สถานพยาบาลแห่งหนึ่ง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
5. ร้านนวดหน้า สปาแห่งหนึ่ง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

รวมตรวจค้น 5 จุด ตรวจยึดของกลาง จำนวน 29 รายการ แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ทำการรักษา และเจ้าของสถานที่ ทั้งหมด 6 ราย โดยผู้ทำการรักษาจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 1 ราย, มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ราย, ประกาศณีบัตรวิชาชีพ 1 ราย และ ปริญญาตรี 3 ราย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา

อนึ่ง การปล่อยให้บุคคลที่มิใช่แพทย์มาให้บริการรักษา ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลจะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีคำสั่งทางปกครองให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตได้ โดยหากพบการกระทำความผิดพนักงานสอบสวนจะมีการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป