กรมควบคุมโรคจัดหาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เพิ่ม 40% พร้อมคิกออฟฉีดฟรี 1 พ.ค.66 ขณะที่สปสช.เปิดแอปฯจองฉีด 1 เม.ย.เป็นต้นไป พร้อมเผยตัวเลขป่วยหวัดใหญ่พุ่ง! 10 จังหวัด ภาคเหนือสูงสุด    

 

คร.จัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น 40%

เมื่อเร็วๆนี้ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวในการเสวนา “ไข้หวัดใหญ่หายไปไหนในยุคCOVID-19 และควรดูแลตัวเองอย่างไร” จัดโดยมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไช้หวัดใหญ่ ว่า  ตั้งแต่ปี 2551  คนไทยเข้าถึงวัคซีนไข้หวัดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยรัฐจัดให้กลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับการฉีดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งในส่วนประชาชนทั่วไป สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสปสช.จะเป็นผู้จัดหาวัคซีน แต่กรมจะจัดให้ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มผู้ที่ทำงานกับสัตว์ปีกเพื่อป้องกันไม่ให้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่อาจจะมีโอกาสไปเจอกับไข้หวัดนกในคน และกลุ่มทำงานในเรือนจำ  โดยในปี 2566 มีการจัดหาเพิ่มขึ้น 40 % จากปีก่อน  และจะมีการขยายเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป  ทั้งนี้ จะมีการคิกออฟฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ตั้งแต่ 1 พ.ค.2566 เป็นต้นไป

    

"นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร"

 

(ข่าวเกี่ยวข้อง : หมอคาดไข้หวัดใหญ่ กลับมาระบาดหลังโควิด ห่วงสุด “ผู้สูงอายุ-เด็ก”)

 

สปสช.เปิดแอปพลิเคชั่นจองฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป

ด้านทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า สปสช.ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ในการให้ประชาชนรู้สิทธิประโยชน์สร้างเสริมป้องกันโรค รวมถึงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญด้วย โดยตั้งแต่ 1 เม.ย.2566 เป็นต้นไป เปิดให้จองฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ ซึ่งเมื่อเข้าไปจะสามารถรู้ได้ว่าบริเวณใกล้เคียงที่อยู่นั้น มีที่ไหนให้บริการฉีดวัคซีนฟรีบ้าง ประชาชนก็สามารถเลือกจองคิวได้หากสถานบริการมีการเปิดระบบไว้ ใช้ได้ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด

         

"ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ "

ข้อมูล 1 ม.ค.-11 มี.ค.66 ป่วยแล้วกว่า 2.7 หมื่นราย เสียชีวิต 1 ราย  

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากข้อมูลกรมควบคุมโรค  ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–11 มี.ค. 2566 มีรายงานผู้ป่วย 27,258 ราย อัตราป่วย 41.19 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย ในจังหวัดสงขลา อัตราป่วยตาย 0.005 สาเหตุเกิดจาก เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H1N1

      

ส่วนในรอบสัปดาห์ 12-18 มี.ค.2566 เพิ่มขึ้น 4,059 ราย สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.2566 พบว่ามีรายงานผู้ป่วย 31,317 ราย อัตราป่วย 47.33 ต่อประชากรแสน มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย อัตราป่วยตาย 0.003 สาเหตุเกิดจาก เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H1N1

    

ขณะที่ผู้ป่วยโควิด-19 สะสมตั้งแต่ 1ม.ค.-18 มี.ค.2566 จำนวน 4,563 ราย  ในช่วงสัปดาห์เดียวกัน  12-18 มี.ค.2566 พบรายงานผู้ป่วย 178 ราย 

    

ภาคเหนือป่วยไข้หวัดใหญ่สูงสุด   

ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ เท่ากับ 63.35 ต่อประชากรแสนคน ภาคใต้  63.01 ต่อประชากรแสนคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 42.28 ต่อประชากรแสนคน และภาคกลาง 36.80 ต่อประชากรแสนคน

        

เปิดชื่อ 10 จังหวัดป่วยไข้หวัดใหญ่สูง

จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูง 10 อันดับแรก ได้แก่

1.แพร่ อัตราป่วย 198.62 ต่อประชากรแสนคน

2.พัทลุง 168.71 ต่อประชากรแสนคน

3.อุบลราชธานี 137.42ต่อประชากรแสนคน

4.พะเยา 120.46 ต่อประชากรแสนคน

5.เชียงใหม่ 115.72ต่อประชากรแสนคน

6.ภูเก็ต 110.70 ต่อประชากรแสนคน

7. กรุงเทพมหานคร 84.22 ต่อประชากรแสนคน

8.มุกดาหาร 83.80ต่อประชากรแสนคน

9.น่าน 82.31

10.นครศรีธรรมราช 78.84ต่อประชากรแสนคน

กรมวิทย์พบไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H3N2 มากสุด

สำหรับผลการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในผู้ป่วยกลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (ILI) และกลุ่มอาการปอดบวมจากโรงพยาบาลเครือข่ายของกรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์ ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 ม.–18 มี.ค. 2566 ได้รับตัวอย่างรวมทั้งสิ้น 2,105 ราย ผลตรวจพบเชื้อไข้หวัดใหญ่ 231 ราย แยกเป็นชนิด A/H3N2 จำนวน 135 ราย คิดเป็น 58.44%  ชนิด B จำนวน 70 ราย  คิดเป็น30.30%  และชนิด A/H1N1 (2009) จำนวน 26 ราย คิดเป็น 11.26 %

    

ส่วนในรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 12 มี.ค.–18 มี.ค. ได้รับตัวอย่างผู้ป่วย ส่งตรวจทั้งสิ้น 204 ราย จากโรงพยาบาลเครือข่าย 11 แห่ง พบให้ผลบวกต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 28 ราย 13.73 แยกเป็นชนิด A/H3N2 จำนวน 14 ราย คิดเป็น 50 % ชนิด B จำนวน 10 ราย คิดเป็น 35.71 %  และชนิด A/H1N1 (2009) จำนวน 4 ราย คิดเป็น 14.29 %  จากการติดตามอาการ ผู้ป่วยทั้ง 204 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต

 

แฟ้มภาพสปสช.

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org