กรมควบคุมโรคเผยกรณีเมียนมาเสียชีวิตจากโควิด XBB.1.16 หรือไม่ ยังต้องรอผลสอบสวนโรค ส่วนอาการตาแดง ตาอักเสบในเด็ก ยังไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้อาการชัดเจน ด้านอธิบดีคร.เชิญชวนกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนโควิดคู่ไข้หวัดใหญ่ ส่วนประชาชนฉีดวัคซีนโควิดได้ทั้งรพ.รัฐและเอกชน
เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สป.สธ.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวถึงสถานการณ์โควิดหลังสงกรานต์ ว่า จากระบบรายงานสัปดาห์ที่ 16 ระหว่างวันที่ 16-22 เมษายน 2566 พบจำนวนผู้ป่วยแอดมิทในโรงพยาบาลประมาณ 1,088 ราย เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่ากว่าๆ และมีผู้เสียชีวิตอีก 5 ราย โดย 4 รายไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดเลย และเป็นผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 มีโรคประจำตัว ส่วนอีก 1 ราย ฉีดวัคซีนมา 2 เข็ม ซึ่งทิ้งห่างไปนานแล้ว ทั้งนี้ เป็นไปตามคาดการณ์ว่า หลังเทศกาลสงกรานต์จะมีการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโควิด เนื่องจากเดินทางไปมา ร่วมกิจกรรม อย่างไรก็ตาม ขอเชิญชวนให้ฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น ร่วมกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งวัคซีนโควิดจะมีทั้งชนิดดั้งเดิมและสองสายพันธุ์ โดยขอให้ไปฉีดกระตุ้นในรพ.ทั้งรัฐและเอกชน
ยังไม่สรุปสาเหตุเสียชีวิตแรงงานเมียนมาจาก XBB.1.16 หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามกรณีความคืบหน้าการสอบสวนโรคผู้เสียชีวิตที่เป็นแรงงานเมียนมามีคนเข้าใจว่ามาจาก XBB.1.16 จริงหรือไม่ นพ.ธเรศ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากรพ.จุฬาฯ พบว่า มีลักษณะปอดอักเสบ และติดเชื้อ แต่กำลังสอบสวนรายละเอียด ซึ่งผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา และไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังสอบสวนโรค อยู่ที่รพ.จุฬา
เมื่อถามถึงอาการของโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 ว่าจริงๆ มีอาการตาแดง หรืออาการพิเศษใดจำเพาะหรือไม่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากข้อมูลปัจจุบัน อาการยังเหมือนโอมิครอนสายพันธุ์อื่นๆ เพียงแต่บางคนมีอาการตาแดง มีขี้ตา แต่เท่าที่เห็นผู้ป่วยประมาณ 20 กว่ารายนั้นในประเทศไทยยังไม่ชัดเจนว่ามีอาการตาแดง มีแต่รายงานในอินเดียที่เป็นเด็ก แต่คนทั่วไปที่ติดสายพันธุ์นี้อาการยังเหมือนโอมิครอนตัวอื่นๆ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก ปวดเมื่อยตามตัว อาการคล้ายๆกัน อาจมีตาแดงบางคน แต่ส่วนน้อย อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อตอนนี้ต้องระวังในเด็ก จะมีการติดเชื้อมากขึ้น เพราะจะมีการเปิดเทอมในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า แต่ตอนนี้คนไปร่วมกิจกรรมจะเป็นวัยทำงาน
รอ 1 สัปดาห์โควิดหลังสงกรานต์เพิ่มมากน้อยแค่ไหน
นพ.ธเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้รอติดตามอีกประมาณ 1 สัปดาห์น่าจะทราบข้อมูลเพิ่มขึ้นว่า หลังสงกรานต์มากขึ้นแค่ไหน แต่ท่านปลัดสธ.ได้สั่งการเตรียมพร้อมทางการแพทย์ต่างๆแล้ว อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการแบ่งระดับสี ตอนนี้สถานการณ์ยังอยู่ระดับสีเขียว
“เรื่องอาการตาแดงนั้น มีรายงานต่างประเทศพบในเด็ก ซึ่งเป็นตาแดง ตาอักเสบ แต่ไม่ได้มีมาก และการรักษาไม่ได้รักษาตาเฉพาะ เพราะรักษาไวรัสหายก็หายหมด ดังนั้น เรื่องอาการตาแดง ตาอักเสบ จะยังไม่มีการใช้เป็นข้อบ่งชี้หลักว่า มาจากเชื้อ XBB.1.16 ” นพ.ธเรศ กล่าว
เมื่อถามว่า ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก ระบุว่า การรับมือ XBB.1.16 ต้องฉีดวัคซีน 4 เข็ม แต่ยอดฉีดกลุ่มเสี่ยงไทยมีเพียง 11% นพ.ธเรศ กล่าวว่า เราใช้คำว่าเข็มกระตุ้น ซึ่งตอนนี้ได้วางระบบการฉีดพร้อมกันทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ขณะนี้กลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยนั้นมีประมาณ 2 ล้านคน จึงขอเชิญชวนมาฉีด ขออย่ากังวลเรื่องอันตราย ซึ่งเราฉีดกันมา 2 ปี แล้ว จากข้อมูลเทียบกับการลดความรุนแรง ถือว่าคุ้มค่า และมีการทดลองว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด สามารถฉีดร่วมกันได้ ไม่มีอันตราย ที่จริงมีการศึกษาว่าจะรวมวัคซีน 2 ตัวในเข็มเดียวด้วย แต่อยู่ระหว่างการศึกษา
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 128 views