กรมควบคุมโรคแจงสาเหตุพื้นที่ภาคใต้ระบาดหนัก ไม่ใช่เพราะส่วนกลางส่งวัคซีนโควิดน้อย เหตุมีแผนจัดส่งชัดเจน 4 จังหวัดภาคใต้ “นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา” 1,495,400 โดส แต่กรมฯ จัดส่งมากกว่าแผน โดยส่งไปแล้ว 2,085,668 โดส ซึ่งมากกว่าแผนถึงกว่า 5 แสนโดส ทำการฉีดแล้ว 2,256,022 โดส โดยจำนวนนี้มีวัคซีนซิโนฟาร์มอีกกว่า 2 แสนโดส

ตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า สาเหตุที่ทำให้พื้นที่ภาคใต้ระบาดหนัก เนื่องจากส่วนกลางส่งวัคซีนป้องกันโควิด19 จำนวนน้อย ทำให้ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในจังหวัดชายแดนใต้ ว่า สถานการณ์ระบาดภาคใต้ขณะนี้ทรงตัว ไม่ได้พุ่งขึ้นเหมือนที่เรากังวลกัน ยังเป็นการระบาดในชุมชน ซึ่งจะเหมือนกับที่เคยระบาดในกรุงเทพมหานคร(กทม.) ที่เรามีทีมเคลื่อนที่เร็ว หรือ CCRT ลงพื้นที่เพื่อช่วยควบคุมโรค ตรวจคัดกรอง ATK และฉีดวัคซีนในชุมชน โดยทีม CCRT ก็ได้กลับลงไปช่วยพื้นที่ภาคใต้แล้ว ทั้งนี้ สายพันธุ์หลักที่ระบาดยังเป็นเดลต้า ซึ่งเราได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์มาจากต่างประเทศ เช่น ไอซ์แลนด์ เราก็จะส่งไปช่วยในพื้นที่

นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนเรื่องการจัดสรรวัคซีนลงพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ทาง ศบค. มีแผนให้จัดส่งไปจำนวน 1,495,400 โดส ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งลงไป 2,085,668 โดส ซึ่งมากกว่าแผนถึงกว่า 5 แสนโดส ทำการฉีดแล้ว 2,256,022 โดส โดยจำนวนนี้มีวัคซีนซิโนฟาร์มอีกกว่า 2 แสนโดสด้วย แบ่งเป็น นราธิวาส 428,430 โส ฉีดแล้ว 434,345 โดส , ปัตตานี 366,018 โดส ฉีดแล้ว 405,259 โดส , ยะลา 335,030 โดส ฉีดแล้ว 398,886 โดส และ สงขลา 956,190 โดส ฉีดแล้ว 1,017,532 โดส ดังนั้น ที่มีบอกว่าส่งวัคซีนไปน้อย ก็ไม่ถูกต้อง ขอย้ำว่า ทุกคนจะได้ฉีดตามแผนในสิ้นปี 2564 ตามแผน

“ยืนยันว่าเราส่งไปตามเป้า เกินกว่าแผน และวัคซีนไม่ได้ขาด” นพ.โอภาส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผู้อายุ 18 ปีขึ้นไปในบางจังหวัดที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 นพ.โอภาส กล่าวว่า กรมควบคุมโรคส่งโควต้าวัคซีนไป ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ต้องไปกำหนดว่าจะฉีดใครก่อนหลังตามเป้าหมาย เป็นส่วนของพื้นที่ เช่น อำเภอที่ไม่ค่อยระบาดก็อาจได้ฉีดหลังอำเภอที่ระบาด คณะกรรมการฯ ต้องบริหารสถานการณ์ต่างๆ

เมื่อถามต่อว่าการระบาดในภาคใต้ เกิดจากวัคซีนที่ไม่เพียงพอหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า การระบาดต้องใช้หลายมาตรการคู่กัน ทั้งมาตรฐานส่วนบุคคล สังคม การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ ส่วนมาตรการวัคซีนเมื่อฉีดครบ 2 เข็มก็ต้องรอ 2 สัปดาห์ภูมิคุ้มกันก็จะขึ้น ซึ่งก็ต้องทำคู่กันไป เราจะรอเพียงวัคซีนอย่างเดียวไม่ได้ นอกจากนั้นก็คู่กับการสอบสวนโรค โดยเฉพาะคลัสเตอร์ใหญ่

เมื่อถามว่าสูตรการฉีดวัคซีนไขว้ “เข็มที่ 1 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า และเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์” จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงใด นพ.โอภาส กล่าว เป็นสูตรที่เราวางเอาไว้อยู่ในแผนของกระทรวงฯ โดยหลักการ คือ สามารถใช้ได้ แต่พรุ่งนี้(7 ต.ค.) จะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุมอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เพื่อให้การรับรอง

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org