ผู้ช่วย รมต.สธ. เรียก “ผอ.รพ.สต.” ถกปมถูกร้องอ้างมีสัมพันธ์ภรรยาผู้อื่น ด้านเจ้าตัวชี้ผู้หญิงบอกเลิกสามีแล้ว ส่วนผลสอบวินัยราชการไม่น่าถึง 2 สัปดาห์ ย้ำ! เรื่องนี้ไม่ทำให้สธ.เสื่อมเสีย เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว บุคลากรกระทรวงฯมีกว่า 5 แสน อสม.อีกกว่า 1 ล้าน หากมีประเด็นก็ต้องตรวจสอบ ใครทำผิดก็เป็นไปตามกระบวนการ หากไม่ผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรม
ตามที่ “กัน จอมพลัง” พานายเอ นามสมมติ ผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ระบุว่าภรรยาตเองทิ้งลูก ทิ้งสามี ไปคบหากับผู้อำนวยการโรงพยาบาลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แห่งหนึ่ง ในจังหวัดนนทบุรี โดยอ้างว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง มาร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบจริยธรรมของผู้อำนวยการคนดังกล่าว ซึ่งกระทรวงฯรับเรื่องและตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นข้าราชการกระทรวงฯ หากกระทำผิดถือว่าเข้าข่ายผิดวินัยราชการได้นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าดังกล่าวว่า ทางผู้บริหารกระทรวงฯ ได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.) มีคำสั่งให้ทาง “ผอ.รพ.สต.” มาช่วยราชการในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) นนทบุรี ก่อนวานนี้ ซึ่งตนได้เชิญ ผอ.รพ.สต.รายดังกล่าวมาหารือเบื้องต้นในวันนี้(21 มิ.ย.) ได้มีการพูดคุยกันและเห็นหลักฐานเบื้องต้นแล้ว ยืนยันไม่รู้ว่า ผู้หญิงยังไม่เลิกกับสามี เพราะผู้หญิงบอกว่าเลิกแล้ว ส่วนผอ.รพ.สต.ยืนยันไม่มีครอบครัว
ทั้งนี้ ผอ.รพ.สต. ได้มีเอกสารชี้แจงมาแล้ว ตนจะส่งต่อยังปลัดกระทรวงสาธารณสุขต่อไป สำหรับข้อมูลตรงนี้ที่ทราบ ตนไม่ได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนฯ ซึ่งก็จะมีการสอบสวนต่อไป
นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ความสัมพันธ์เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2566 ณ สถานที่หนึ่งเกี่ยวข้องกับการสัมมนา มีการถ่ายภาพแลกไลน์ ส่งภาพกันปกติ จากนั้นก็ทักทายกันเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆแต่หลังจากนั้นก็คุยทักแชท ไปทำบุญ บอกบุญกันส่วนใหญ่ แต่ความสัมพันธ์เกิดขึ้นช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 เมื่อสอบถามพบว่ามีความสัมพันธ์กันเพียง 4 ครั้ง ครั้งแรกความสัมพันธ์ทั่วไป จากนั้นก็มีแบบผู้ชายผู้หญิง และเรื่องซาดิสม์ ไม่ใช่ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ เป็นเพียงพร็อบทั่วไป มีการใช้แบบนี้ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เคยส่งที่คลินิก 1 ครั้ง และส่งที่บ้านครั้งที่ 2 แต่ไม่ได้เข้า ผอ.รพ.สต.เคยถามว่า เข้าบ้านได้หรือไม่ แต่ผู้หญิงปฏิเสธ โดยรวมเขาบอกว่า เป็นการคบแบบไม่ผูกพันธ์ เป็นการชอบแบบส่วนตัว ยืนยันว่าไม่ทราบ ไม่รู้ว่ายังอยู่กับสามี
ส่วนประเด็นที่ว่าทราบหรือไม่มีครอบครัว ตอบว่าผู้หญิงยืนยันมีครอบครัว มีลูก แต่ปัจจุบันเลิกกับสามีไปแล้ว ซึ่งผู้หญิงยืนยันเช่นนั้น แต่ทางตนได้ให้ผู้หญิงมายืนยันด้วย ซึ่งทางผอ.รพ.สต.บอกว่า จะประสานให้ฝ่ายหญิงมายืนยันเรื่องนี้
เมื่อถามว่าแบบนี้แสดงว่า ผอ.รพ.สต.ยังไม่ควรกล่าวโทษว่า มีสัมพันธ์คบชู้ใช่หรือไม่ นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ไม่ควรพูด เพราะต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน หากไม่ใช่ เขาก็เกิดความเสียหาย ที่สำคัญผู้หญิงก็ยืนยันไม่ได้บอกผู้ชาย เรื่องนี้ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการนัดหมายผู้หญิงมาพูดคุยอีกเช่นกัน
ถามอีกว่า ผอ.รพ.สต.จะดำเนินคดีกลับหรือไม่ นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ เพราะตอนนี้ต้องดีแคร์ตัวเองก่อน ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบให้แล้วเสร็จ เบื้องต้นตั้งเวลา 2 สัปดาห์ แต่หากได้ข้อมูลเร็วก็จะตรวจสอบพิจารณาได้เร็วก็จบเร็ว
ถามว่ากังวลหรือไม่จะสร้างความเสื่อมเสียในกระทรวงสาธารณสุข นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า บุคลากรสาธารณสุขมีจำนวนมากกว่า 4-5 แสนคน อสม.อีกกว่า 1 ล้านคน มีคนจำนวนมาก ก็ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นได้ อยู่ที่ว่ามีการกระทำความผิดอย่างไร ทุกอย่างต้องอยู่ที่ขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้มาใช้บริการรพ.สต.หรือไม่ เนื่องจากผอ.รพ.สต. เป็นข้าราชการ และให้บริการประชาชน นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ก็หากผิดจริง หรือมีความรู้สึกว่าไม่ควรทำงานในพื้นที่ หรือชาวบ้านขาดความเชื่อมั่นก็ต้องมาพิจารณาว่าจะอย่างไร ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ผอ.รพ.สต. ท่านนี้ไม่ใช่แพทย์ เป็นนักวิชาการสาธารณสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีคำสั่ง จาก นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการังหวัดนนทบุรี ลงนามวันที่ 21 มิถุนายน 2567 คำสั่งจังหวัดนนทบุรี ให้ข้าราชการปฏิบัติราชการ โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคำสั่งให้ข้าราชการรายดังกล่าว ตำแหน่ง ผอ.รพ.สต. (เจ้าพนักงานกระทรวงสาธารณสุขอาวุโส) รพ.สต.แห่งหนึ่งในจ.นนทบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ สสจ.นนทบุรี เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
- 14261 views