ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดทำ 10 จังหวัด Watch List ที่ยังมีการติดเชื้อโควิดสูง เร่งสนับสนุนการควบคุมโรค ตั้งเป้าลดการติดเชื้อรายวันให้ไม่เกิน 5 พันราย พร้อมเร่งรัดการฉีดวัคซีนทุกจังหวัดให้ได้ร้อยละ 50 ในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ โดยจัดส่งซิโนแวค 1.4 ล้านโดส และแอสตร้าเซนเนก้า 1.4 ล้านโดสสนับสนุนเฉพาะ 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวส่งวัคซีนเพิ่มอีกเกือบ 7 แสนโดส

วันนี้ (15 ตุลาคม 2564) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธาณสุข กล่าวภายหลังประชุมทางไกลร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ ถึงการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 และ การเปิดเมือง ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยอยู่ในระดับทรงตัว มีการติดเชื้อประมาณวันละ 1 หมื่นราย เสียชีวิตเกือบ 100 ราย จึงได้กำชับให้ทุกจังหวัดร่วมกันควบคุมโรคให้การติดเชื้อไม่เกิน 5 พันราย และเสียชีวิตไม่เกิน 30 ราย

รวมถึงคงระบบการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อที่บ้านและที่ชุมชนต่อเนื่อง เพื่อให้โรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยที่มีอาการได้อย่างเพียงพอ สำหรับ ปัจจัยที่ทำให้โรคโควิด 19 เริ่มทรงตัว เนื่องจากบางพื้นที่มีการติดเชื้อลดลง เช่น ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กทม.และปริมณฑล โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าการติดเชื้อของ กทม.น่าจะลดลงจากหลักพันรายเหลือหลักร้อยราย

ส่วนบางพื้นที่ที่ยังมีการติดเชื้อสูงขึ้น คือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ได้เสนอที่ประชุม ศบค.ให้มีการตั้ง ศบค.ส่วนหน้าเพื่อควบคุมสถานการณ์และเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อไม่ได้สูงขึ้นในทุกจังหวัด จึงจัดทำจังหวัด “Watch List” หรือต้องจับตามองที่มีการระบาดในชุมชนเพิ่มขึ้น ต้องได้รับการช่วยเหลือสนับสนุน 10 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี นครศรีธรรมราช ตาก ราชบุรี ระยอง จันทบุรี และนครราชสีมา โดยให้มีการวิเคราะห์สถานการณ์และจัดทำแผนควบคุมโรค เร่งตรวจคัดกรองด้วย ATK ฉีดวัคซีน กลุ่ม 608 ให้ครบ 2 เข็มตามเป้าหมาย สื่อสารมาตรการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา และมาตรการองค์กร COVID Free Setting

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 สามารถฉีดวัคซีนได้ 1,034,549 โดส สะสม 63,614,352 โดส ฉีดเข็มที่ 1 แล้วประมาณร้อยละ 51 ของประชากร กลุ่มนักเรียนนักศึกษาอายุ 12-17 ปี ฉีดแล้ว 864,145 โดส จากแสดงความประสงค์ไว้ 4.07 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 19.2 ขณะนี้ยังไม่พบรายงานอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง โดยในกลุ่มเด็กชายอายุ 12-16 ปี ที่ให้ฉีดเพียงเข็มเดียวก่อนนั้น วันที่ 20 ตุลาคม 2564 จะมีการพิจารณาว่าจะฉีดเข็ม 2 หรือไม่

นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ตั้งเป้าหมายว่าทุกจังหวัดต้องฉีดให้ได้ร้อยละ 50 โดยมีพื้นที่เป็น COVID Free Area 1 แห่งที่ฉีดได้อย่างน้อยร้อยละ 70 และกลุ่ม 608 ฉีดให้ได้ร้อยละ 80 โดยกรมควบคุมโรคจัดส่งวัคซีนซิโนแวคสำหรับฉีดเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 1.4 ล้านโดส และแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 2 อีก 1.4 ล้านโดส

คาดว่าจะส่งถึงพื้นที่วันที่ 19 ตุลาคมนี้ และทยอยส่งทุกสัปดาห์เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย โดยเฉพาะจังหวัดนำร่องท่องเที่ยวรวม 17 จังหวัด รองรับการเปิดเมืองวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ได้จัดสรรวัคซีนซิโนแวคอีก 699,908 โดส
ซึ่งเพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมาย

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org