รมว.สาธารณสุขเผยยังพบน้ำท่วมใน 12 จังหวัด กาฬสินธุ์และอุบลราชธานี ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น สถานบริการสาธารณสุขกระทบ 11 แห่ง ปิดบริการ 1 แห่ง ที่ รพ.สต.บ้านต้นธง จ.ลำปาง กำชับเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพที่มากับน้ำท่วม จัดบริการทางการแพทย์ดูแลประชาชนต่อเนื่อง โดยส่วนกลางพร้อมให้การสนับสนุน

 

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ว่า ได้รับรายงานจากกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 1 ตุลาคม 2566 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบสะสม 28 จังหวัด ส่วนใหญ่สถานการณ์เริ่มกลับสู่ปกติ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 12 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำพูน เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ ตาก สุโขทัย กาฬสินธุ์ ยโสธร อุบลราชธานี และปราจีนบุรี ส่วนใหญ่ระดับน้ำลดลงแล้ว ยกเว้นเพชรบูรณ์ระดับน้ำยังทรงตัว ส่วนกาฬสินธุ์และอุบลราชธานี ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น

“สำหรับสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 11 แห่ง เป็นโรงพยาบาล 2 แห่ง สาธารณสุขอำเภอ 1 แห่ง และ รพ.สต. 8 แห่ง โดยสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ 10 แห่ง มีเพียง 1 แห่ง ที่ต้องปิดบริการ คือ รพ.สต.บ้านต้นธง อ.แม่พริก จ.ลำปาง” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ได้กำชับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่อุทกภัยทุกแห่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประสานหน่วยงานการแพทย์ฉุกเฉินหรือมูลนิธิในการเข้าช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน พร้อมทั้งเฝ้าระวังและป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่มากับน้ำท่วม 3 กลุ่ม ทั้งพื้นที่น้ำท่วมและหลังน้ำลด คือ 1.กลุ่มโรคติดเชื้อ ได้แก่ โรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนังจากเชื้อรา โรคตาแดงจากเชื้อไวรัส โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ และโรคไข้ฉี่หนู หรือเลปโตสไปโรซิส 2.สัตว์ แมลงมีพิษกัดต่อย เช่น งู แมลง ปลิง เป็นต้น และ 3.อุบัติเหตุอื่นๆ ได้แก่ จมน้ำ ไฟฟ้าดูด วัตถุแหลมคม โดยเน้นให้ความรู้ประชาชนหลีกเลี่ยงการลุยน้ำย่ำโคลน หากจำเป็นให้สวมรองเท้าบูท ถึงบ้านแล้วให้อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด รับประทานอาหารสุกร้อน ล้างมือก่อนรับประทานอาหารหรือหลังเข้าห้องน้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดเชื้อทางเดินอาหาร หากมีอาการเจ็บป่วยทางเดินหายใจให้สวมหน้ากากอนามัย ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม และไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน

 ทั้งนี้ หน่วยงานสาธารณสุขทุกพื้นที่ได้เตรียมจัดบริการทางการแพทย์ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเมื่อจำเป็น และสำรองยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ โดยยังคงให้การดูแลผู้ประสบอุทกภัยต่อเนื่อง เช่น ที่จังหวัดอุบลราชธานี ให้บริการตรวจรักษา 79 ราย พบเป็นโรคน้ำกัดเท้า 38 ราย ไข้หวัด 40 ราย และอุจจาระร่วง 1 ราย ประเมินสุขภาพจิต 99 ราย พบมีอาการเครียดเล็กน้อย 14 ราย ที่จังหวัดลำปาง ได้จัดทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคในพื้นที่ระดับอำเภอ (CDCU) / ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค (JIT) 5 ทีม และทีมเยียวยาจิตใจ MCATT 5 ทีม ออกเยี่ยมบ้าน 65 ครัวเรือน ประเมินสุขภาพจิต 22 ราย ยังไม่พบผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ขณะที่ส่วนกลางได้สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ให้กับจังหวัดอุดรธานีและอุบลราชธานี จังหวัดละ 1,500 ชุด รวม 3,000 ชุด และพร้อมให้การสนับสนุนทุกพื้นที่ทันทีเมื่อได้รับการประสาน