ค้าน! “พิธา” ปมจ่อนำ “กัญชา” กลับเป็นยาเสพติด สวนกลับ สุราก้าวหน้า หลักการย้อนแย้ง

อ.ปานเทพ ค้านกรณี “พิธา” แถลง MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาลกรณีเตรียมนำ กัญชา กลับเป็นยาเสพติด กระทบผู้ป่วย เสี่ยงเป็นนักโทษหมด ชี้กัญชาเสพติดยากกว่าเหล้าและบุหรี่ ขณะที่พรรคก้าวไกลดัน “สุราก้าวหน้า”  เสรีการดื่ม  หลักการย้อนแย้ง เมื่อคุมเหล้าเสรีไม่ได้ ก็ต้องให้เป็ยาเสพติดด้วยหรือไม่  ด้านเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจ่อชุมนุมท้วง “กัญชา” เป็นยาเสพติด

ตามที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคแถลง MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยหนึ่งในเนื้อหาสำคัญคือ การเตรียมเดินหน้าให้ “กัญชา” กลับไปเป็นยาเสพติด จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจที่มีการดำเนินการตามขั้นตอนก่อนหน้านี้หรือไม่ อย่างไร

“อ.ปานเทพ” จวกกลับพรรคก้าวไกลย้อนแย้ง เอา กัญชา เป็นยาเสพติด แต่เหล้า กลับดัน “สุราก้าวหน้า”

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ ... กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า เรื่องแรกคือ ตนไม่เห็นด้วยกับการให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยการตัดสินของรัฐบาลชุดที่แล้วปลดล็อกกัญชาออกมา เนื่องจากมีผู้ป่วยที่ใช้กัญชาแต่ไม่ได้รับกัญชาจากแพทย์จำนวนมากถึง 3.8 ล้านคน ดังนั้น การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด ก็ทำให้เขาไม่ถูกจำคุกหรือถูกรีดไถ่ ในขณะเดียวกัน การเอากัญชากลับเป็นยาเสพติด ก็ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากกลายเป็นนักโทษ โดยมีตัวเลขการสำรวจพบว่า ในช่วงที่กัญชาเป็นยาเสพติด มีผู้ใช้กัญชานอกการจ่ายยาของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สูงถึงร้อยละ 95 ในโดยในจำนวนนี้มีร้อยละ 83 ใช้นอกข้อบ่งใช้จากประกาศ สธ. โดยแพทยสภา ซึ่งหมายความว่า มีผู้ป่วยสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาได้มากกว่าที่มีการใช้โดยแพทย์ แต่กลับได้ผลดีถึงดีมากในการรักษาถึงร้อยละ 93  นอกจากนี้ ยังสามารถทำให้ผู้ป่วยลดหรือเลิกใช้ยาแผนปัจจุบันได้ถึงร้อยละ 58

“คนเหล่านี้ไม่ควรเป็นนักโทษ ถ้าเอากัญชากลับเป็นยาเสพติดอีก เขาจะกลับไปเป็นนักโทษทันที เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในการจ่ายยาของแพทย์ ซึ่งคุณพิธาอาจไม่เข้าใจในเรื่องนี้” นายปานเทพ กล่าว

นายปานเทพ กล่าวอีกว่า แม้กัญชาเป็นยาเสพติดแล้วจะใช้ประโยชน์ได้โดยง่าย เรียนตามตรงว่า ตอนกัญชาเป็นยาเสพติด แพทย์จ่ายยายากมาก เพราะขั้นตอนมากในฐานะยาเสพติด ซึ่งเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงกัญชาของประชาชน และเรื่องต่อมา คือ การลดใช้ยาแผนปัจจุบันถึง 58% ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัทยาโดยตรง และย้ำว่าการจะให้แพทย์ หรือแพทย์ไทยไปนั่งจ่ายยาในร้านขายกัญชานั้น ไม่สามารถทำได้แน่นอน เพราะว่าแพทย์จะต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานพยาบาล ไม่ใช่ร้านขายกัญชา คิดว่าการเดินทางปลดล็อกถูกต้องมาครึ่งทางแล้ว แต่การควบคุมกัญชาไม่จำเป็นต้องเอากลับไปเป็นยาเสพติด

“ขอย้ำว่ากัญชาเสพติดยากกว่าเหล้าและบุหรี่ ดังนั้น ถ้าพรรคก้าวไกลจะผลักดันเรื่องสุราก้าวหน้า ให้มีเสรีในการดื่มสุรา แล้วเหตุใดจะมีการจัดการกับกัญชาทั้งที่มีสรรพคุณเป็นยามากกว่าบุหรี่และสุรา  จึงมองว่าหลักการนี้ย้อนแย้งกัน เพราะถ้าควบคุมเรื่องสุราเสรีไม่ได้ ก็คงต้องเอาสุราไปเป็นยาเสพติดแล้วคุมด้วย ป.ป.ส. แต่ทำไมถึงทำเรื่องสุราก้าวหน้าได้” นายปานเทพ กล่าว

เหล้าและบุหรี่ เสพติดง่ายกว่า กัญชา

เมื่อถามเรื่องความกังวลว่าเด็กและเยาวชนจะเข้าถึงได้ จะมีข้อเสนออย่างไร นายปานเทพ กล่าวว่า เหล้าและบุหรี่เป็นสิ่งที่เสพติดง่ายกว่ากัญชา โดยเฉพาะบุหรี่ที่ติดง่ายกว่าถึง 2 เท่า และไม่มีสรรพคุณทางยาเหมือนกัญชา แต่ทำไมถึงอยู่ในร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้สถานศึกษาและควบคุมเรื่องเด็กและเยาวชนได้ ต่อมาเรื่องการควบคุมกัญชา ยืนยันว่าปัจจุบันมีการควบคุมการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน โดยมีโทษตามประกาศสธ. ดังนั้น สิ่งที่ควรทำในวันนี้คือ เร่งพิจารณา ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ให้จบ เพราะผ่านการพิจารณาจากตัวแทนของพรรคต่างๆ รวมถึงพรรคก้าวไกล ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษที่มากกว่าประกาศสธ. ไม่ใช่การเอากลับไปเป็นยาเสพติดแล้วมีผู้ป่วยเดือดร้อน

เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจ่อชุมนุมท้วง “กัญชา” เป็นยาเสพติด

ด้านนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์เฟซบุ๊กประกาศจุดยืนของเครือข่ายฯ เกี่ยวกับการประกาศการชุมนุมหลังจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกลเสร็จสิ้น ว่า กรณีที่พรรคก้าวไกลและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลนำกัญชาไปเป็นยาเสพติดนั้น ขอเรียนว่า กัญชาคือความมั่นคงทางยาที่คนยากจนและคนที่รักษาโรคในโรงพยาบาลไม่หายล้วนพึ่งพากัญชารักษาให้พ้นจากความทุกข์ทรมานของร่างกายและช่วยให้ครอบครัวไม่ล่มสลายทางเศรษฐกิจจากค่ารักษาที่แสนแพง พรรคก้าวไกล คือ ไม่พิจารณากัญชาจากข้อเท็จจริงแต่ดำเนินการภายใต้การช่วงชิงทางการเมืองและยินยอมหักกับประชาชนด้วยการเปลี่ยนหลักการของกัญชาทั้งที่ก่อนหน้านี้พรรครับ พ.ร.บ.กัญชาของประชาชนไปผลักดัน โดยเฉพาะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรควันก่อนบอกว่า มันต้องหลุดจากยาเสพติด แต่วันนี้พูดอีกอย่าง เพราะเหตุผลจะเอาชนะทางการเมือง

จะยุติการชุมนุมหากพรรคก้าวไกลตอบคำถาม 2 ข้อนี้ได้อย่างชัดเจน โดยปราศจากอคติ

ประการที่ 1 พรรคก้าวไกลต้องทำข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของ สุรา บุหรี่ กัญชา โดยต้องนำงานวิจัยมาแสดงให้เห็นว่า ข้อเสียของสุรา บุหรี่ กัญชา คืออะไร อุบัติเหตุที่เกิดรายวันจากการดื่มสุราปีละกี่คน นอกจากนี้ต้องนำงานวิจัยและตัวเลขการเกิดโรค และการตายทั้งจากสุรา บุหรี่ และกัญชา นำมาแสดงต่อสาธารณะ

รวมถึงต้องนำงานวิจัยหรือกรณีศึกษาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สุรา บุหรี่ และกัญชา รักษาโรคได้กี่โรคและมีผลปรากฎการรักษาอย่างชัดเจน มีกรณีตัวอย่างให้ประชาชนได้เห็นจริง ย้ำว่าข้อมูลทั้งหมดต้องเป็นวิทยาศาสตร์มีแหล่งอ้างอิงเชิงเอกสารหรือเชิงกรณีศึกษา อย่าเอาอคติมาเจือปน เมื่อนำข้อดีข้อเสียทั้ง 3 สิ่งมาเปรียบเทียบจึงค่อยตัดสินว่า สิ่งใดควรเป็นยาเสพติดและไม่เป็นยาเสพติด และเมื่อมีหลักฐานพบว่า กัญชามีข้อเสียกว่าทั้ง สุรา และบุหรี่ เครือข่ายฯ ยินดีสนับสนุนพรรคก้าวไกลให้นำกัญชาไปสู่ยาเสพติด

ประการที่ 2 พรรคก้าวไกลต้องตอบคำถามผลกระทบของการสนับสนุน พ.ร.บ.สุราเสรี ว่าเมื่อออกกฎหมายนี้ขึ้นมาจำเป็นต้องประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้กฎหมายหากผ่านการเห็นชอบ มีสองเรื่องย่อยที่พรรคต้องตอบในกรณีนี้คือผลกระทบทางสุขภาพและอุบัติเหตุที่จะเกิดจากการเข้าถึงสุรามากขึ้น และ ทำไมพรรคจึงสนับสนุนทลายการผูกขาดสุรา แต่กลับนำกัญชาไปสู่เงื่อนไขเฉพาะคือยาเสพติดซึ่งมีคนจำนวนน้อยที่ผลิตกัญชาได้ ประชาชนมีหน้าที่หาเงินไปซื้อ ทั้งที่ภูมิปัญญาการใช้อยู่กับประชาชนมาหลายร้อยปี กัญชาจะกลายเป็นรูปแบบของเบียร์ในปัจจุบันคือ ประชาชนใช้ได้แต่ต้องหาเงินมาซื้อเอาเอง

“แม้ว่าประชาชนทั่วประเทศจะโอบอุ้มพรรคก้าวไกล แต่เรายืนยันว่าจะต้องจัดการชุมนุมเพื่อให้สังคมรับรู้ความจริง อย่ากลัวที่จะพูดความจริง และอย่ากลัวที่จะพูดให้ตรงกัน ฉะนั้นหลังการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะชุมนุมเพื่อให้พรรคก้าวไกลในฐานะรัฐบาลตัดสินเรื่องนี้จากข้อเท็จจริง” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว  

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวด้วยว่า เมื่อเขามี พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เราควรจะตั้งชื่อเป็น พ.ร.บ.กัญชาก้าวหน้าบ้างดีหรือไม่ จะได้ไม่ไปปั่นกันว่ากัญชาเสรี ตนถามในเรื่องง่ายๆว่า อุบัติเหตุที่เกิดจากเมาแล้วขับตายปีละกี่ราย ที่พวกคุณชอบดื่มฉลองกันจนเป็นเหตุให้ว่าที่ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ของพรรคคุณถูกตรวจจับว่าเมาแล้วขับ เมื่อไม่นานมานี้ ถามจริงเถอะ สุราก้าวหน้าของพวกคุณมันรักษาโรคได้กี่โรคช่วยทำข้อมูลมาเสนอต่อสาธารณะหน่อย พรบ.นี้ทำไมพวกคุณไม่พูดถึงความร้ายของสุราเลย พูดแต่ด้านดีว่าทำลายทุนผูกขาด ในขณะที่เอากัญชาไปสู่ยาเสพติด ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการผูกขาดการผลิตกัญชาให้กับกลุ่มคนเฉพาะ จุดยืนของพวกคุณคืออะไร

วิสาหกิจชุมชนรับผลกระทบด้วย หากกัญชา กลับเป็นยาเสพติด

ขณะที่   ตุ๊กแก ลายเทียน หรือ ทิมากร ไชยบุญ  ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มลายเทียน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า กลุ่มมีการรวมตัวทำผ้าบาติกมาตั้งแต่ปี  2545 กระทั่งเมื่อช่วงมิ.ย.2565  มีการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด จึงมีการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน และขออนุญาตดำเนินการเรื่องกัญชาถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง โดยสมาชิก 7 คนมีรวมหุ้นกันคนละ 50,000- 1 แสนบาท  ทำให้มีการลงทุนไปเกิอบ 1 ล้าน ทั้งการจัดทำโรงเรือนปลูกที่ได้มาตรฐานของรัฐ ปัจจุบันมีการนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ยาหม่อง น้ำมันเขียว  และน้ำมันหยดใต้ลิ้น  ส่วนใหญ่จำหน่ายในชุมชน  ที่ผ่านมาไม่ถึง 1 ปี ยังอยู่ในระยะเริ่มจะตั้งหลักได้ แต่รัฐก็จะนำกลับไปเป็นยาเสพติดแล้ว

“ถ้าแนวทางของรัฐบาลใหม่จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดก็ไม่ได้ติดขัด กลุ่มก็เลิกปลูก เลิกทำผลิตภัณฑ์กัญชา แต่รัฐจะต้องมีการชดเชยเงินตามจริงให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ลงทุนไปกับเรื่องกัญชา และหากนำกลับไปเป็นยาเสพติดและให้ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น  สำหรับกลุ่มที่ยังปลูกต่อ รัฐก็ไม่ควรกำหนดแบบเดิมว่าให้คนปลูกคืนช่อดอกให้กับรัฐ แล้วให้คนปลูกใช้ได้แต่ส่วนอื่น เพราะการที่จะทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องใช้ส่วนผสมที่เป็นช่อดอกจึงจะมีสรรพคุณของสารต่างๆ”ทิมากรกล่าว 

ข่าวเกี่ยวข้อง :

-MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาล “กัญชา” กลับเป็นยาเสพติด พร้อมหารือทำโรดแมป ด้าน “ชูวิทย์” จี้ปิดร้านขายทั้งหมด

-“หมออดิศักดิ์” หนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่เห็นด้วยกรณีบุหรี่ไฟฟ้า

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org