เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย จวกยับ! กระทรวงหมอไม่เห็นค่าเสียงประชาชน ไร้ข้อมูลเปรียบเทียบทางวิทยาศาสตร์ผลกระทบระหว่าง “กัญชา เหล้า บุหรี่”  ชี้รัฐบาลมีธงต้องการเอากลับเป็นยาเสพติด เมินผลกระทบวงกว้าง หลงเชื่อข่าวคลั่ง ถูกปั่นจนเกลียดกลัวกัญชา ทั้งที่คนใช้จริงมานับสิบปี ไม่เคยคลั่งเสียที  ถ้ารัฐบาลนี้หวังดีต่อเยาวชนคงไม่ปล่อยยาบ้า 5 เม็ด 

 

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงการคัดค้านนโยบาย กัญชา กลับเป็นยาเสพติด ระบุ ว่า

 

เราคาดการณ์มาล่วงหน้ามาแล้วว่าหมอในกระทรวงสาธารณสุขจะเล่นการเมือง   พวกเขาไม่สนใจนำข้อเท็จจริงมากำหนดสถานะพืชกัญชา ล่าสุดพวกเขาปฏิเสธการจัดทำข้อมูลวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบที่เสนอโดยเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย

 

เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้ยื่นข้อเสนอสำคัญ 2 ประการเพื่อให้รัฐใช้เป็นกรอบในการพิจารณากำหนดสถานะของพืชกัญชาคือขอให้วิเคราะห์เครื่องมือในการควบคุมกัญชาระหว่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดหรือ พ.ร.บ.กัญชา เพราะสองสิ่งนี้สามารถควบคุมได้เหมือนกันแต่ผลลัพธ์แตกต่างกัน กล่าวคือ เมื่อควบคุมด้วย พ.ร.บ.ยาเสพติดจะเกิดกติกาเฉพาะให้คนกลุ่มเดียวทำธุรกิจกัญชา หากควบคุมโดย พ.ร.บ.กัญชาจะเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน พ.ร.บ.ยาเสพติดเอาไว้ขังพืชกัญชา แต่ พ.ร.บ.กัญชามีไว้สำหรับการออกแบบเชิงระบบ ควบคุมตั้งแต่การปลูกจนกระทั่งการแปรรูปและสามารถออกแบบกลไกการปกป้องเยาวชนที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแต่ทำไมรัฐบาลเลือกใช้เครื่องมือ พ.ร.บ.ยาเสพติดในการคุมกัญชา

 

ประการถัดมาคือขอให้กระทรวงสาธารณสุขใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์ในการกำหนดตำแหน่งแห่งที่ของกัญชาว่าควรเป็นยาเสพติดหรือเป็นพืชสมุนไพร โดยให้จัดทำข้อมูลวิทยาศาสตร์2ชุดประกอบด้วยการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียและคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายระหว่าง กัญชา สุรา บุหรี่ หากกัญชาร้ายกว่าเหล้าและบุหรี่ รัฐสามารถนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดแต่หากเมื่อเทียบคุณสมบัติแล้วกัญชาคือยารักษาโรคให้นำกัญชากลับมาควบคุมโดยกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชา ชุดที่สองให้จัดทำงานวิจัยโดยทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาชน ภาครัฐ ภาควิชาการ เพื่อพิจารณาว่า2ปีที่ผ่านมากัญชาก่อผลดีและผลเสียต่อสังคมอย่างไรและใช้งานวิจัยชุดนี้เพื่อกำหนดสถานะของกัญชา

แปลกที่ประเทศนี้ประชาชนต้องออกมาเรียกร้องให้รัฐใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดนโยบายสาธารณะและในขณะเดียวกันหมอในกระทรวงสาธารณสุขก็ปฏิเสธแนวทางการใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์

 

ล่าสุดโฆษกกัญชาคือ นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ ซึ่งนายนสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งออกมาปฏิเสธการทำข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างบุหรี่ เหล้า กัญชา โดยให้เหตุผลว่าข้อมูลเรื่องเหล้าและบุหรี่มีเยอะแล้ว ตอนนี้ขอดูข้อมูลกัญชาอย่างเดียวว่าจะออกกฎหรือปรับเปลี่ยนกฎกระทรวงอย่างไร ท้ายที่สุดพวกเขาไม่เคยฟังประชาชนเดินหน้านำกัญชาสู่ยาเสพติดอย่างเดียว  สอดคล้องกับที่ก่อนหน้านี้เครือข่ายได้ทำหนังสือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมถามถึงเหตุผลว่าทำไมต้องเอากัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด โดยทางเครือข่ายขอให้ทำข้อมูลเปรียบเทียบเช่นเดียวกับที่เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขทำ กระทรวงยุติธรรมโดยเลขาธิการ ปปส.ตอบว่าไม่ต้องทำการเปรียบเทียบเพราะสุราและบุหรี่ไม่ใช่ยาเสพติดและย้ำว่าการเปรียบเทียบไม่ได้เกิดประโยชน์ใดทั้งสิ้น

