เปิดข้อสั่งการ “อนุทิน” ให้ “นพ.สสจ.-ผอ.รพ.” ทั่วประเทศ เตรียมกำลังคน ยา เตียงทั้งอุบัติเหตุ และโควิดช่วงสงกรานต์ให้พร้อม! ขณะที่กรมควบคุมโรค ย้ำฉีดวัคซีนโควิดบูสเตอร์ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 มีประโยชน์ ลดอัตราเสียชีวิต เร่งรณรงค์ช่วงก่อนเทศกาล ขอลูกหลานพาไปรับวัคซีนใกล้บ้าน
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงฯ ระดับสูง มีข้อสั่งการสำคัญในช่วงสงกรานต์ คือ อุบัติเหตุและโควิด-19 ที่จะมาร่วมกัน จึงเป็น 2 เรื่องที่ต้องทำควบคู่กัน ส่วนของโควิดที่จะมีคนเดินทาง ก็จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ จึงมอบให้หน่วยบริการเตรียมรองรับ 7 วันอันตราย ทั้งการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ โดยจะส่งวัคซีนให้ยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) เตรียมกำลังคน ยา เตียงทั้งโควิดและอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์
“สำคัญที่สุดคือให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการรพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป ประจำพื้นที่จัดบริการ จัดกำลังคนทำงาน รองรับการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโควิดที่จะมีการตรวจพบมากขึ้น” นพ.สุระกล่าว
(ข่าวเกี่ยวข้อง : “อนุทิน” สั่งการ รพ.สังกัดทั่วประเทศเปิดวอล์กอินฉีดวัคซีนโควิดเต็มที่ช่วงสงกรานต์)
เมื่อถามถึงวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นที่ 5 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ข้อมูลที่กรมควบคุมโรครวบรวมและนำเสนอต่อที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงฯ พบว่าการฉีดวัคซีนโควิดกระตุ้นเข็มที่ 3 มีประโยชน์อย่างแน่นอน การฉีดวัคซีน 2 เข็มช่วยลดอัตราเสียชีวิต 5-6 เท่า การฉีดเข็ม 3 ลดได้ 30-40 เท่า โดยที่ผ่านมาข้อมูลยืนยันว่า ผู้ที่รับวัคซีน 4 เข็มยังไม่มีรายใดที่ติดเชื้อโควิดแล้วเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม สำหรับเข็ม 5 เรากำลังรวบรวมข้อมูล โดยการเจาะเลือดตรวจภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้รับวัคซีนเข็ม 3 และ 4 เพื่อดูว่าภูมิฯ ลดลงระดับใด แต่ขณะนี้ข้อมูลยังไม่มากพอที่จะระบุว่าจะฉีดเข็ม 5 เมื่อไหร่ แต่ก็ขอให้ทุกท่านมารับเข็ม 4 ก่อน ซึ่งเข้าใจว่าเข็ม 5 น่าจะห่างจากเข็ม 4 เป็นเวลาพอสมควร
“จึงเน้นย้ำว่าการฉีดวัคซีนโควิดบูสเตอร์ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 มีประโยชน์ ลดอัตราเสียชีวิต ซึ่งการรณรงค์ช่วงก่อนสงกรานต์ ได้ผลระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีคนไม่ได้รับวัคซีน จึงเป็นเรื่องที่เน้นย้ำช่วงสงกรานต์ ให้ลูกหลานพาไปรับวัคซีนใกล้บ้าน” นพ.โอภาสกล่าว
แฟ้มภาพ
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 127 views