เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน มีข่าวใหญ่ เมื่อ คริส เฮมส์เวิร์ธ (Chris Hemsworth) นักแสดงชาวออสเตรเลียวัย 39 ปี ค้นพบว่าเขามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์เนื่องจากปัจจัยทางพันธุกรรม โดยเขาพบว่าเขามีสำเนาของยีน ApoE4 สองชุด ซึ่งสืบทอดมาจากพ่อแม่ของเขาทั้งคู่ หลังจากผ่านการทดสอบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์สารคดีเรื่อง Limitless ของช่อง Disney+ ซึ่งเป็นรายการเกี่ยวกับการสำรวจวิธีที่จะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้น

ต่อมา เฮมส์เวิร์ธกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vanity Fair ว่าผลการทดสอบนี้ยืนยันถึง “ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ของเขา โดยมันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นเพียง 2-3% ของประชากรโลกที่มีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ที่ไม่มียีนทั้งสองสำเนาถึง 10 เท่า และการค้นพบนี้ทำให้เขาต้องตัดสินใจพักจากงานแสดงลง โดยบอกว่า “มันไม่เหมือนกับว่าผมถูกยื่นซองขาวให้ลาออก (จากอาชีพการงาน)” แต่การค้นพบยีนนี้ “กระตุ้นบางอย่างในตัวผมให้อยากหาเวลาพักบ้าง”

“ถ้าคุณดูที่การป้องกันอัลไซเมอร์ ประโยชน์ของขั้นตอนป้องกันก็คือมันจะส่งผลต่อชีวิตที่เหลือของคุณ” เขากล่าว “มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการจัดการการนอนหลับ การจัดการความเครียด โภชนาการ การเคลื่อนไหว ความฟิต เป็นเครื่องมือชนิดเดียวกันทั้งหมดที่ต้องนำไปใช้อย่างสอดคล้องกัน” (1)

จากการเปิดเผยของนักแสดงชื่อดังรายนี้ คงทำให้ความสนใจพุ่งมาที่ยีนที่เขาเอ่ยถึง (และมีอยู่ในตัวเขา) นั่นคือ ApoE4 แต่ว่าในคืออะไร และเกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์อย่างไร?

ApoE4 คือตัวแปรกลุ่มย่อยของ Apolipoprotein E (APOE) เป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญไขมันในร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดย่อยของ APOE มีความเกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์และโรคหัวใจและหลอดเลือด

เท่าที่ทราบ ณ ปี พ.ศ. 2555 ตัวแปร ApoE4 หรือ E4 เป็นปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรมที่ใหญ่ที่สุดที่รู้จักสำหรับโรคอัลไซเมอร์ (AD) พบเจอประปรายในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม ตัวแปร E4 ไม่มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงในประชากรทุกคน ชาวไนจีเรียมีความถี่ในการสังเกตพบยีนอัลลีล (Allele คือรูปแบบหนึ่ง ๆ จากหลาย ๆ รูปแบบของยีนหนึ่ง ๆ) ApoE4 สูงที่สุดในประชากรโลก แต่กลับพบโรคอัลไซเมอร์ได้ยากในหมู่ชาวไนจีเรีย ซึ่งอาจเป็นเพราะระดับคอเลสเตอรอลต่ำ อย่างไรก็ตาม คนผิวขาวและญี่ปุ่นที่มีอัลลีล E4 สองตัวมีความเสี่ยง 10 ถึง 30 เท่าในการเกิดโรคอัลไซเมอร์เมื่ออายุ 75 ปี เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มีอัลลีล E4 เลย (2)

เมื่อปี พ.ศ. 2564 สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health หรือ NIH) หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่รับผิดชอบการวิจัยด้านชีวการแพทย์และสาธารณสุข เผยแพร่ผลการศึกษาเรื่องยีน ApoE4 อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม โดยระบุว่า "ยีนบางชนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อม รวมถึงโรคอัลไซเมอร์ หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรมที่สำคัญที่สุดคือรูปแบบของยีน Apolipoprotein E ที่เรียกว่า ApoE4 ผู้คนประมาณ 25% มีสำเนา ApoE4 หนึ่งชุด และ 2 ถึง 3% มีสำเนาสองชุด ApoE4 เป็นยีนปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับโรคอัลไซเมอร์ แม้ว่าการสืบทอด ApoE4 ไม่ได้หมายความว่าคนๆ หนึ่งจะเป็นโรคนี้อย่างแน่นอน" (3)

รายงานระบุว่า เหตุผลที่ ApoE4 เพิ่มความเสี่ยงของอัลไซเมอร์ยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดี แต่หลักการก็คือ โปรตีน APOE ช่วยนำพาคอเลสเตอรอลและไขมันประเภทอื่น ๆ ในกระแสเลือด และการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ชี้ให้เห็นว่าปัญหาเกี่ยวกับความสามารถของเซลล์สมองในการแปรรูปไขมันหรือไขมัน อาจมีบทบาทสำคัญในโรคอัลไซเมอร์และโรคที่เกี่ยวข้อง โดยความไม่สมดุลของไขมันสามารถทำลายกระบวนการที่สำคัญของเซลล์ได้หลายอย่าง ซึ่งรวมถึงการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ การเคลื่อนย้ายโมเลกุลภายในเซลล์ และการสร้างพลังงาน (3)

ดร. Li-Huei Tsai และดร. Susan Lindquist จากสถาบัน MIT ได้ศึกษาว่า ApoE4 ส่งผลต่อการเผาผลาญไขมันในเซลล์สมองอย่างไร ซึ่งนักวิจัยพบการเปลี่ยนแปลงในการที่แอสโทรไซต์ (Astrocytes) ของ ApoE4 สามารถประมวลผลไขมันได้ แอสโทรไซต์สะสมหยดที่มีไขมันที่เรียกว่าไตรกลีเซอไรด์ ไตรกลีเซอไรด์เหล่านี้มีห่วงโซ่กรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่าปกติ การสะสมไขมันในแอสโทรไซต์ ApoE4  นั้นมากกว่าในแอสโทรไซต์ ApoE3  มาก นักวิจัยยังพบการหยุดชะงักของเมแทบอลิซึมของไขมันเมื่อพวกมันแปรสภาพเซลล์ให้กลายเป็นเซลล์สมองอื่นที่เรียกว่าไมโครเกลีย (Microglia)

โดยสรุปก็คือ การค้นพบนี้เชื่อมโยง ApoE4  กับการประมวลผลคอเลสเตอรอลที่ผิดพลาดในสมอง ซึ่งจะนำไปสู่ข้อบกพร่องในปลอกฉนวนที่ล้อมรอบเส้นใยประสาทและเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกของกระแสไฟฟ้าในระบบประสาท การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้ความจำและการเรียนรู้บกพร่อง

แต่มันยังพอมีหวังอยู่ เพราะงานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่ายาที่ช่วยฟื้นฟูการประมวลผลคอเลสเตอรอลของสมองสามารถรักษาโรคได้ เช่น โครงการยาของ Cyclo Therapeutics ในเกนส์วิลล์ รัฐฟลอริดา ซึ่งหลังจากให้ยาตามโครงการนี้พบว่าการทำงานด้านความรู้ความเข้าใจของแต่ละบุคคลที่ป่วยด้วยอัลไซเมอร์อยู่ในภาวะคงที่ตลอด 18 เดือนของการรักษา (4)

การค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างอัลไซเมอร์ ApoE4 นับเป็นความเชื่อมโยงที่ใกล้เคียงที่สุดแล้ว และเพิ่งจะโยงกันได้ในช่วง 1 ปีมานี้เอง และตามมาด้วยการค้นพบของ คริส เฮมส์เวิร์ธ ว่าตัวเขามียีนนี้ มันน่าจะทำให้วงการวิทยาศาสตร์, การแพทย์ และประชาชนทั่วไปสนใจสาเหตุของอัลไซเมอร์มากขึ้น เพราะมันเป็นหนึ่งในโรคที่มุนษย์เราเข้าใจถึงที่มาที่ไปมันได้ไม่ชัดเจนนัก แม้ในยุคที่วิทยาศาสตร์ก้าวไกลขนาดนี้แล้ว

 

อ้างอิง

1. Kelly Burke. (21 Nov 2022). "Chris Hemsworth to take ‘time off’ from acting after discovering Alzheimer’s risk". The Guardian.

2. Wikipedia contributors. "Apolipoprotein E." Wikipedia, The Free Encyclopedia. Wikipedia, The Free Encyclopedia, 19 Nov. 2022. Web. 21 Nov. 2022.

3. Erin Bryant. (March 16, 2021). "Study reveals how APOE4 gene may increase risk for dementia". NIH Research Matters.

4. Elie Dolgin. (16 November 2022). "This is how an Alzheimer’s gene ravages the brain". Nature.

 

ภาพ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/5/51/TANGLES_HIGH.jpg