 

ประชาชนโปรดทราบว่าการพัฒนาประเทศนี้ผู้มีอำนาจไม่เคยกำหนดนโยบายจากข้อเท็จจริง พวกเขาสร้างความเท็จด้วยการ ‘ความจริงประดิษฐ์’ เพื่อนำสู่การควบคุมอย่างที่พวกเขาต้องการ เรียนไปยังรัฐมนตรีทั้งสองกระทรวงว่า เหตุผลหลักที่ต้องการให้ทำข้อมูลเปรียบเทียบเพราะประชาชนทั้งประเทศจะได้รับรู้ข้อเท็จจริงและร่วมแสดงความเห็นภายใต้ข้อเท็จจริงว่า กัญชาควรควบคุมโดยกฎหมายยาเสพติดหรือพ.ร.บ.กัญชา นี่คือเป้าหมาย

 

พวกคุณรู้ดีแต่เบี่ยงเบนประเด็นตลอดเวลาเพราะพวกคุณรู้ดีว่าเมื่อทำข้อมูลออกมาแล้วจะพบว่า เหล้าและบุหรี่ฆ่าคนปีละกี่ศพ เป็นฆาตรกรเงียบที่แฝงตัวอยู่ทุกอนูของสังคมและที่พวกคุณกลัวมากที่สุดคือการทำข้อมูลมันจะกระทบต่อธุรกิจเหล้าของทุนใหญ่ ซึ่งพวกนักการเมืองและข้าราชการไม่กล้าแตะต้อง

เรียนไปยังประชาชนทั่วประเทศว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเราร่วมกันจัดทำกฎหมาย พ.ร.บ.เพื่อควบคุมกัญชา แต่นักการเมืองเอากัญชาไปเล่นเกมส์จนกระทั่ง พ.ร.บ.กัญชาพิจารณาไม่ทันในสมัยรัฐบาลที่แล้วพอมาถึงรัฐบาลนี้ประชาชนร่วมกันลงชื่อหนึ่งหมื่นรายชื่อเพื่อเสนอกฎหมายแต่ตอนนี้กฎหมาย พ.ร.บ.กัญชา อยู่บนโต๊ะนายกรัฐมนตรี4ฉบับซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ยอมลงนามทั้งที่เป็นกฎหมายควบคุมกัญชาเชิงระบบที่มีประสิทธิภาพกว่า พ.ร.บ.ยาเสพติด แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายอีกแบบที่ไม่ใช่เพื่อประชาชนจึงไม่ผลักดันกฎหมายควบคุมกัญชาแต่เอากัญชากลับไปขังคุกเพื่อควบคุมกัญชาให้คนเฉพาะกลุ่มเท่านั้นที่ทำได้เพื่อโกยรายได้หลายหมื่นล้านต่อปีเหมือนกับธุรกิจเบียร์

 

ประชาชนจำนวนไม่น้อยถูกข่าวกัญชาคลั่งปั่นจนเกลียดกลัวกัญชา ทุกท่านลองสังเกตประการหนึ่งมีคนแสดงตัวว่าใช้กัญชามานับสิบปี ทำไมถึงไม่คลั่งเสียที แต่ข่าวคลั่งกัญชากลับไม่เกิดกับคนใช้กัญชาประจำ ข้อมูลทั้งหมดถูกเบียงเบนเพื่อเป้าประสงค์เดียวคือคุมกัญชาให้คนเฉพาะกลุ่ม ถ้ารัฐบาลนี้หวังดีต่อเยาวชนคงไม่ปล่อยยาบ้า5เม็ดและที่พวกเขาเกลียดกัญชาเพราะปรากฎข้อเท็จริงในหลายพื้นที่ว่า กัญชาใช้รักษายาบ้าได้ เราเจอกรณีศึกษาเช่นนี้หลายกรณีกัญชาจึงกลายเป็นศัตรูของยาเสพติดชนิดอื่น

 

เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยยืนยันว่าหากรัฐไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องด้วยการใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์กำหนดสถานะกัญชา เครือข่ายจะชุมนุมยืดเยื้อเพื่อให้นโยบายกัญชาถูกกำหนดจากข้อเท็จจริงไม่ใช่ตั้งธงว่าจะเอากลับไปควบคุมด้วยกฎหมายยาเสพติด รู้สึกว่าในจังหวะนี้พรรคเพื่อไทยหยิ่งผยองในอำนาจเหลือเกิน เราเพียงขอให้ใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์ในการกำหนดนโยบายสาธารณะเท่านี้พวกคุณยังไม่ยอม นายใหญ่พวกคุณมันเผด็จการเสียยิ่งกว่ารัฐบาลทหาร พวกคุณอาจเหลือเวลาให้หยิ่งผยองอีกไม่กี่วัน กลับตัวกลับใจอาจจะยังทัน

 

เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย