มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ เผยผลการศึกษารพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ ดึงตำรับ "ยาแก้องคชาตตาย" สมุนไพร 8 ตัว  มี “กัญชา” สัดส่วน 50% พัฒนาเป็นแคปซูลหวังฟื้นฟูภาวะเซ็กซ์เสื่อม เตรียมวิจัยอาสาสมัครเดือน ก.ค. นี้ ตั้งเป้า 100 คน คาด 3 เดือนรู้ผลเบื้องต้นก่อนขยายศึกษาเปรียบเทียบยาแผนปัจจุบัน หากได้ผลจริงดันเข้าบัญชียาหลักฯ  สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่รพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ

 

รพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ  ศึกษาวิจัยตำรับยาแก้องคชาตตาย

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ภก.ศศิพงค์ ทิพย์รัชดาพร เภสัชกรชำนาญการพิเศษ รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร ให้สัมภาษณ์ถึงยาแก้องคชาตตาย แก้อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ภายในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ครั้งที่ 20 "สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย" ว่า รพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ กำลังดำเนินการศึกษาวิจัยตำรับยาแก้องคชาตตาย ซึ่งมาจากตำรับยาเกร็ด หมวดเวชศาสตร์ จากสมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ โดยใช้สมุนไพร 8 ตัวมาเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ดีปลี ชะพลู พริกชี้ฟ้า ขิง ลูกจันทน์ กระวาน รากสะแก และกัญชา โดยสัดส่วนจะเป็นกัญชาถึง 50% และสมุนไพรอีก 7 ตัวที่เหลือจะใช้สัดส่วนในอัตราที่เท่าๆ กัน โดยจะนำมาบดเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน โดยในตำรับระบุคุณสมบัติว่า แก้องคชาติตาย ซึ่งหากเทียบกับแผนปัจจุบันคือ อาการโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ภาวะที่องคชาตไม่สามารถแข็งตัว หรือคงความแข็งตัวได้ไม่นานพอจนเสร็จสิ้นการมีเพศสัมพันธ์

เดือน ก.ค.นี้เตรียมศึกษาอาสาสมัคร 100 คน

ภก.ศศิพงศ์ กล่าวว่า ในการศึกษาวิจัยจะรับอาสาสมัครผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยว่ามีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อายุระหว่าง 25-60 ปี ไม่มีโรคประจำตัว หรือประวัติแพ้สมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนประกอบ ตั้งเป้าไว้ที่ 100 คน ซึ่งตามตำรับจะรับประทานครั้งละ 1 กรัม วันละ 2 ครั้งก่อนอาหารหรือเช้าเย็น แต่ในการผลิตเราทำเป็นแคปซูลก็จะให้กินวันละ 2-3 แคปซูล และนัดติดตามผลทุก 7 วัน เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อประเมินภาวะการแข็งตัวของอวัยวะเพศและการตอบสนองของอวัยวะเพศต่อยา โดยจะให้ทำแบบประเมินเรื่องความแข็งตัวขององคชาต ตั้งแต่ระดับ 0 คะแนนที่ไม่ขยายตัว จนถึงระดับ 4 คะแนน ที่ขยายขนาดแข็งขึ้น สอดใส่ได้เต็มที่ ว่าตั้งแต่ก่อนรับประทานยาเป็นอย่างไรและหลังรับประทานยาแตกต่างหรือไม่อย่างไร รวมถึงจะมีแบบทดสอบสมรรถภาพทางเพศที่เป็นแบบวัดสากลในการประเมินผลด้วย ซึ่งจะมีการถามเรื่องต่างๆ เช่น การแข็งตัวบ่อยแค่ไหน มีความต้องการทางเพศบ่อยแค่ไหน มีเพศสัมพันธ์บ่อยแค่ไหน สอดใส่ได้หรือไม่ ประเมินเรื่องอารมณ์เมื่อมีการเร้า รู้สึกจุดสุดยอดบ่อยแค่ไหน เพื่อวัดประสิทธิผลของยา

 

"เนื่องจากส่วนใหญ่ความรู้สึกทางเพศของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน เหมือนอาการปวด ที่บางคนถูกมดกัดอาจบอกระดับความปวด 2 คะแนน บางคนบอกปวดระดับ 4 การวัดผลจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นตัวกลางประเมินความรู้สึกทางเพศตั้งแต่ก่อน ระหว่างและหลังรับประทานยา นอกจากนี้ จะมีการตรวจติดตามความปลอดภัยของยาผ่านห้องปฏิบัติการด้วย ทั้งการตรวจเอนไซม์ของตับ การทำงานของไตมีความผิดปกติหรือไม่ รวมถึงอาการข้างเคียงอื่นๆ" ภก.ศศิพงศ์กล่าว

 

ภก.ศศิพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้เราได้รับการอนุมัติจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์แล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเก็บข้อมูลช่วงกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาเบื้องต้น 3 เดือน ถ้าศึกษาเบื้องต้นแล้วพบว่า ยามีความปลอดภัยและได้ผลจริงตามที่ระบุไว้ในตำรับยา ก็จะมีการนำยาตำรับนี้ไปศึกษาขยายผล โดยเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบันกับผู้ที่ใช้ยาแผนปัจจุบันรักษาสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น ว่าประสิทธิภาพประสิทธิผลแตกต่างหรือไม่ ความสามารถในการแข็งตัวเหมือนหรือใกล้เคียงกันอย่างไรจากประสบการณ์ในการใช้ ซึ่งคาดว่าปีหน้าก็น่าจะทราบผลชัดเจน ถ้างานวิจัยตอบโจทย์ได้จริงตามสรรพคุณที่ระบุไว้ ก็จะดำเนินการพัฒนารูปแบบยาให้พัฒนาง่ายขึ้น อาจทำเป็นเม็ดตอก ผลักดันเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ เอาไปใช้ในการรักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

รายละเอียดสรรพคุณสมุนไพร 8 ตัว โดยเฉพาะกัญชา สัดส่วนถึง 50%

เมื่อถามถึงสรรพคุณของสมุนไพรที่เป็นตัวส่วนประกอบ มีส่วนช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศอย่างไร เหตุใดถึงใช้กัญชาในสัดส่วนถึง 50%  ภก.ศศิพงศ์กล่าวว่า ที่ใช้กัญชา 50% เนื่องจากเชื่อว่ากัญชาช่วยในเรื่องการผ่อนคลายความเครียด เมื่อกินแล้วจะปรับร่างกาย ผ่อนคลายอารมณ์ ซึ่งความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานทางเพศลดลง นอกจากนี้ ยังมีการทบทวนวรรณกรรมพบว่า สมุนไพร 5 ตัวในตำรับนี้ พบว่า มีฤทธิ์ส่งเสริมเรื่องสมรรถภาพทางเพศ เช่น ดีปลี สารสกัดมีฤทธิ์ทำให้เกิดแอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนตั้งต้นในการเปลี่ยนไปเป็นฮอร์เทสโทสเตอโรนของเพศชาย

ชะพลู คุณสมบัติเพิ่มคุณภาพสเปิร์มในหนูทดลอง ดีกว่าหนูทดลองที่ไม่ได้กิน , พริกชี้ฟ้า มีสารชื่อแคปไซซิน กระตุ้นเลือดในร่างกายให้สูบฉีดไหลเวียนไปยังส่วนต่างๆ ดีขึ้น รวมถึงอวัยะเพศ ช่วยหลั่งสารเอนโดรฟินให้มีความสุขเร้าอารมณ์ , ขิง ในสัตว์ทดลอง พบว่า ขิงมีส่วนเพิ่มน้ำหนักของอัณฑะที่เพิ่มขึ้น ทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพิ่มขึ้น และลูกจันทน์ เมื่อเอาสารสกัดป้อนหนูทดลองเพศผู้ สามารถเพิ่มความถี่การเข้าผสมพันธุ์กับตัวเมีย เพิ่มการสอดใส่อวัยวะเพศในสัตว์ทดลอง ระยะเวลาในการหลั่ง และมีเพศสัมพันธ์ได้ถี่ขึ้น

เผยตำรับเป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อน ต้องระวังในผู้ป่วยบางกลุ่ม

ถามว่ายาตำรับนี้มีข้อควรระวังอะไรหรือไม่  ภก.ศศิพงศ์กล่าวว่า ก่อนการวิจัยเท่าที่มีการทดสอบเบื้องต้นโดยเจ้าหน้าที่ รพ. พบว่า ประเมินแล้วอาการโดยรวมค่อนข้างดี แต่มีในเรื่องของยาที่ทำให้เกิดความรู้สึกร้อนและเหงื่อออก เพราะสมุนไพรมีรสร้อนเป็นส่วนประกอบ ทั้งดีปลี ชะพลู พริกชี้ฟ้า ขิง ดังนั้น ในผู้ป่วยที่รับประทานยาบางกลุ่ม เช่น ยากันชัก ยาขยายหลอดลม หรือกลุ่มที่มีโอกาสยาจะไปตีกันกับยาแผนปัจจุบันต้องหลีกเลี่ยงในการใช้ ซึ่งการจะจ่ายยาตัวนี้แพทย์ต้องประเมินก่อนว่าสามารถรับประทานได้ ส่วนกรณีถ้ารับประทานยาตำรับนี้ไปแล้วมีอาการแบบร้อนวูบวาบ อาจแก้ต้องการอาบน้ำ จะช่วยลดอาการร้อนได้

ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลการศึกษาวิจัยได้ที่รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร  

 

ข่าวเกี่ยวข้องล่าสุด : เปิดผลวิจัยต้นแบบ ‘ตำรับยาแก้องคชาตตาย’ มีกัญชาทางการแพทย์ จ่อศึกษาเพิ่ม 300 คน