รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางและมาตรการเปิดกิจการร้านค้าสัญจร งานประเพณี สวนสนุก และสายอาชีพที่เกี่ยวข้อง ที่มีอยู่กว่า 1 แสนราย ให้สามารถเปิดกิจการได้อย่างปลอดภัย ขับเคลื่อนควบคู่กับมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19

วันที่ 26 ตุลาคม 2564  ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับหนังสือและหารือร่วมกับสมาคมการค้าผู้ประกอบการร้านค้าสัญจร  และสมาคม ผู้ประกอบการร้านค้างานประเพณีและสวนสนุก ที่มีผู้ประกอบอาชีพนี้กว่า 1  แสนรายทั่วประเทศ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบข้อมูลและปัญหาความเดือดร้อนจากการหยุดกิจการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ที่ผ่านมา

ขอขอบคุณที่ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ในการปฏิบัติตามมาตรการและคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ประชาชนเข้าใจเรื่องการป้องกันตนเอง ให้ความร่วมมือ และได้รับวัคซีนครอบคลุมในกลุ่มเป้าหมาย รัฐบาลจะเริ่มผ่อนปรน ให้กิจการที่มีความเสี่ยงต่ำเริ่มดำเนินการก่อน

นายวัชรพงศ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอแนวทางปรับมาตรการด้านสังคมภายในประเทศ  ผ่านที่ประชุมศบค. และได้เห็นชอบในหลักการตามที่เสนอ เพื่อผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมสัมมนา การจัดศูนย์แสดงสินค้า นิทรรศการ ในห้างและนอกห้าง  โดยแบ่งเป็นช่วงระยะเวลา เพื่อทยอยเปิดกิจการ คือ ช่วงแรก 16 – 31 ตุลาคม 2564 เป็นการนำร่องจัดกิจกรรมได้ไม่เกิน 500 คน

ระยะที่ 2 วันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2564 สามารถจัดประชุม งานมหกรรมกีฬาและงานแสดงสินค้า งดการชิมอาหาร ทั้งนี้ไม่เกิน 500 คน  และ ระยะที่ 3 วันที่ 1- 31 ธันวาคม 2564 จัดงานประเพณี งานแสดงสินค้า กิจกรรมส่งเสริมการขายในห้างและนอกห้าง และชิมอาหารได้ ไม่เกิน 1,000 คน และระยะที่ 4
วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป สามารถจัดกิจกรรมได้ตามสถานการณ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและรองรับการเปิดประเทศ เพื่อให้คนไทยสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งคาดว่าถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรก็น่าจะสามารถเดินตามแผนการตามระยะต่าง ๆ ที่วางไว้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ที่มติจาก ศบค.

อย่างไรก็ตาม การดำเนินกิจกรรมหรือกิจการใด ๆ ก็ตาม ยังคงอยู่ภายใต้คณะกรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัดทั้งนี้ให้สมาคมฯ ประสานกับพื้นที่ เพื่อขอเปิดกิจการ ภายใต้การควบคุมป้องกันโรคโควิด 19 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจพร้อมกับการป้องกัน กลับมาสู่ภาวะปกติ ให้เร็วที่สุด หากเปิดกิจการได้ยังคงขอความร่วมมือให้เคร่งครัดดำเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำ และให้ประชาชนดำเนินชีวิตปกติแบบวิถีใหม่
 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org