สปสช.เชิญชวนหน่วยงาน/องค์กรยื่นขอรับเงินสนับสนุนโครงการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในพื้นที่ กทม. ภายในวันที่ 31 ก.ค. 2566 เน้นโครงการที่แก้ปัญหาการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ปัญหาการดูแลและป้องกันภาวะถดถอยในผู้สูงอายุ ปัญหาด้านสุขภาพจิต และปัญหาการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในกลุ่มเปราะบาง
วันที่ 20 มิถุนายน 2566 ทพญ.น้ำเพชร ตั้งยิ่งยง ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช. เขต 13 อยู่ระหว่างเปิดรับข้อเสนอโครงการบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่เป็นปัญหาพื้นที่ระดับเขต/จังหวัด ( P&P area based) ประจำปีงบประมาณ 2567 ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้หน่วยงานหรือองค์กรที่มีสิทธิส่งข้อเสนอโครงการ ยื่นโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนมาได้ที่ สปสช. เขต 13 กทม. ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ก.ค. 2566
ทพญ.น้ำเพชร กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการที่ยื่นขอรับการสนับสนุนเข้ามานั้น จะต้องเป็นโครงการที่เกี่ยวกับความจำเป็นทางสุขภาพในพื้นที่ ซึ่งปัญหาสุขภาพประชาชนเขต กทม. นั้น จากการวิเคราะห์ข้อมูลการตายและการเจ็บป่วยที่สำคัญ ภาระโรคและความจำเป็นทางสุขภาพของประชากรพื้นที่ กทม. และข้อมูลจากการสำรวจสุขภาวะครอบครัวและชุมชนในปี 2563- 2564 จะมีจุดเน้นของข้อเสนอโครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการดูแลและป้องกันปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้องรัง (NCDs) ของทุกกลุ่มวัย สปสช.จะเน้นโครงการที่เป็นนวัตกรรมการดูแลป้องกัน 2. ปัญหาการดูแลและป้องกันภาวะถดถอยในผู้สูงอายุ ขอให้เป็นโครงการที่เน้นการเข้าถึงและนวัตกรรมดูแลป้องกัน 3. ปัญหาด้านสุขภาพจิต ขอให้เป็นโครงการที่เน้นการป้องกันความรุนแรงจากโรคทางจิตเวช และ 4. ปัญหาการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงบริการ
ทพญ.น้ำเพชร กล่าวอีกว่า หน่วยงานหรือองค์กรที่มีสิทธิส่งข้อเสนอโครงการ สามารถเป็นได้ทั้งหน่วยงานรัฐและภาคประชาชน ตั้งแต่หน่วยบริการ เครือข่ายหน่วยบริการ หน่วยบริการที่รับการส่งต่อผู้รับบริการ องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน และภาคเอกชนที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการแสวงหาผลกำไร หน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบหมายให้ทำกิจการในอำนาจหน้าที่ของ สปสช. เช่น ศูนย์วิชาการกรม สถาบันการศึกษา หน่วยงานบริหารจัดการหรือขับเคลื่อนที่มีศักยภาพ เช่น ศูนย์วิชาการกรมหรือหน่วยบริการขนาดใหญ่
อย่างไรก็ดี ในส่วนขององค์กรภาคประชาชนนั้น จะต้องมีที่ตั้งองค์กรและรายชื่อกรรมการขององค์กร มีการดำเนินกิจกรรมงานด้านส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคหรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี มีรายงานผลการดำเนินงาน หรือเอกสาร หรือภาพถ่ายที่แสดงถึงกิจกรรม และต้องมีหลักฐานการเป็นนิติบุคคล หรือกรณีที่ไม่ได้เป็นนิติบุคคลจะต้องมีหนังสือรับรอง
ทั้งนี้ หลังจากหมดเขตรับข้อเสนอโครงการในวันที่ 31 ก.ค. 2566 แล้ว สปสช. จะเร่งพิจารณาโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2566 และจัดทำนิติกรรมสัญญาแล้วเสร็จ ระหว่างเดือน ต.ค.-พ.ย. 2566 และจะเริ่มเบิกจ่ายเงินให้ผู้รับดำเนินงานโครงการภายในเดือน ธ.ค. 2566 หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สปสช.เขต 13 กทม. หมายเลขโทรศัพท์ 02-1421000
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
• ไลน์ Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี @traffyfondue หรือคลิก https://lin.ee/nwxfnHw
- 335 views