เริ่มแล้ว! 1 มี.ค.67 สปสช.ปรับรูปแบบจ่ายเงิน คลินิกชุมชนอบอุ่นใช้โมเดล 2 ส่วนโมเดล5 เป็นส่งต่อ แต่เน้นหลักงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค เหตุเป็นงบก้อนใหญ่กว่าพันล้านบาท ด้านคลินิกฯ ยังไม่ปลดป้ายดำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ซึ่งเป็นวันแรกที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการปรับวิธีการคำนวณการเบิกจ่ายเงินแก่ คลินิกชุมชนอบอุ่นในพื้นที่ กทม.ราว 300 แห่งที่มีปัญหาทางการเงิน จนมีการขึ้นป้ายดำติดหน้าคลินิกว่า “บัตรทอง กทม.เงินไปไหนหใด ไม่มีเงินจ่ายคลินิกบัตรทอง” หลังจากก่อนหน้านี้ไปร้องเรียนต่อนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยในวันเดียวกัน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) และนพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่เขต 13 กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร สปสช.ลงพื้นที่หารือและแนะแนวทางการเบิกจ่ายเงินรูปแบบใหม่ พร้อมทั้งประกาศ “kick Off Health Survey สำรวจสุขภาวะด้านสุขภาพและการคัดกรองสุขภาพ ที่ชุมชนอบอุ่นสหคลินิก (เวชกรรมและการแพทย์แผนไทย) เขตดินแดง กทม.
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ที่ผ่านมากติกาของ สปสช. ทำให้ไปเน้นในเรื่องการรักษาพยาบาล และเห็นชัดจากตัวเลขเงินที่จ่ายให้ระบบส่งต่อยังรพ.ระดับสูงกว่าถึงร้อยละ 70 แต่งานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค งบประมาณตรงนี้กลับเหลือ ซึ่งภาพรวมเหลือเป็นพันล้านบาท มากกว่าเงินรักษาพยาบาล ดังนั้น การมาดูคลินิกแห่งนี้ เพราะที่นี่ทำงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้ดี โดยวิธีการลงไปสำรวจชุมชนจนพบกลุ่มคนไข้ ซึ่งเราจะปรับการจ่ายงบกลุ่มนี้ มีจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมาใช้น้อย ทั่งที่คลินิกแห่งนี้มีการส่งเสริมป้องกันโรค สามารถใช้งบก้อนนี้ได้มาก
“ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ เราไม่ได้ปรับแค่รูปแบบการจ่ายจากโมเดล 5 ที่จ่ายตามจริง เป็นจ่ายแบบโมเดล 2 คือเหมาจ่ายรายหัว แต่ยังรวมทั้งการปรับการจ่ายงบในหมวดส่งเสริมป้องกันโรคด้วย เพื่อให้คลินิกที่ทำงานจริงได้เงินตามที่ตนเองทำ และในวันที่ 6 มีนาคมจะเสนอแนวทางนี้ต่อชุดคณะทำงาน นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิ์ชัย ประธานคณะทำงานวิเคราะห์ข้อมูลการเบิกจ่ายค่าบริการกรณีผู้ป่วยนอก การส่งต่อและการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเข้าอปสข.อีกครั้ง เพื่อออกประกาศหลักเกณฑ์ใหม่มีผลย้อนหลังวันที่ 1 มีนาคม“ นพ.จเด็จกล่าว
เมื่อถามว่าเงินค้างจ่ายจะ Set Zero หรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่า ประเด็นนี้จะยังไม่ทำอะไร ต้องพิสูจน์ตัวเลขก่อนว่าคืออะไร โดยจากนี้จะให้คลินิกใาร่วมตรวจด้วยว่า เงินส่งต่อถูกต้องหรือไม่ ที่ผ่านมาไม่เคยเปิดให้ตรวจสอบ ตอนนี้เราเปิดแล้ว
เมื่อถามว่าสรุป 1 มีนาคมจะยังมีโมเดล5 กรณีส่งต่อใช่หรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า คำว่าโมเดล2 หากเป็นคนในพื้นที่จะเป็นเหมาจ่ายรายหัว แต่หากคนในพื้นที่ไปรับบริการพื้นที่อื่น ก็ต้องจ่ายแบบโมเดล5 คือ จ่ายตามรายการตามจริง ตรงนี้ยังเป็นประเด็นอยู่ว่าจะอย่างไร เพราะกรณีนี้ค่อนข้างดูดเงินไป 70% บางกรณีพบเบิกจ่ายคิดผิดหมวดผิดก้อนก็มี จึงต้องหารือกันก่อน
“ต่อไปนี้คลินิกจะไม่ได้ตั้งรับอีก โดยจะไม่ใช่นั่งแต่คลินิก แค่ต้องลงไปในชุมชนด้วย ถือเป็นนิมิตหมายใหม่เน้นบริการชุมชน ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค” เลขาฯ สปสช. กล่าว
ด้านนางอนงค์ โรจน์กูลชัย นักจิตวิทยา ประจำคลินิกชุมชนอบอุ่นประชาสงเคราะห์ 26 กล่าวว่า คงต้องรอติดตามว่า หลังจากนี้สปสช.จะมีการดำเนินการอย่างไร ส่วนป้ายดำที่ติดหน้าคลินิก ยังไม่มีเหตุผลที่จะเอาลง
“เราอยากสะท้อนให้ประชาชนทราบว่าระบบสาธารณสุขของเราเป็นแบบนี้ ไม่ได้อยากบอกว่ามีปัญหาแต่อยากให้ทราบว่าเป็นแบบนี้” นางอนงค์กล่าว
- 1888 views