ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้ช่วย รมต.สธ. รับเรื่องร้องเรียนผู้ป่วยรับผลกระทบจากการรักษา รพ.อำเภอพระทองคำ 2 ราย โดยมูลนิธิเป็นหนึ่ง นำญาติมาร้องทุกข์กรณีผู้ป่วยที่เสียชีวิต ชี้บุคลากรทางการแพทย์ปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ด้าน สธ.เดินหน้าจ่ายค่าเยียวยาตามม.41 พร้อมตรวจสอบทุกเคสที่ร้องเรียน เหตุพบมีกว่า 10 เคสจาก รพ.เดียวกัน

 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้พาครอบครัวผู้เสียหายจำนวน 2 รายจาก จ.นครราชสีมา เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกรณีการรักษาพยาบาลที่ผิดพลาดโดยบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลชุมชน ในอำเภอพระทองคำ จ.นครราชสีมา โดยมี   นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน 2 เคส จากเคสแรกอายุ 4 ขวบจากเหตุไส้ติ่ง อีกเคสอายุ 71 ปี มีอาการท้องอืดแต่รพ.ให้น้ำเกลือ สุดท้ายเสียชีวิตทั้งคู่  

น.ส.ชลิดา กล่าวว่า ตนได้พาครอบครัวผู้เสียชีวิต 2 รายมาร้องเรียนวันนี้ จากทั้งหมดที่มีข้อมูลประมาณ 10 ราย ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเหล่านี้จาก รพ.เดียวกันนี้ ตนไม่โทษทางผู้บริหารของ รพ. แต่โทษการทำงานของบุคลากรที่ปฏิบัติงาน เพราะประชาชนที่ร้องเรียนมาก็บอกว่าบุคลากรไม่ปฏิบัติงานตามมาตรฐาน อย่างเช่น พยาบาลนั่งเล่นมือถือ เท่าที่ทราบมาพบว่า รพ. มีหมออยู่ 5 คน ซึ่งตนเข้าใจว่าบุคลากรทำงานหนัก แต่เมื่อเป็นหมอแล้วก็ต้องอุทิศตนดูแลผู้ป่วยเหมือนญาติของตัวเอง ดังนั้นเรื่องนี้ต้องถอดบทเรียนเพื่อแก้ไข โดยสิ่งสำคัญคือประชาชนจะไว้ใจการรักษาพยาบาลของ รพ. ได้หรือไม่ เนื่องจากหลังเกิดเหตุการณ์ที่มีการเสียชีวิตขึ้น ทาง รพ. ก็ทำให้บริการรักษาตามปกติ และยังไม่มีการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต วันนี้ตนจึงมาเพื่อขอให้ทาง สธ. เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา

 

นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า จากกรณีที่มูลนิธิเป็นหนึ่งได้พาครอบครัวผู้เสียหายมาร้องทุกข์วันนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งดำเนินการ โดยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.) คาดว่าหลังประชุมก็จะทราบผลในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ตนยังไม่สามารถระบุได้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เป็นการวินิจฉัยที่ผิดพลาด ขอให้รอผลจากคณะกรรมการฯ ก่อน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ก็จะต้องมีการชดเชยเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ในมาตรา 41 เพื่อการเยียวยาผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข   ในกรณีที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิตมาก ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จะส่งบุคลากรลงพื้นที่ไปดูแลญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป

 

“วันนี้มีกำนันเป็นตัวแทนชาวบ้านมาด้วย เพราะอยากมาแจ้งเรื่องที่มีการร้องเรียนปัญหา มาตรฐานการรักษาพยาบาลของบุคลากรใน รพ. ดังกล่าว เราก็รับฟังเพื่อถอดบทเรียนไปแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก สิ่งที่ต้องยอมรับคือจำนวนบุคลากรที่ทำงานมีจำนวนไม่เพียงพอต่อผู้ป่วย ทำให้บางครั้งหมอเองก็อาจจะเหนื่อย ขอให้ผู้ป่วยเห็นใจในส่วนนี้ แต่เราก็ยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เช่นกัน” นายกองตรีธนกฤต กล่าวและว่า เพื่อให้เกิดการปฏิบัติ ตนและทีมงานจะลงพื้นที่ไปสุ่มตรวจแต่ละ รพ. เพื่อดูว่าผู้รับบริการได้รับการดูแลตามมาตรฐานหรือไม่

ด้าน นางฐานิยา ชาวดอนคา มารดาของเด็กหญิงวัย 4 ขวบที่เสียชีวิต กล่าวว่า ตนและครอบครัวเชื่อว่าที่ลูกเสียชีวิตเนื่องจากการวินิจฉัยที่ผิดพลาดของแพทย์ ทำให้ลูกได้รับการรักษาช้าจนเสียชีวิต โดยระหว่างนอนรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ที่รพ.เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2567 ก็เริ่มมีอาการปวดท้องหนัก งอแง แพทย์ได้เอ็กซ์เรย์หน้าอก 2 ครั้ง ระบุว่า อาการปกติ แต่พยาบาลมากดท้อง น้องร้อง จึงคิดว่า น่าจะเป็นไส้ติ่ง จนเช้าวันที่ 30 ม.ค.2567  แพทย์ได้ให้ยาแก้ปวด ลดไข้ จนประมาณเที่ยง ทาง รพ. ได้ทำเรื่องส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ต่อมา เช้าวันที่ 31 ม.ค.2567 ทีมแพทย์ รพ.มหาราช ได้ตรวจด้วยการเอกซเรย์และนำลูกเข้าห้องผ่าตัดจนประมาณเที่ยง แพทย์แจ้งลูกสาวเสียชีวิตในระหว่างการผ่าตัด ด้วยสาเหตุ ติดเชื้อในกระแสเลือด ไส้ติ่งแตก ซึ่งทางครอบครัวมองว่า เรื่องเหตุที่เกิดขึ้น มาจากการที่แพทย์ของรพ. แห่งแรกไม่สามารถวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องได้ทำให้การรักษาล่าช้า เป็นเหตุให้ลูกสาวตนต้องเสียชีวิต อีกทั้งหลังเกิดเหตุทาง รพ. ไม่เคยติดต่อชี้แจงใดๆ กับครอบครัวเลย ตนจึงได้เข้ามาร้องเรียนเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับครอบครัวใดอีก

 

ทั้งนี้ กำนันในตำบลพังเทียม อำเภอพระทองคำ ซึ่งเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และประสานงานร่วมกับต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เข้าร้องเรียนมายังกระทรวงสาธารณสุข ในวันนี้ กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านมาตลอด ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเรื่องก็เป็นผู้แทนช่วยสอบถามทางรพ. ซึ่งได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้อำนวยการ รพ. ได้รับคำตอบว่า จะแก้ไขปรับปรุง เป็นแบบนี้มา 4 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นเรื่องของมาตรฐานบริการเป็นหลัก