“หมอประสิทธิ์” เตือนอย่าผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไป แม้ตัวเลขป่วยลดลง เหตุหลายประเทศผู้ติดเชื้อยังเพิ่ม! ขณะที่เดลตาอันตรายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ด้าน “หมออุดม” ชี้การระบาดระดับโลกยังอยู่ในช่วงขาขึ้น วางใจไม่ได้ ขอให้อดทนจนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มมากที่สุด เพื่อฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข ด้านศิริราชกำลังศึกษาฉีดไฟเซอร์เข้าผิวหนัง

เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2564 ปธพ.9 และ มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ จัดการเสวนาผ่านระบบออนไลน์ประเด็นสถานการณ์โควิด19 โดย ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สถานการณ์โลก พบว่า หลายประเทศตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ขณะที่ไทย ตัวเลขดูเหมือนลดลง ก็อย่าเพิ่งดีใจ และไม่ควรผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไป ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา เป็นสายพันธุ์ที่ระบาดได้เร็ว ก่อให้เกิดอาการรุนแรงและอันตรายมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม และผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดใด มีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ และมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน พบด้วยว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ยังพบว่ามีปริมาณเชื้อไวรัสในโพรงจมูกแลคอ ไม่แตกต่างจากผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน สำหรับไทย ที่เริ่มเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง ก็ไม่ควรรีบร้อนผ่อนปรน เรายังต้องป้องกันตัวเองสูงสุดต่อไป

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา

ศ.นพ.อุดม คชินทร รองประธานที่ปรึกษา ศบค. กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าการระบาดโรคโควิดของโลกยังเป็นช่วงขาขึ้น เรายังไม่สามารถไว้วางใจได้ การระบาดที่มากขึ้นมีปัจจัยมาจากการที่เชื้อโควิดกลายพันธุ์และดื้อต่อวัคซีนทุกตัวที่มีอยู่ สำหรับไทยที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง ตนคิดว่าเป็นภาพลวงตา เพราะเป็นผลจากการที่เราล็อกดาวน์ตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.-ส.ค. และตั้งแต่ 1 ก.ย. ที่เราคลายล็อก จำนวนผู้ป่วยอาจสูงขึ้น ซึ่งทุกอย่างก็ขึ้นกับทุกคนที่จะช่วยกันคงมาตรการป้องกันตนเองให้มากที่สุด จึงเป็นเหตุผลที่ ศบค. ต้องคงมาตรการต่างๆไว้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพราะต้องการลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ให้ระบบสาธารณสุขรองรับได้ โดยตั้งเป้าไว้ว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ วันละไม่เกิน 5,000 คน ผู้เสียชีวิต ไม่เกินวันละ 50 คน อยากขอร้องให้ทุกคนต้องเคร่งครัดกับมาตรการดูแลป้องกันตัวเอง เต็มที่ ขอให้อดทน 3-4 เดือน เมื่อเราฉีดวัคซีน ครบ 2 เข็มให้ครอบคลุมประชาชนตามเป้าหมายที่วางไว้เมื่อถึง เดือน ธ.ค. ตนก็เชื่อว่า เราจะมีโอกาสผ่อนคลายและได้ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข

ศ.นพ.อุดม กล่าวด้วยว่า กลยุทธ์ในการต่อสู้กับโควิด ปี 2563 เราใช้วิธีล็อกดาวน์ประเทศ ปี 2564 ใช้กลยุทธ์เร่งฉีดวัคซีน ส่วนปี 2565 จะใช้กลยุทธ์การป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล บนแนวคิดของการอยู่ร่วมกันกันโควิด ให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติแบบวิถีใหม่ ทั้งรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจกับสุขภาพ ให้คนไทยได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านได้ ไปร้านอาหารได้ และเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้ สำหรับระยะสั้นช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ เราอาจเปลี่ยนจากการตรวจเชิงรุกในพื้นที่จำนวนมากๆ เป็นเมื่อมีอาการแล้วค่อยมาตรวจ เช่นเดียวกับเมื่อเป็นหวัดก็ไม่หาหมอ เฝ้าระวังด้วยชุดตรวจ ATK ในกลุ่มเสี่ยง เช่น แรงงานในตลาด โรงงาน หากพบการระบาดก็ปิดเป็นจุดๆ ทั้งปรับการล็อคดาวน์เป็นล็อคดาวน์เฉพาะพื้นที่ที่ระบาด อาจเป็นระดับอำเภอหรือตำบล พัฒนาระบบการกักตัวที่บ้าน หรือชุมชน เร่งฉีดวัคซีนให้ทุกกลุ่มอายุ

 

ขณะที่ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผอ.ศูนย์วิจัยคลินิก สาขาโรคติดเชื้อภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ขณะนี้ทั้งที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และอีกหลายหน่วยงาน กำลังศึกษาวิจัย การฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข้าใต้ผิวหนัง ปริมาณครึ่งโดส เป็นเข็มกระตุ้นและเป็นเข็มแรก ซึ่งเบื้องต้นกระตุ้นภูมิได้ดี คาดว่าจะทราบผล 1-2 เดือน ซึ่งเมื่อได้ผลอย่างไรแล้วคณะผู้เชี่ยวชาญ จะดูว่าแนวทางใดเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ก็จะออกคำแนะนำออกมา