น.ส.วิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า สิ่งที่ยังน่ากังวลต่อนโยบายการเปิดประเทศรับชาวต่างชาติจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำเข้ามาในประเทศโดยไม่ต้องกักตัว คือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในหลายจังหวัดยังมีจำนวนที่ไม่มากนัก สำหรับพื้นที่อันดามันนั้นไม่น่าเป็นห่วง เพราะได้รับวัคซีนมากกว่า 70 % ของจำนวนประชากรไปแล้ว แต่หากเปิดทั่วประเทศจะมีเงื่อนไขอะไรรองรับบ้าง
“การเปิดประเทศต้องดำเนินตามมาตรการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 70 % หรือมีหลักเกณฑ์ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเปิดแล้วอาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ความรุนแรงของอาการและการเสียชีวิตจะน้อยหากประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง และมีความสามารถในการรองรับด้านสาธารณสุขอย่างเพียงพอ”น.ส.วิชุพรรณกล่าว
นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่กล่าวว่า การเปิดประเทศ 1 พ.ย.นั้นมีความจำเป็น เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีโอกาสฟื้นฟูการท่องเที่ยว หากเปิดไม่ทันช่วงนี้จะสูญเสียโอกาสในการหารายได้ไปไม่น้อยแน่นอน ซึ่งการคลายล็อกเงื่อนไขไม่ต้องผ่านภูเก็ตและสามารถบินตรงไปท่าอากาศยานนานาชาติแต่ละแห่งได้เลยจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะช่วยและลดค่าใช้จ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากขึ้น
น.ส.วิชุพรรณกล่าวว่า สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทย หลังเปิดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ยังมีปัญหาติดขัดเรื่องระบบที่ค่อนข้างซ้ำซ้อนรัดกุม ทำให้บางโรงแรมยังรับลูกค้าไม่ได้ และประสบปัญหากันทั่วประเทศ ซุ่งผู้ประกอบการต่างคาดหวังว่าเมื่อเปิดโครงการแล้วคนจะค่อนข้างตื่นตัว แต่ปรากฏว่าจากวันที่ 8-13 ต.ค. มีคนใช้สิทธิไปแค่ 2 แสนกว่าจาก 2 ล้านสิทธิเพราะติดขัดเรื่องระบบทำให้จองเข้ามาได้ช้า และมีความหวังว่าตลาดต่างประเทศซึ่งเป็นตลาดหลักก่อนหน้านี้จะกระเตื้องขึ้นในช่วงไฮซีซั่น จากเงื่อนไขที่ผ่อนคลายลง
น.ส.วิชุพรรณกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การจะเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สำเร็จได้จะต้องช่วยผ่อนคลายเงื่อนไขของซอล์ฟโลนเพื่อให้กิจการกลับมาเปิดได้ด้วย ไม่ใช่แค่เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแต่กิจการเปิดไม่ได้ เช่นเดียวกับการให้ร้านอาหารขายแอลกอฮอล์ได้ เพราะนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนย่อมคาดหวังจะได้ผ่อนคลาย รวมถึงสถานบันเทิงที่อาจต้องพิจารณาเรื่องมาตรการอย่างเข้มงวด เพราะอาจไม่ใช่แค่เรื่องวัคซีนแต่เป็นเรื่องของการกำหนดระยะห่างที่มีข้อจำกัด
- 3 views